การเคหะแห่งชาติเป็นรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) มีภารกิจหลักในการพัฒนาที่อยู่อาศัย ชุมชน และเมือง ควบคู่ไปกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยในชุมชน ภายใต้วิสัยทัศน์ “สร้างบ้าน สร้างสุข เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี” และในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2567 นี้จะครบรอบ 51 ปี ของการก่อตั้ง 
           นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า ที่ผ่านมาการเคหะแห่งชาติได้พัฒนาที่อยู่อาศัยในทุกรูปแบบไปแล้วทั้งสิ้น 752,160 หน่วย ผ่านโครงการต่าง ๆ อาทิ โครงการเคหะชุมชน โครงการบ้านเอื้ออาทร โครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง โครงการอาคารเช่า เป็นต้น และจากผลการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ หรือ ITA ปี 2566 การเคหะแห่งชาติได้คะแนน 96.24 คะแนน จาก 100 คะแนนเต็ม เป็นอันดับที่ 3 ของหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวง พม. และเป็นอันดับที่ 16 ของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจทั้งหมดที่เข้าร่วมการประเมินจำนวน 51 แห่ง นอกจากนี้ยังได้รับรางวัล “Compliance Award” หน่วยงานนำร่องภายใต้โครงการพัฒนาแพลตฟอร์มภาครัฐ เพื่อรองรับการปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Government Platform for PDPA Compliance : GPPC) โดยในปี 2567 การเคหะแห่งชาติมีแผนการใช้ Platform GPPC อย่างเต็มรูปแบบในทุกกิจกรรม


รวมถึงรางวัลอสังหาริมทรัพย์ดีเด่น FIABCI-Thai Prixd'Excellence Awards 2023 ประเภทที่อยู่อาศัยเพื่อผู้มีรายได้น้อย ได้แก่ โครงการเคหะชุมชนและบริการชุมชน จังหวัดชลบุรี (บ่อวิน) ระยะที่ 2 เป็นหนึ่งในโครงการที่ผ่านเกณฑ์การประเมินประสิทธิภาพพลังงานสำหรับบ้านอยู่อาศัย (บ้านเบอร์ 5) และได้การรับรองจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่เน้นย้ำ “การสร้างสังคมให้น่าอยู่” โดยเริ่มตั้งแต่การก่อสร้างที่คำนึงถึงความยั่งยืนและการออกแบบอาคารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้ผู้อยู่อาศัย

 


        ปัจจุบันการเคหะแห่งชาติขับเคลื่อนภารกิจภายใต้แผนวิสาหกิจการเคหะแห่งชาติ ปี พ.ศ. 2566-2570 (ฉบับปรับปรุงปี พ.ศ. 2566) และแผนปฏิบัติการประจำปี พ.ศ. 2567 โดยเร่งดำเนิน “โครงการ Quick Win” กำหนดเป้าหมายไว้ ได้แก่ โครงการบริหารหน่วยส่งมอบ เป็นหน่วยที่อยู่อาศัยพร้อมขาย 6,000 หน่วย โครงการบริหารการก่อสร้าง ก่อสร้างที่อยู่อาศัยให้ได้มาตรฐานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จำนวนกว่า 3,000 หน่วยให้แล้วเสร็จ และส่งมอบให้ประชาชนได้อยู่อาศัยหรือให้ประชาชนได้เช่าตามแผนที่กำหนด โครงการจัดประโยชน์ทรัพย์สินจากพื้นที่ว่างภายในโครงการที่อยู่อาศัยของการเคหะแห่งชาติ โครงการบริหารอาคารเช่า ในปีนี้มีการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ผ่านหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน เร่งบรรจุผู้เช่าให้ได้ตามเป้าหมาย


