นายกฯบอกปมปัญหาที่ดินส.ป.ก.เป็นเรื่องละเอียดอ่อนให้สองกระทรวงเคลียร์กันเอง ด้านปลัดทส.-กษ.เปิดทำเนียบรัฐบาลจับเข่าคุยรอบ 2 แก้ข้อพิพาทที่ส.ป.ก.เขาใหญ่ ลั่นที่ผ่านมาก็ช่างหัวมัน ต่างคนต่างทำหน้าที่ ขอลุยตรวจสอบแนวเขตใหม่หมด ขณะที่ชัยวัฒน์ประกาศงานนี้จบแบบหล่อไม่ได้ ต้องมีคนรับผิดชอบ
ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 4 มี.ค.67 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางเพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-ออสเตรเลีย สมัยพิเศษ ถึงการจัดสรรที่ดินส.ป.ก. จนมีข้อพิพาทกับกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช และล่าสุด นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการ ส.ป.ก. แจ้งความดำเนินคดีกับ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ กรณีถอนหมุดส.ป.ก. ในพื้นที่ติดต่อกับเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะประชุมเป็นการภายใน โดยให้เอาเรื่องที่ดินทำกินประชาชนเป็นที่ตั้ง เพราะเป็นเรื่องใหญ่ การทำเรื่องพวกนี้ละเอียดอ่อน ทั้งประเด็นกฎหมาย เรื่องการทับซ้อน ต้องเอาแผนที่ทหาร 1:4,000 เป็นหลัก ตรงไหนเป็นที่ป่าต้องปล่อยให้เป็นที่ป่า ไม่ไปก้าวก่ายอยู่แล้ว
ผมได้เน้นย้ำว่าทำอะไรต้องมีหลักการ ถ้าเกิดไม่ทำอะไรเลยก็ไม่ผิด ไม่มีการทะเลาะกัน การทะเลาะกันก็ดี จะได้ชำระล้างนโยบายว่าถ้าเราทำถูกต้อง ทำดี ก็จะได้หลุดไป ต้องสอบถามกันให้ชัดเจน ไม่เช่นนั้นประชาชนก็จะไม่มีสิทธิในที่ดินทำกินเสียที นายกฯ กล่าวอีกว่า ตนขอย้ำต้องเอาความต้องการของประชาชนเป็นที่ตั้ง ส่วนกรณีนี้จะยุติได้หรือไม่นั้น ตนไม่ได้มองว่าเป็นปัญหาใหญ่อะไรแต่ต้องทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย
วันเดียวกัน ที่ตึกบัญชาการ 2 ทำเนียบรัฐบาล นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปลัด ทส.) และนายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ปลัด กษ.) ร่วมประชุมแก้ไขปัญหาข้อพิพาทกรณีการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินส.ป.ก. 4-01 ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ระหว่างกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง และได้มีการแถลงข่าวร่วมกันระหว่าง 2 หน่วยงาน
นายจตุพร กล่าวว่า การประชุมวันนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทุกคนให้ข้อเสนอที่เป็นประโยชน์ ทั้ง 2 กระทรวงมีเป้าหมายทำงานเพื่อประชาชน ซึ่งในส่วนของกระทรวงทรัพย์ฯ นอกจากดูแลป่าและทะเลแล้วบางส่วน ก็ดูแลพื้นที่ของประชาชน เช่นเดียวกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ดูแลพื้นที่ทำกินของประชาชน วันนี้เราเอาข้อเท็จจริงมาพูดคุยกันทั้งหมด รวมถึงการวางแนวทางการทำงานร่วมกัน
นอกจากนี้ ทางกระทรวงทรัพย์ฯ ได้เสนอไปทางกระทรวงเกษตรฯ จากนี้การออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินทำกินส.ป.ก. จะต้องมีคณะกรรมการจาก 9 หน่วยงาน ไปร่วมรับรองแนวเขตด้วย สำหรับพื้นที่ที่เป็น Corridor หรือแนวกันชน หรือพื้นที่รอยต่อจะต้องมีการอนุรักษ์ไว้สำหรับสัตว์ป่า ซึ่งถือเป็นนโยบายของรัฐบาล จึงขอไว้เป็นข้อตกลงหรือ MOU ร่วมกันระหว่างสองกระทรวง พร้อมยืนยันว่าจะทำงานอย่างเต็มที่เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งการอนุรักษ์ป่าและสัตว์ป่า รวมถึงประชาชน
