“สมศักดิ์” เคาะ “คณะกรรมการเร่งรัดการเสนอร่าง พ.ร.บ.” ติดตามกฎหมาย 10 ฉบับ เพื่อเร่งเสนอให้ ครม.พิจารณา เผย ทำงานเร็ว ส่งให้ครม.ถกแล้ว 1 ฉบับ มอบ “สมคิด”ติดตามที่เหลือ ชี้ รัฐบาล ให้ความสำคัญปรับปรุงกฎหมาย หลังเป็นกลไกสำคัญยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน

วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2567 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตนได้รับมอบหมายจากนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้เป็นประธานคณะกรรมการเร่งรัดการเสนอร่างพระราชบัญญัติเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งได้มีการประชุมคณะกรรมการชุดนี้แล้ว เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา โดยได้ข้อสรุปร่างพระราชบัญญัติของคณะรัฐมนตรี และส่วนราชการ ที่ควรเร่งรัดการดำเนินการเสนอต่อคณะรัฐมนตรีโดยเร็ว จำนวน 10 ฉบับ เพราะรัฐบาล ให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนปรับปรุงกฎหมาย เนื่องจากจะเป็นกลไกสำคัญ ที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ร่างกฎหมายจำนวน 10 ฉบับ แบ่งเป็น 3 ส่วน คือ 1.เรื่องที่อยู่ระหว่างหน่วยงานพิจารณา 6 เรื่อง ร่าง พ.ร.บ.ล้มละลาย ของกระทรวงยุติธรรม ร่าง พ.ร.บ.การรับรองเพศ ของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ร่าง พ.ร.บ.กัญชากัญชง ของกระทรวงสาธารณสุข ร่าง พ.ร.บ.ปาล์มน้ำมันและผลิตภัณฑ์จากปาล์มน้ำมัน ของกระทรวงเกษตรฯ ร่าง พ.ร.บ.การบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม ของกระทรวงคมนาคม และ ร่าง พ.ร.บ.สรรพสามิต ของกระทรวงการคลัง 2.เรื่องที่อยู่ระหว่างสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี พิจารณา จำนวน 3 เรื่อง ร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ ร่าง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และ ร่าง พ.ร.บ.การอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตและการให้บริการแก่ประชาชน 3.เรื่องที่อยู่ระหว่าง สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา พิจารณา จำนวน 1 เรื่อง ร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประมง

“กฎหมายบางฉบับที่รัฐบาลเร่งรัด ได้ถูกเสนอให้ ครม.พิจารณาในวันนี้แล้ว เช่น ร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธ์ เพราะรัฐบาล เล็งเห็นว่า กฎหมายจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการดูแลพี่น้องประชาชน ให้มีความเสมอภาค และเข้าถึงการบริการของภาครัฐอย่างเท่าเทียม รวมถึงก่อนเข้าประชุมครม. ผมได้หารือกับนายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ในฐานะรองประธานกรรมการเร่งรัดกฎหมายชุดนี้ เพื่อมอบหมายให้นายสมคิด ไปเร่งรัดติดตามกฎหมาย ที่เหลืออยู่ทั้งจากหน่วยงาน สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และกฤษฎีกา เพื่อให้นำเข้าสู่การพิจารณาของครม.โดยเร็ว เพราะจะเห็นได้ว่า กฎหมายหลายฉบับ จะช่วยอำนวยความสะดวก และส่งเสริมให้กับพี่น้องประชาชน สามารถทำมาหากินได้คล่องตัวชี้น จึงควรเร่งรัดการพิจารณาให้เร็วที่สุด” รองนายกรัฐมนตรี กล่าว