     นอกจากนี้ยังมี “โครงการมุ่งเน้น” ซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่จะพัฒนาในรูปแบบผสมผสาน Mixed-Used/ Mixed-Income รองรับประชาชนทุกกลุ่มให้มีที่อยู่อาศัยที่ได้มาตรฐาน ในระดับราคาที่สามารถรับภาระได้ประกอบด้วย โครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง ระยะ 2-4 ปัจจุบันดำเนินการก่อสร้าง 2 อาคาร ได้แก่ อาคาร D1 สูง 35 ชั้น จำนวน 1 อาคาร รวม 612 หน่วย มีความคืบหน้าการก่อสร้างได้ 96.35% ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินงานด้านภูมิสถาปัตย์ คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2567 และสามารถให้ผู้เช่าเข้าอยู่อาศัยได้ประมาณเดือนเมษายน 2567 และอาคาร A1 สูง 32 ชั้น จำนวน 1 อาคาร 635 หน่วย ขณะนี้อยู่ระหว่างจัดหาผู้รับจ้างรายใหม่ คาดว่าเมื่อได้ผู้รับจ้างรายใหม่แล้วจะสามารถดำเนินการก่อสร้างให้แล้วเสร็จได้ประมาณกลางปี พ.ศ. 2569  

 
       โครงการบ้านเคหะสุขประชา เป็นโครงการบ้านเช่าพร้อมอาชีพมุ่งเน้น “มีบ้าน-มีอาชีพ-มีรายได้-มีความสุข” ขณะนี้ก่อสร้างโครงการนำร่องและส่งมอบพร้อมทำสัญญาเช่าให้กับผู้ได้สิทธิแล้ว 2 โครงการ รวมทั้งสิ้น 572 หน่วย ได้แก่ โครงการบ้านเคหะสุขประชาร่มเกล้า 270 หน่วย บรรจุผู้เช่าได้ 258 หน่วย คิดเป็น 95.55% และโครงการบ้านเคหะสุขประชาฉลองกรุง 302 หน่วยบรรจุผู้เช่าได้ 273 หน่วย คิดเป็น 90.39%  


       โครงการบ้านเคหะสุขเกษม จังหวัดสมุทรปราการ (เทพารักษ์) เป็นโครงการบ้านเช่ารองรับสังคมผู้สูงอายุ เน้นการออกแบบ Universal Design แบ่งการพัฒนาออกเป็น 4 ระยะ จำนวน 90 อาคาร รวมทั้งสิ้น 3,956 หน่วย ตั้งอยู่ที่ตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ปัจจุบันได้สร้างอาคารต้นแบบเสร็จแล้ว 45 หน่วย และในปี 2567 จะเสนอขออนุมัติหลักการต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อดำเนินโครงการระยะที่ 1 ส่วน 2 และระยะที่ 2 รวมทั้งสิ้น 876 หน่วย

 


     โครงการศึกษาความเป็นไปได้การพัฒนาโครงการแบบผสมผสาน (Mixed-Use) ตามเส้นทางโครงข่ายระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน (Transit Oriented Development : TOD) ในพื้นที่ร่มเกล้า ตั้งอยู่บริเวณถนนร่วมพัฒนา แขวงลำผักชี เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร เนื้อที่โดยรวมประมาณ 352 ไร่ ระยะที่ 1 ดำเนินการก่อสร้างประมาณ 8,000 หน่วย ภายใต้การร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (Public Private Partnership : PPP) ตามพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 ปัจจุบันอยู่ระหว่างการนำรายงานผลการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการฯ ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 


        โครงการสินเชื่อเพื่อการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย เพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยและกลุ่มเปราะบางที่ไม่ได้รับสินเชื่อจากสถาบันการเงิน นับตั้งแต่เดือนกันยายน 2563 - 2566 ได้อนุมัติสินเชื่อไปแล้ว 2,236 ราย เป็นกลุ่มลูกค้าทั่วไป 1,865 ราย กลุ่มเปราะบาง 281 ราย คิดเป็นวงเงินสินเชื่อฯ 1,453.89 ล้านบาท และในปีงบประมาณ 2567 ให้สินเชื่อกับลูกค้าแล้ว จำนวน 171 ราย คิดเป็นวงเงินสินเชื่อฯ 110.913 ล้านบาท 