ขณะที่ นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวยืนยันว่า พื้นที่กันชนจะไม่มีการนำมาจัดสรรเป็นที่ดินทำกินให้ประชาชน สำหรับพื้นที่บริเวณปัญหาพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จ.นครราชสีมาและปราจีนบุรี จะรอให้คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินแห่งชาติจัดทำ One Map ให้แล้วเสร็จก่อนจนกว่าจะได้ข้อยุติใน 2 เดือนนี้ โดยหากคณะกรรมการชุดดังกล่าวได้ข้อสรุปอย่างไรทั้ง 2 กระทรวงจะยึดตามนั้น แต่อย่างไรก็ตามหาพื้นที่ของส.ป.ก. เป็นพื้นที่ที่มีประโยชน์ต่อการอนุรักษ์ป่า หรือเป็นที่อยู่ของสัตว์ป่า หากจัดสรรที่ดินให้เกษตรกรไปแล้วจะกระทบต่อ ซึ่ง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ขอให้เว้นไว้อาจทำเป็นป่าชุมชน ไม่ให้มีการจัดสรรที่ดินดังกล่าวให้กับเกษตรกร
ปลัดกระทรวงเกษตรฯ กล่าวด้วยว่า การพิสูจน์เกษตรกรที่ได้รับการจัดสรรที่ดินไปแล้วก่อนหน้านี้ ว่าเป็นเกษตรกรตัวจริงหรือไม่นั้น ตนได้คำสั่งมอบหมายไปยังผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรฯ ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ ให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการระดับเขตและระดับจังหวัด เพื่อตรวจสอบว่า เกษตรกรที่เป็นเจ้าของเอกสารสิทธิ์ทั่วประเทศ เป็นเกษตรกรตัวจริงหรือไม่ แต่หากไม่ใช่เกษตรกรตัวจริง จะต้องดำเนินการยกเลิกเอกสารสิทธิ์ดังกล่าว และให้ดำเนินการทางวินัยกับข้าราชการที่ออกเอกสารสิทธิที่ไม่ใช่เกษตรกร พร้อมยืนยันว่าพื้นที่ใดที่เป็นอุปสรรคหรือมีปัญหาเรื่องการทับซ้อน จะมีการส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติโดยใช้วันแมปเป็นตัวตัดสิน
ด้าน นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า ตนได้คุยกับเลขาฯส.ป.ก.แล้ว จะมีการกำหนดทีมงานเพื่อทำงานร่วมกัน โดยมีการวางกรอบระยะทำงาน 30 วันแรก เป็นการวางขอบเขตของทั้ง 2 หน่วยงาน ว่ามีพื้นที่ทับซ้อนหรือไม่ตรงกันหรือไม่ ซึ่งจะทำให้ทราบว่าทั้งประเทศมีพื้นที่ใดบ้างที่ไม่ตรงกัน ซึ่งภายใน 1 เดือนนี้ พื้นที่ใดไม่มีปัญหาเรื่องการทับซ้อน ก็จะสามารถส่งเรื่องให้ คณะกรรมการ One Map ส่วนที่เหลือจะรอการจัดทำพื้นที่ร่วมกันของคณะกรรมการ One map
ส่วน นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาฯส.ป.ก. กล่าวว่า เมื่อที่วันที่ 23 ก.พ.ที่ผ่านมา ตนได้มีหนังสือไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ แต่งตั้งคณะทำงานประกอบด้วย 9 หน่วยงาน ว่ามีการทับซ้อนหรือรุกล้ำหน่วยงานใดหรือไม่ เพื่อเข้ามาเป็นคณะทำงานช่วยดูว่า การออกเอกสารสิทธิ์ของส.ป.ก.ทับซ้อนหรือไม่ หรือรุกล้ำหน่วยงานใดหรือไม่ เพื่อให้ยืนยันว่า ส.ป.ก.ออกเอกสารสิทธิ์ถูกที่ ถูกทาง ไม่ไปล้ำที่ป่าไม้ หรือสถานที่สำคัญของหลวง ยืนยันว่า จากนี้พื้นที่ตรงไหน ที่มีปัญหาทับซ้อนกันเราจะไม่ทะเลาะกัน จะส่งเรื่องให้คณะกรรมการ One Map พร้อมกับยังระบุอีกว่า หากพื้นที่ใดเข้าใกล้พื้นที่กันชนหรือพื้นที่เตรียมการสำหรับการอนุรักษ์ อยากให้ ผ่านกรมอุทยานแจ้งมายังส.ป.ก. เพราะก่อนหน้านี้ต่างคนต่างทำงาน และต่อจากนี้จะทำงานใกล้ชิดกันมากขึ้น
อดีตที่ผ่านมาก็ช่างหัวมัน เพราะสุดท้ายต่างคนก็ต่างทำหน้าที่ เพราะสุดท้ายพี่นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ ก็ต้องทำงานให้ชาวบ้าน ผมก็ต้องทำงานให้ชาวบ้าน เพียงแต่ว่าเจตนารมณ์ของแต่ละหน่วยงาน มีมิติการทำงานไม่ตรงกัน พี่ชัยวัฒน์มีหน้าที่อนุรักษ์ ส่วนผมก็มีหน้าที่หาที่ดินให้คน ผมก็ต้องทำตามหน้าที่ ซึ่งวันนี้ก็ต้องมาคุยกัน แต่วันที่ 23 กุมภาพันธ์ ได้ทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการ ให้ทำหนังสือ จะได้ดูแลการทำงาน ไม่ต้องเกิด Config กันในอนาคต ทุกคนยอมรับด้วยกัน ส.ป.ก.ออกพื้นที่ตรงนี้ได้นะ หากไม่ได้ก็แย้งมา ก็จะหยุดเพื่อมาดูในรายละเอียด
