เมื่อเอ่ยถึง เพลงลูกทุ่งอีสาน เชื่อว่าหลายคนคงจำ เนื้อร้อง และทำนองได้ ติดหู วันนี้ สยามรัฐออนไลน์ พาไปรู้จัก เพลงลูกทุ่งอีสาน ว่ามีความเป็นมาอย่างไร โดย เพจเฟซบุ๊ก ชินวัฒน์ ตั้งสุทธิจิต ได้เผยแพร่  กึ่งศตวรรษเพลงลูกทุ่งอีสาน ตอนที่ 6 ต่อจากตอนที่แล้ว ไว้ดังนี้


กึ่งศตวรรษเพลงลูกทุ่งอีสาน (6)  

อีสานมีพื้นฐานทางร่องเสียงสำเนียงที่เหนียวแน่นสองฝั่งโขงอยู่กับกลอนลำ ที่ขับลำเล่าเรื่องเป็นท่วงทำนองอย่างเสรีเน้นเสียงสูง - ต่ำไม่มีโน้ตตายตัวที่เอื้อนโหยหวนและเล่นลูกคอ เป็นมรดกตกทอดจากการสวดพระมาลัย หรือ สวดคฤหัสถ์ โดยเล่าเรื่องที่นิยมเรียกว่า หมอลำกลอน หรือหมอลำต่อกลอน ด้วยท่วงทำนองแหล่มหาชาติ โดยเฉพาะทำนองท้องถิ่นที่มีสำเนียงแตกต่างกันไป โดยอาศัยเรื่องราวอยู่ใบบทเล่าเรื่อง จะเป็น กลอนร่าย ,กลอนลำ และกลอนร้อง ด้วยคำคล้องจองอย่างเสรีเต็มที่

เพลงลูกทุ่งอีสาน แรกเริ่มมีพื้นฐานแบบนี้อยู่เต็มเปี่ยมและนำเอามาสร้างสรรค์ได้อย่างเสรี พรอมกับเรื่องราวในชีวิตประจำวันในบทเพลง 

ดาว บ้านดอน เป็นดาวดวงเด่นอีกคนในนักร้องลูกทุ่งฝ่ายชายที่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในสี่เพชรอีสาน ที่เริ่มโด่งดังจากเพลง ลำเพลินเจริญ ซึ่งมีความสามรถทั้งลีลาการร้องที่เป็นอดีตสามเณรที่มีพื้นฐานนักเทศน์หาชาติเมื่อครั้งยังบวชอยู่ และซึมซับทางภาษาจึงสั่งสมที่แต่งเพลงได้ระดับครูเพลงคนสำคัญ

ดาว บ้านดอนเขามีชื่อจริงว่า เทียม เศิกศิริ เป็นชาว  บ้านดอนมะยาง ตำบลตลาดทอง อำเภอเมืองยโสธร จังหวัดยโสธร เป็นลูกหลานชาวนาโดยกำเนิด มีพี่น้องทั้งหมด 7 คน เขาเป็นคนที่ 6 เป็นลูกกำพร้าพ่อตั้งแต่เด็ก จึงมีแม่เป็นเพียงเสาหลักที่หาเลี้ยงส่งเสียพี่น้องทั้ง 7 คน

เมื่อเรียนหนังสือจบขั้นฐานะสมัยนั้นแค่ ป.4 ไม่มีโอกาสเรียนต่อทั้ง ๆที่เป็นคนเรียนเก่งความจำดี จึงได้มาบวชเป็นสามเณร ได้เริ่มหัดเทศน์ทำนองและแหล่จนชำนาญ เป็นสามเณรเสียงทองที่มีปฏิภาณเป็นเลิศกลายเป็นสามเณรนักเทศน์แหล่อันดับต้น ๆ ในแผ่นดินที่ราบสูงในสมัยนั้น จนกระทั่ง เทพบุตร สติรอดชมภู เห็นแววจึงชักชวนว่าถ้าบุญในผ้าเหลืองหมดจะสิกขาลาเพศสมณจะลองเป็นหมอลำจะยินดีสนับสนุน 

ความใฝ่ฝันตั้งแต่ยังบวชเป็นสามเณรที่อยากจะเป็นนักร้องลูกทุ่ง ในที่สุดก็ลาสึกขาออกมาแสดงหมอลำและร้องเพลงลูกทุ่ง แต่ชีวิตใช่ว่าจะโรยด้วยกลีบกุหลาบ ต้องดิ้นรนตระเวนประกวดร้องเพลงตามสนามเวทีต่าง ๆ เพื่อพิสูจน์ความสามารถ เริ่มต้นจากวงเพชรสำราญ เป็นวงดนตรีหมอลำในแถวท้องถิ่น มีผลงานเพลงแรกคือ หนุ่มยโสธร แต่ยังไม่เป็นที่รู้จักและแฟนเริ่มต้นรับเขาอย่างเต็มที่จากเพลง ลำเพลินเจริญใจ เป็นเพลงแจ้งเกิด ก่อนจะโด่งดังด้วยผลงานประพันธ์เองแต่งจากเพลง คนขี่หลังควาย  ได้รับรางวัลเสาอากาศทองคำ และกึ่งศตวรรษลูกทุ่งครั้งที่ 2 

ดาว บ้านดอน ยังได้ร้องเพลงของอินทรีอีสานอย่าง ครูพงษ์ศักดิ์ จันทรุกขา ในเพลง รอรักใต้ต้นกระโดน และ ราชสีห์อีสาน สุรินทร์ ภาคศิริ สวรรค์แม่น้ำมูน ,สั่งสาวชายแดน โดยเฉพาะเพลงหลังนี้อินโทรท่วงทำนองเพลงนี้นี่เอง น่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้ ดาว บ้านดอน นำไปแต่งและปรับจังหวะจนกลายเป็น น้ำตาหล่นบนที่นอน  ของ ฮันนี่ ศรีอีสาน อันโด่งดัง

เส้นทางการเป็นนักร้องที่ควบนักแต่งเพลงอาศัยทั้งพรสวรรค์และพรแสวงมีความพยายามเราแต่งไม่เก่งแต่อาศัยฟังวิทยุมั้งแล้วก็ซื้อหนังสือเพลงของนักร้องคนนั้นคนนี้เอามาศึกษาดาว บ้านดอน เขายังแต่งเพลงลูกทุ่งอีสาน - ลูกทุ่งหมอลำให้เด็กเพื่อนร่วมรุ่นยุคสมัย และรุ่นน้องที่กลายเป็นลูกศิษย์อีกมากมายหลายคน เช่น นกน้อย อุไรพร,ฮันนี่ ศรีอีสาน ,สมจิตร บ่อทอง ,จินตรา พูนลาภ,แสงอรุณ บุญยู้,ดอกฟ้า บ้านดอน ,ดอกอ้อ ทุ่งทอง ,มนต์สิทธิ์ คำสร้อย ,ลูกแพร ไหมไทย, สมมาตร ราชสีมา,พรชัย วรรณศรี,พิมพา พรศิริ และ คะนองนา กาฬสินธุ์ เป็นต้น

นอกจาก ดาว บ้านดอน ยังข้ามฟากมาแต่งเพลงให้นักร้องในกลุ่มน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา อย่าง ศรเพชร ศรสุพรรณ และ สดใส ร่มโพธิ์ทอง อีกด้วย

ที่มา:เพจเฟซบุ๊ก ชินวัฒน์ ตั้งสุทธิจิต