         ปัจจุบันประชาชนยังมีความต้องการที่อยู่อาศัยในราคาที่รับภาระได้ ซึ่งโครงการที่อยู่อาศัยของการเคหะแห่งชาติมีราคาไม่แพง เข้าถึงง่าย มี 3 รูปแบบ คือ 1) เช่าซื้อกับการเคหะแห่งชาติ 2) ผ่อนกับสถาบันการเงิน และ 3) ผ่อนกับโครงการสินเชื่อเพื่อการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย กรณีถูกสถาบันการเงินปฏิเสธสินเชื่อ ในปี 2567 การเคหะแห่งชาติมี “บ้านพร้อมอยู่” ทั้งในรูปแบบขายและเช่า ได้แก่ โครงการบ้านตั้งต้น First-Jobber Housing ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล 6,928 หน่วย แบ่งออกเป็น อาคารขาย 5,500 หน่วย และอาคารเช่า 1,428 หน่วย และโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยรองรับทุกกลุ่มเป้าหมาย 


         ทั้งนี้การเคหะแห่งชาติได้จัดโปรโมชันพิเศษให้กับประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย ที่สนใจทั้งในรูปแบบเช่าและซื้อเป็นของตนเอง โดยคัดเลือกโครงการที่ตั้งในทำเลที่มีศักยภาพในหลากหลายพื้นที่เพื่อนำมาเข้าร่วมโครงการ ทั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล จำนวนรวม 1,428 หน่วย เริ่มตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2567 รวมถึงโปรโมชันสำหรับโครงการประเภทซื้อ ได้แก่ บ้านเพื่อทุกคน House for All  สำหรับประชาชนทุกกลุ่มรายได้ที่ต้องการซื้อบ้านเป็นของตนเอง โดยการเคหะแห่งชาติได้คัดเลือกโครงการหลากหลายพื้นที่ทั่วประเทศกว่า 5,500 หน่วย เพียงวางเงินจองเริ่มต้น 1,000 บาท เริ่มตั้งแต่บัดนี้ ถึง 31 มีนาคม 2567 


         สำหรับโครงการที่อยู่อาศัยที่มีราคาไม่เกิน 1,000,000 บาท จะได้รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษในปีแรกเพียงร้อยละ 4.50/ปี และกรณีสถาบันการเงินปฏิเสธสินเชื่อ ลูกค้าสามารถยื่นขอสินเชื่อจากโครงการสินเชื่อเพื่อการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย โดยจะได้รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษในปีแรกเพียงร้อยละ 1.50/ปี


        นอกจากนี้ การเคหะแห่งชาติมีแผนการดำเนินงานเตรียมความพร้อมและปรับตัวของประชากรกลุ่มเปราะบางเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ตามนโยบายของ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยได้พัฒนาที่อยู่อาศัยให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดการใช้พลังงาน และช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับผู้อยู่อาศัย ส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยใน 4 มิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ ด้านการมีส่วนร่วม ด้านสุขภาพ  และด้านสิ่งแวดล้อม จัดกิจกรรมต่าง ๆ เช่น ธนาคารขยะ การติดตั้ง Solar Cell การเพิ่มพื้นที่สีเขียวในชุมชน การจัดกิจกรรมครอบครัวอบอุ่น และโครงการประกวดชุมชนสดใส จิตใจงดงาม 
         

 รวมถึงโครงการส่งเสริมสมรรถนะให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภายใต้โครงการจัดทำแผนพัฒนาที่อยู่อาศัยและแผนป้องกัน/แก้ไขปัญหาชุมชนแออัด เพื่อจัดทำยุทธศาสตร์และวางแผนการพัฒนาที่อยู่อาศัยฯ โดยบูรณาการความร่วมมือของหน่วยงานและภาคีที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งตอบสนองนโยบายของรัฐในการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจและการกระจายความเจริญสู่ภูมิภาค โดยมีเป้าหมายใน 2 กลุ่มจังหวัด 8 พื้นที่ ได้แก่ กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง คือ อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ ยโสธร อุบลราชธานี และกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง คือ กำแพงเพชร พิจิตร นครสวรรค์ อุทัยธานี 


       นโยบายดังกล่าวเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนงานของการเคหะแห่งชาติ และบุคลากรทุกคนยังคงมุ่งมั่นตั้งใจสร้างที่อยู่อาศัยและดูแลคุณภาพชีวิตให้กับประชาชนในทุกมิติ