เลขาฯส.ป.ก. กล่าวอีกว่า ไม่ต้องกังวลเรื่องเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.ที่ได้ออกไปแล้ว ตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการคุยกันของรัฐ และหากที่สุดแล้วมีมติออกมาเป็นอย่างไร ประชาชนที่ได้รับผลกระทบรัฐจะเยียวหาให้แน่นอน ซึ่งพื้นที่ที่มีปัญหาส่วนใหญ่จะเป็นแนวตะเข็บรอยต่อ คณะกรรมการวันแมปจะรับผิดชอบดูแล แต่ตอนนี้อะไรที่ยังไม่ชัดเจนขอให้ใช้ชีวิตตามปกติสุขไป
สำหรับเรื่องคดีความที่ 2 หน่วยงานแจ้งความดำเนินคดีไว้นั้น ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ระบุว่าทั้ง 2 หน่วยงานตกลงกันว่าจะให้ดำเนินการตรวจสอบแนวเขตให้เสร็จสิ้นภายใน 2 เดือน ส่วนคดีความตนจะรับผิดชอบเอง จึงไม่มีปัญหาขอให้ทุกอย่างดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ให้รอข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย และหลักวิทยาศาสตร์ หลังจากวันแมปชี้ขาดเส้นแนวเขตแล้ว เรื่องคดีค่อยมาพูดคุยกัน
ด้าน นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีกระทรวงเกษตรฯ กล่าวว่า ที่ส.ป.ก.ไปแจ้งความเอาผิดนายชัยวัฒน์ ตามพ.ร.บ.ปราบปรามการทุจริตฯ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะใช้เวลาแสวงหาข้อเท็จจริง 30 วัน ก่อนส่งสำนวนให้ ป.ป.ช. เพื่อเอาผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 159 เนื่องจากนายชัยวัฒน์เข้าไปดำเนินการถอนหมุด ส.ป.ก. โดยที่เข้าใจว่าเป็นพื้นที่อุทยาน แต่ ส.ป.ก.ไปแจ้งความเอาผิดเพราะ ส.ป.ก.บอกเป็นพื้นที่ของ ส.ป.ก. ดังนั้นนายชัยวัฒน์จะเจตนาหรือไม่อยู่ที่ความตั้งใจ ซึ่ง ป.ป.ช.จะตรวจสอบต่อไป แต่ในระหว่าง 2 หน่วยงานได้ปรับความเข้าใจจนได้ข้อยุติแล้ว
ส่วน นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า เรื่องแจ้งความเป็นกฎหมายอาญาต้องมีการพิสูจน์ และคาดการณ์ว่าเขาก็ต้องแจ้งความเรา เนื่องจากตนไปถอนหมุดเขามา หากเขาไม่แจ้งก็แสดงว่าหลักนั้นเป็นหลักเถื่อน เป็นหลักเท็จ ซึ่งทั้ง 2 ฝ่าย ยื่นหลักฐานมาตัดสินกันไม่ได้ก็ต้องให้คณะกรรมการเป็นคนตัดสินตามหลักฐานที่มี หากตัดสินว่าเป็นพื้นที่ในเขตส.ป.ก. ตนรับเต็มทั้งเรื่องแจ้งความเท็จ หรือเรื่องอื่นๆ แต่หากอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ตนก็จะฟ้องกลับเช่นเดียวกัน ไม่ว่าใครที่สั่งการ วันนี้จะจบแบบหล่อๆไม่ได้ เพราะเหตุที่เกิดขึ้นเกิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า เราก็พยายามที่จะสื่อสารมาโดยตลอด แต่ไม่เป็นผล วันนี้ได้ข้อยุติระดับหนึ่ง ซึ่งรออีก 2 เดือนว่าพื้นที่ตรงนี้จะเป็นของใคร ยืนยันว่าหลักฐานเรามีเพียงพอที่จะยืนยันว่าเป็นพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
ที่บอกว่าจะจบแบบหล่อๆ ไม่ได้ คือจะจบแบบไม่มีใครผิดไม่ได้ งานนี้ต้องมีคนผิด เมื่อเขาไม่ผิด ผมก็ต้องผิด เพราะเราทิ้งตัวแล้ว ไม่ใช่ว่าผมจะเกษียณแล้วทิ้งตัว แต่ผมสู้มาตลอดชีวิต การจะจบโดยไม่มีใครผิดไม่ได้ ใครที่ทำหลักฐานเท็จ ใครออกโฉนดโดยมิชอบต้องมีคนผิดหากเขาไม่ผิด ผมก็ต้องผิด ซึ่งต้องรับผิดชอบการกระทำของตนเองอยู่แล้ว นายชัยวัฒน์ กล่าว