เมื่อวันที่ 23 ก.พ.67 พ.ต.อ.หญิง ฉันฉาย รัตนพานิช รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2567 เป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา คือวันมาฆบูชา และมีวันหยุดชดเชยรวม 3 วัน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่อาจเดินทางไปทำบุญตามภูมิลำเนาหรือสถานที่ต่างๆ รวมทั้งข้อกฎหมายที่มีความผิดในการจำหน่ายสุราในวันสำคัญทางพุทธศาสนา จึงสั่งการให้หน่วยต่างๆ ดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินพี่น้องประชาชน และอำนวยคามสะดวกการจราจร รวมทั้งประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ไปยังพี่น้องประชาชน
สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนไปยังผู้ประกอบการร้านค้า และพี่น้องประชาชน ให้งดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด ทั้งชนิดขายส่งและขายปลีกทั่วราชอาณาจักร ตลอด 24 ชั่วโมง คือหลังเวลา 24.00 น. ของคืนวันที่ 23 ก.พ. 67 ไปจนถึงเวลา 24.00 น. ของคืนวันที่ 24 ก.พ. 67 ยกเว้นเฉพาะร้านค้าปลอดอากรภายในอาคารท่าอากาศยานนานาชาติ หากฝ่าฝืนมีความผิดตาม มาตรา 39 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมทั้งห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทางช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือช่องทางออนไลน์ต่างๆ ด้วย
หากฝ่าฝืนมีความผิดตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วยวิธีการหรือในลักษณะการขายทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2563 มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือ ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ พร้อมมอบหมายให้กองบัญชาการตำรวจนครบาล , ตำรวจภูธรภาค 1-9 และกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง จัดสายตรวจออกตรวจตราในพื้นที่รับผิดชอบ โดยเน้นการตรวจตราสถานบริการ สถานบันเทิง ร้านข้าวต้มโต้รุ่ง คาราโอเกะ ร้านอาหารตามสั่งริมทาง สถานีขนส่งโดยสารสาธารณะ สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง วัด สวนสาธารณะ อย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันปราบปรามการกระทำผิด และดูแลความปลอดภัยพี่น้องประชาชน
ส่วนด้านการอำนวยความสะดวกการจราจร ให้จัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกการจราจรในจุดที่มีการจราจรหนาแน่นให้เกิดความสะดวกรวดเร็วและปลอดภัย จัดระเบียบการจัดรถ โดยเฉพาะในจุดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ วัดและสถานที่สำคัญทางศาสนา และจัดการจราจรในพื้นที่รอยต่อ ประสานการปฏิบัติงานอย่างใกล้ชิด ตลอดจนให้เตรียมอุปกรณ์ในการปฏิบัติหน้าที่ อุปกรณ์การเคลื่อนย้ายยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุกีดขวางในเส้นทางการจราจร
รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวด้วยว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติสั่งการเน้นย้ำไปยังทุกหน่วยทั่วประเทศ ในการดูแลความปลอดภัยพี่น้องประชาชนทุกมิติ พร้อมขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนช่วยกันสอดส่องดูแล เป็นหูเป็นตา หากพบเห็นการกระทำผิด หรือต้องการความช่วยเหลือ สามารถแจ้งเบาะแสและข้อมูลข่าวสารมายังโทรศัพท์ สายด่วน 191 และ 1599 ตลอด 24 ชั่วโมง