วันที่ 30 ม.ค.2567 เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงหลังประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ถึงข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ว่า นายกฯขอให้ทุกกระทรวง ทุกหน่วยงานไปเร่งตรวจสอบเสนอกฎหมายที่อยู่ในความรับผิดชอบ เสนอต่อครม.โดยเร็ว ซึ่งสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 31 ต.ค. 66 นายกรัฐมนตรีกำชับแล้วว่า ขอให้ทุกกระทรวง ทบวง กรม กลับไปทบทวนกฎหมายในหน่วยงานของตนเอง ทั้งกฏหมายเดิม ระเบียบเดิมว่าอะไรที่ควรจะต้องยกเลิก ต้องให้รีบเสนอมา รวมทั้งกฎหมายฉบับใหม่ๆที่กระทรวงนั้นๆเป็นเจ้าภาพ ต้องรีบเสนอเข้ามา ซึ่งจนถึงขณะนี้ได้แจ้งครม.ว่า การเสนอกฎหมายเหล่านี้ยังล่าช้า ขอให้นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกฯในฐานะผู้ประสานงานกับรัฐมนตรีทุกคน ไปเร่งรัดทุกกระทรวงให้ทำการเสนอกฎหมายให้ครม.พิจารณาโดยเร็วที่สุด ซึ่งอันนี้สอดคล้องกับนโยบายที่นายกฯพูดในหลายเวทีที่ต้องการให้การขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศดำเนินไปภายใต้หลักการของรัฐอำนวยการ คือมีกฎระเบียบที่ทันสมัย และเป็นกฎระเบียบที่เน้นบทบาทภาครัฐไม่ใช่รัฐอุปสรรค 

นอกจากนี้ เนื่องจากช่วงนี้มีข่าวเกี่ยวกับโครงการต่างๆของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายกฯจึงขอให้รมว.เกษตรฯไปดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับโครงการต่างๆของกระทรวงเกษตรฯที่เป็นข่าวอยู่ขณะนี้ เช่นโครงการส่งเสริมการเปลี่ยนเมล็ดพันธุ์ข้าว โครงการปรับปรุงการผลิตและกระจายเมล็ดพันธุ์ข้าว ให้ความจริงกระจ่างเป็นที่ปรากฎและรายงานให้ครม.รับทราบโดยเร็ว

นายชัย กล่าวอีกว่า นายกฯเป็นห่วงเรื่องฝุ่น PM 2.5 โดยย้ำกับที่ประชุมครม.ว่าถือเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลนี้มากๆ ในการสร้างให้เกิดอากาศสะอาดให้กับประชาชน ดังนั้นการออกกฎหมายและประสานงานกับประเทศเพื่อนบ้านทำให้ที่ผ่านมาปัญหาในบางพื้นที่คลี่คลายลง แต่ในอีกหลายพื้นที่ยังอยู่ในระดับที่น่าเป็นห่วง เช่น กรุงเทพฯและปริมณฑล นายกฯจึงขอให้รัฐมนตรีทุกคนที่เกี่ยวข้องลงไปพื้นที่ ไปตรวจสอบสภาพของปัญหาว่ามีอะไรที่จะสามารถช่วยเหลือได้ในระดับพื้นที่เลย และกลับมาคิดถึงการหามาตรการในการช่วยลดปัญหาPM 2.5 ลงให้ได้มากที่สุด