"รัฐบาล"ลั่นเดินหน้าแก้หนี้ทั้งระบบ “ประชาชนทุกกลุ่ม-ภาคเกษตร-ภาคธุรกิจ-ภาคประชาชน”อย่างบูรณาการผ่าน“มหกรรมแก้หนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม” ด้าน"รมช.คลัง"จี้ "กนง."ลดดอกเบี้ยนโยบาย ระบุแบงก์กำไรพุ่ง แต่ประชาชนเดือดร้อน ขณะที่อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับติดลบ

 เมื่อวันที่ 29 ม.ค.67 น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง โดยกระทรวงยุติธรรมได้จัดงาน “มหกรรมแก้หนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม” ครั้งที่ 1 ตามนโยบายของรัฐบาลในการเดินหน้าแก้ปัญหาหนี้สินทั้งระบบให้กับประชาชนทุกกลุ่มทั้งภาคเกษตร ภาคธุรกิจ และภาคประชาชน ซึ่งปัญหาหนี้สินเป็นปัญหาเรื้อรังที่อยู่กับสังคมไทยมายาวนานทั้งปัญหาหนี้นอกระบบและในระบบ 
 
โดยภายในกิจกรรมดังกล่าวได้มีสถาบันการเงินจำนวน 23 สถาบันการเงิน ทั้งส่วนที่เป็นของรัฐบาลและเอกชน สถาบันการเงินควรที่จะสร้างโอกาสให้ลูกหนี้ได้กลับมายืนในสังคม โดยการแก้ไขปัญหาหนี้ของรัฐบาลได้มีการกำหนดแนวทางในการดำเนินการอย่างชัดเจน และเป็นการบูรณาการการทำงานของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การแก้ไขปัญหาหนี้เป็นไปอย่างยั่งยืน และไม่กลับมาเป็นหนี้ซ้ำอีก นอกจากนี้ยังได้เปิดให้ผู้เข้าร่วมที่ลงทะเบียนแก้ไขหนี้สิน การไกล่เกลี่ยก่อนฟ้อง และการไกล่เกลี่ยหลังศาลมีคำพิพากษา เข้าร่วมกิจกรรม รวมถึงเปิดเวทีเสวนาในหัวข้อต่างๆ เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาหนี้สิน และข้อกฎหมายต่างๆ จากวิทยากรทรงคุณวุฒิ
 
น.ส.เกณิกา กล่าวต่อว่า ความตั้งใจของรัฐบาลคือต้องการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนคือหนี้ของประชาชน โดยจะให้อยู่ในระดับที่สังคมอยู่ได้อย่างเข้มแข็ง มหกรรมแก้หนี้สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรมจึงเป็นจุดที่เป็นรูปธรรมของการแก้หนี้ รวมไปถึงการไกล่เกลี่ย เพื่อช่วยเหลือแก้ไขปัญหาหนี้สินให้แก่ประชาชน ทั้งในชั้นก่อนฟ้องคดีช่วยเหลือลูกหนี้ไม่ให้ถูกฟ้องคดีต่อศาล โดยรัฐบาลต้องขอขอบคุณหน่วยงานต่างๆ สถาบันการเงิน ที่มาร่วมจัดนิทรรศการให้ความรู้ทางกฎหมาย และให้บริการต่างๆ แก่ประชาชนด้วย
 
สำหรับประชาชนที่มีความสนใจและต้องการสอบถามข้อมูลหรือข้อสงสัยต่างๆ เพิ่มเติม สามารถติดต่อผ่านช่องเว็บไซต์กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กรมบังคับคดี และสำนักงานยุติธรรมจังหวัดทั่วประเทศ หรือสอบถามผ่าน สายด่วนยุติธรรม โทร. 1111 กด 77 และสายด่วนกรมบังคับคดี โทร. 1111 กด 79 ฟรีตลอด 24 ชั่วโมง
 
วันเดียวกัน นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวว่า ตามความเห็นส่วนตัวเกี่ยวกับเรื่องของอัตราดอกเบี้ยนโยบายนั้น ตนเห็นว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ควรปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงมาเพื่อช่วยเหลือประชาชน ขณะที่อัตราดอกเบี้ยในปัจจุบันได้ทำให้สถาบันการเงินนั้นมีอัตราผลกำไรสูงมาก นอกจากนี้หากมองในแง่อัตราเงินเฟ้อก็อยู่ในระดับที่ติดลบ
 
“ผมเห็นว่าดอกเบี้ยนโยบายควรลดลงมา เพราะขณะนี้ชาวบ้านเขาเดือดร้อนกันหมด แต่แบงก์เองต่างมีกำไรสูง ขณะที่รัฐบาลก็มีหน้าที่ในการดูแลประชาชน ทั้งนี้เมื่อครั้งที่กนง.ปรับขึ้นดอกเบี้ยคราวก่อน ได้ระบุว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยดังกล่าวเพื่อรองรับการดำเนินนโยบายของรัฐบาล ซึ่งผมก็คิดว่ามีแบบนี้ด้วยเหรอ”
 
ทั้งนี้ กนง.จะมีการประชุมเพื่อพิจารณาดอกเบี้ยนโยบายอีกครั้งในวันที่ 7 ก.พ.นี้