วันที่ 26 ม.ค. 2567 เวลา 10.00 น. ที่รัฐสภา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส. บัญชีรายชื่อ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงการผลักดัน กฎหมายเกี่ยวกับการนิรโทษกรรมที่ยังไม่มีการตกผลึก โดยล่าสุดพรรครวมไทยสร้างชาติ ก็ได้ยื่นร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สร้างเสริมสังคมสันติสุขเข้าสภาด้วย ว่า ตนยังไม่ได้อ่านร่าง พ.ร.บ.ของรวมไทยสร้างชาติ  ส่วนแนวทางการดำเนินนโยบายแก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา 112 จะมีการผลักดันต่อหรือไม่นั้น ขณะนี้ยังทำอะไรไม่ได้ ต้องรอคำวินิจฉัยจากศาลรัฐธรรมนูญ ในพรรคยังไม่ได้พูดคุยกัน

เมื่อถามว่านายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐฯ ที่ระบุว่า จะไม่นิรโทษกรรม ม.112 แต่จะมีการตั้งคณะกรรมการพิจารณาเป็นรายๆ ไป ซึ่งอาจขัดกับพรรคอื่นที่ไม่รวมการนิรโทษกรรม ม.112 นายพิธา กล่าวว่า เท่าที่ได้มีโอกาสคุยกับนายรังสิมันต์ ในส่วนของ กมธ.เป็นเหมือนการพบกันครึ่งทาง แต่ของพรรคก้าวไกล การนิรโทษกรรม รวม ม.112 ขณะนี้ยังไม่สามารถคอนเฟิร์มได้ ว่าตรงกับที่นายรังสิมันต์ต้องการทำหรือไม่ส่วนตัวเห็นว่า ช่วง 17 ปีที่ผ่านมา ที่มีความขัดแย้งทางการเมือง ถ้าปีนี้มีโอกาสที่เราจะเริ่มต้นใหม่ก็ไม่อยากให้มีการสร้างกำแพงขึ้นมา ที่เพราะจะทำให้โอกาสในการสร้างความสมานฉันท์ในชาติลดลง เมื่อมีเงื่อนไขใหม่เกิดขึ้น คิดว่าน่าจะมีวิธีการบริหารจัดการความขัดแย้งทางการเมืองซึ่งจากหลายรูปแบบ ได้รับการจัดการอย่างครบถ้วน

เมื่อถามว่าอุปสรรคใหญ่ของการนิรโทษกรรม ซึ่งมีเงื่อนไข ม.112 นั้น พรรคก้าวไกลจะมีบทบาทในการช่วยเหลือผู้เคลื่อนไหวทางการเมืองอย่างไรนั้น นายพิธา กล่าวว่า ยังติดตามสถานการณ์อยู่เรื่อยๆ อัพเดทอยู่เสมอ คิดว่าพรรคก้าวไกล คงไม่ทิ้งเรื่องนี้ เป็นเรื่องการแสดงออกทางการเมือง และเป็นการหาทางออกร่วมกันของประเทศชาติ ว่าการที่จะทำให้ประเทศไทยเป็นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขนั้น ควรจะออกมาในทิศทางไหน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สิ่งที่เกิดขึ้นกับเยาวชนอายุน้อยกว่า 18 ปี

 

#พิธาลิ้มเจริญรัตน์ #นิรโทษกรรม