วัฒนธรรมใหม่ข้ามทางม้าลาย! "วุฒิสภา" สานพลัง “สสส.-กทม.” Kick off “ยกมือข้ามทางม้าลาย...แสดงสัญลักษณ์ขอความปลอดภัยเมื่อข้ามถนน” หยุดรถให้คนข้ามทางม้าลาย สร้างวัฒนธรรมใหม่เพื่อความปลอดภัยของคนข้ามถนน
วันที่ 22 ก.พ.2567 ที่โรงเรียนวัดสร้อยทอง กรุงเทพฯ นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะประธานคณะกรรมการบูรณาการกู้ชีพฉุกเฉิน และความปลอดภัยทางถนน วุฒิสภา ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กทม. สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ และภาคีเครือข่าย จัดกิจกรรม Kick off ยกมือข้ามถนน หยุดรถให้คนข้ามทางม้าลาย สร้างจิตสำนึกและวัฒนธรรมการใช้รถใช้ถนนต่อเนื่อง
โดยนายสุรชัย กล่าวว่า การรณรงค์ “ยกมือข้ามถนน หยุดรถให้คนข้ามทางม้าลาย” นำร่องที่ รร.วัดสร้อยทอง หวังให้เป็นโมเดลยกมือข้ามทางม้าลายเป็นแห่งแรก เพื่อให้เด็กนักเรียนมีความเข้าใจด้านความปลอดภัยทางถนนตั้งแต่วัยเยาว์ สร้างสัญลักษณ์การยกมือขณะข้ามทางม้าลายเป็นการขอทาง...เมื่อผู้ขับขี่เห็นสัญลักษณ์ต้องหยุดรถให้คนข้ามทางม้าลาย ปฏิบัติให้เกิดวินัยจราจรในสังคมไทย สร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนน พร้อมขยายไปยังโรงเรียนอื่นๆ ใน กทม. และทั่วประเทศ
ด้านดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า จากการรณรงค์ หยุดสูญเสีย หยุดรถให้คนข้ามทางม้าลาย ความดีที่คุณทำได้ ได้ผลักดันความปลอดภัยบนทางม้าลาย ทั้งกลุ่มคนเดินข้ามและผู้ขับขี่ยานพาหนะ ทุกภาคส่วนยังรณรงค์อย่างต่อเนื่อง และขยายไปยังกลุ่มเด็กเล็ก เพราะทั้งกายภาพทางร่างกายที่ตัวเล็กผู้ขับขี่อาจมองไม่เห็นรวมถึงการตัดสินใจ อาจเป็นปัจจัยเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุขณะข้ามทางม้าลายได้ มีตัวอย่างโรงเรียนของญี่ปุ่น และสิงคโปร์ ที่สอนให้เด็กยกมือขณะข้ามทางม้าลายด้วยความระมัดระวัง จึงนำมาปรับใช้โดยเริ่มต้นจากการปลูกฝังในเด็ก-เยาวชน ซึ่งสามารถทำให้ผู้ขับขี่เห็นเด็กได้ชัดเจนยิ่งขึ้น และมีครูเป็นต้นแบบนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้ถนนให้ปลอดภัยได้ กิจกรรมที่จัดให้กับโรงเรียนวัดสร้อยทอง เป็นการเรียนรู้เรื่องกฎจราจรและความปลอดภัยของการใช้รถใช้ถนน เช่น เรียนรู้สัญญาณจราจร จำลองสถานการณ์ สร้างจิตสำนึกการใช้รถใช้ถนน ความสำคัญของการสวมหมวกนิรภัยและการใช้ทางข้ามทางม้าลายให้ปลอดภัย
“เชิญชวนนักเรียน ครูอาจารย์ คนข้ามถนน สร้างวัฒนธรรม ให้ยกมือขึ้นสูงเหนือศีรษะแสดงสัญลักษณ์ให้ผู้ขับขี่รถมองเห็นชัดเจน ว่ากำลังจะข้ามถนนที่ทางม้าลาย เพื่อสร้างวัฒนธรรมใหม่ในการข้ามถนน และฝากถึงผู้ขับขี่รถควรต้องชะลอเมื่อเห็นสัญลักษณ์ทางม้าลาย และหยุดรถให้คนข้ามถนนทุกครั้ง โดยเฉาะพื้นที่หน้าโรงเรียนควรเป็นพื้นที่ปลอดภัย ลดความเร็วรถให้ปลอดภัยซึ่ง WHO แนะนำไว้ที่ไม่เกิน 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง”
ขณะที่นายวิรุตน์ กระรันต์ ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดสร้อยทอง กล่าวว่า รร.วัดสร้อยทอง ขอขอบคุณ คกก.บูรณาการกู้ชีพฉุกเฉินฯ วุฒิสภา สสส. เจ้าหน้าที่ตำรวจ และภาคีเครือข่ายที่มาให้ความรู้ความปลอดภัยทางถนนกับครู และเด็กนักเรียน เพราะความปลอดภัยทางถนนไม่ใช่เรื่องที่สามารถเรียนรู้ได้เพียงครั้งเดียว ต้องสร้างความตระหนักรู้ตั้งแต่วัยเด็ก ปลูกจิตสำนึกวินัยจราจร ที่เริ่มตั้งแต่เรื่องง่าย ๆ เช่น สวมหมวกกันน็อก มารยาทในการใช้ถนน การข้ามทางม้าลาย สิ่งเหล้านี้เป็นสิ่งจำเป็นของเด็กทุกคนที่ต้องใช้รถใช้ถนนในทุกวัน นอกจากนักเรียนได้เรียนรู้แล้วความรู้ที่ได้ในวันนี้ ยังสามารถส่งต่อไปยังผู้ปกครองให้ใช้ถนนอย่างปลอดภัยได้อีกด้วย