“รัฐบาล” เชิญชวนร่วมทำบุญ “วันมาฆบูชา” คาดจะมีเงินสะพัดกว่าสูงสุดในรอบ 4ปีกว่า 2,500ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนกว่า 3% เตือนภัย คนบาปในคราบนักบุญ! กลลวงมิจฉาชีพหลอกเวียนเทียนออนไลน์

เมื่อวันที่ 12 ก.พ.68 ที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ประธานพิธีฝ่ายสงฆ์ และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม เป็นประธานในพิธีฝ่ายฆราวาส ในพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ตักบาตรพระสงฆ์ 73 รูป เวียนเทียน และสักการะพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากสาธารณรัฐประชาชนจีน เนื่องในวันมาฆบูชา พุทธศักราช 2568

ด้าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เนื่องใน "วันมาฆบูชา" วันนี้และเป็นวันหยุดราชการประจำปี   เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชนและช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ประชาชน รวมทั้งช่วยลดปัญหาจราจรติดขัดบริเวณหน้าด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษ  การทางพิเศษแห่งประเทศไทย ยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษ  3 เส้นทาง 61 ด่าน ประกอบด้วย (1) ทางพิเศษเฉลิมมหานคร (ทางด่วนขั้นที่ 1) จำนวน 20 ด่าน (2) ทางพิเศษศรีรัช (ทางด่วนขั้นที่ 2) จำนวน 31 ด่าน (3) ทางพิเศษอุดรรัถยา (บางปะอิน-ปากเกร็ด) จำนวน 10 ด่าน

ทั้งนี้  มาตรการยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษ จะเป็นส่วนสำคัญที่จะเป็นการเชื่อมโยงเศรษฐกิจ ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน และขับเคลื่อนประเทศไทย ซึ่งจากข้อมูลรายงานผลการสำรวจการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนในวันมาฆบูชา และวันวาเลนไทน์ คาดจะมีเงินสะพัดราว 5,200 ล้านบาท โดยวันมาฆบูชาจะมีเงินสะพัดราว 2,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 2.81% สูงสุดในรอบ 4 ปี  ส่วนข้อมูลจากการคาดการณ์ในช่วงวันวาเลนไทน์ในปีนี้จะมีเงินสะพัดราวเกือบ 2,700 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่าสูงสุดในรอบ 6 ปี นับตั้งแต่ปี 2563 

“วันมาฆบูชา รัฐบาลบูรณาการจัดกิจกรรมร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ รวมทั้งส่งเสริมการเปิดพื้นที่จัดเทศกาล งานประเพณีและกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา เพื่ออนุรักษ์วิถีวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น รวมทั้งส่งเสริมการสร้างรายได้ด้วยการจำหน่ายสินค้าและบริการ ทางด้านศรัทธา ความเชื่อ และวัฒนธรรมประเพณีตามบริบทของแต่ละจังหวัด ขับเคลื่อน Soft Power เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนรอบวัดและศาสนสถาน ส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวและบริการ ซึ่งเป็นโอกาสอันดีที่ประชาชนจะได้มีโอกาสร่วมสืบสานอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีอันดีงาม ขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชน เข้าร่วมกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา เนื่องในวันมาฆบูชา ประจำปี 2568 ทุกพื้นที่การจัดกิจกรรมทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ” นายอนุกูล กล่าว

ด้าน นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันมาฆบูชา เป็นอีกวันหนึ่งที่มีความสำคัญของชาวไทยพุทธ โดยทั่วไปในวันมาฆบูชาจะนิยมทำบุญตักบาตร ฟังพระธรรมเทศนา ถวายสังฆทาน เวียนเทียนรอบอุโบสถเพื่อความเป็นสิริมงคล โดยปัจจุบันชาวไทยพุทธบางส่วนอาจไม่มีเวลามากพอในการทำกิจกรรมในวันสำคัญทางศาสนา จึงเลือกใช้บริการผ่านช่องทางออนไลน์ ขอย้ำเตือนให้ระมัดระวังภัยกลลวงของมิจฉาชีพที่อาศัยวันสำคัญทางศาสนาในการหลอกลวง ขอให้ระมัดระวังการกดลิงก์จากข้อความ SMS หรือ URL เว็บไซต์ที่ส่งเข้ามาผ่านอีเมลหรือช่องทางออนไลน์ที่แอบอ้างว่าเป็นลิงก์การเวียนเทียนออนไลน์ เพราะอาจเป็นลิงก์ปลอมที่ส่งผลให้เงินของผู้บริโภคหายไปจากบัญชีโดยไม่รู้ตัวและอาจถูกมิจฉาชีพขโมยข้อมูลส่วนบุคคลอีกด้วย

สำหรับข้อควรระวัง มีดังนี้ 1. ขอให้หลีกเลี่ยงเว็บไซต์เวียนเทียนออนไลน์ที่ให้ใส่ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น เลขประจำตัวประชาชน เลขบัญชีหรือมีการส่งเลข OTP ให้เพื่อใช้กรอกข้อมูล เนื่องจากการเวียนเทียนออนไลน์ไม่จำเป็นต้องกรอกข้อมูลส่วนบุคคลเหล่านี้ 2. หลีกเลี่ยงการกดลิงก์จากเบอร์แปลกปลอมที่ส่ง SMS ชวนเวียนเทียนออนไลน์ เนื่องจากที่ผ่านมาพบว่า มีมิจฉาชีพฉวยโอกาสช่วงเทศกาลต่าง ๆ ในการส่ง SMS พร้อมแนบลิงก์ให้กด และเมื่อใครเผลอกดเข้าไป ก็อาจถูกดูดเงินจากบัญชีธนาคารจนหมด และ 3.หลีกเลี่ยงการติดตั้งแอปพลิเคชันที่แปลกปลอมที่แอบอ้างเป็นการเวียนเทียนหรือให้ทำบุญออนไลน์ เนื่องจากอาจเป็นกลลวงของมิจฉาชีพที่หลอกให้ติดตั้งเพราะอาจเป็นแอปพลิเคชันที่มิจฉาชีพสามารถใช้ระบบการควบคุมระยะไกลเพื่อดูดเงินออกจากบัญชีของผู้บริโภค

“จะต้องไม่เปิดอ่านหรือกดลิงก์ใน SMS แปลกปลอม หรือติดตั้งแอปพลิเคชันที่มิจฉาชีพหลอกให้ติดตั้ง กรณีมีการส่ง SMS ที่ผิดปกติ ควรโทรศัพท์ตรวจสอบกับสายด่วนของธนาคาร หรือหน่วยงานนั้น ๆ โดยตรง หากต้องการติดตั้งแอปพลิเคชันใด ๆ ควรโหลดและติดตั้งจาก Google Play store หรือ Apple Store เท่านั้น อย่าเชื่อคำแนะนำของคนร้ายให้กดเข้าเบราว์เซอร์อื่น มิจฉาชีพอาจใช้วิธีการหลอกลวงในรูปแบบให้สแกน QR Code หรือเพิ่มเพื่อนไลน์ทาง ID Line จึงไม่ควรสแกนหรือเพิ่มเพื่อนไลน์ทาง ID Line จากคนที่ไม่น่าเชื่อถือ” นายคารม กล่าว