หนังสือพิมพ์สยามรัฐ ยืนหยัดฟันฝ่า ทุกอุปสรรค ทุ่มเท ทำงานรับใช้สังคม นำเสนอความจริง ผลงานก้าวสู่ปีที่ 74 เป็นเครื่องพิสูจน์…*…

เตรียมระเบิดศึกเลือกตั้งอบจ.ทั่วประเทศ ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้  หมายความว่าจากนี้เหลือเวลาอีกไม่กี่วันเท่านั้น ที่บรรดา “ผู้สมัคร” และโดยเฉพาะ “ผู้ช่วยหาเสียง” ของแต่ละพรรคการเมือง ต้องใส่เกียร์กันเต็มที่ ทั้งเดินสายหาเสียงไปจนถึงการงัดกลยุทธ์ “ซื้อใจ” กันในช่วงโค้งสุดท้าย โดยเฉพาะนาทีนี้ ต้องยกให้ “พ่อใหญ่ทักษิณ” ลงไปลุยหาเสียง ขึ้นเวทีปราศรัย ที่ใดเจ้าตัวเปิดประเด็นฮือฮา จนสามารถ “ยึดพื้นที่สื่อ” ไปจนสิ้น…*…

“พันแสง” อยากเชิญชวน ให้เข้าไปฟัง “ศ.ดร.โกวิทย์ พวงงาม” อดีตคณบดีคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นักวิชาการด้านการเมืองท้องถิ่น วิเคราะห์ถึงสถานการณ์ และ “ความสำคัญ” จากการเลือกตั้ง อบจ.ครั้งนี้กับรายการ “สยามรัฐสัปดาหวิจารณ์” ในตอน นับถอยหลัง “ศึกชิงอบจ.” ออกอากาศเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา  เมื่อ “อาจารย์โกวิทย์” กระตุกเตือนให้ประชาชนได้ตระหนักและรับรู้ว่า เลือกอบจ.ไปแล้ว เราจะได้อะไร  ? …*…

ขณะที่ “นักการเมือง” และ “พรรคใหญ่” ได้ผลแพ้-ชนะ จากศึกเลือกตั้งอบจ.รอบนี้เพื่อนำไปประเมินและวางแผนการเลือกตั้งในปี 2570 ถ้ารัฐบาลเพื่อไทย อยู่ครบเทอม  แล้ว “พี่น้องประชาชน” รู้หรือไม่ว่าการมี “สมาชิก-นายกอบจ.” ที่ดีมีคุณภาพอย่างแท้จริงนั้น จะสามารถพัฒนาจังหวัดของท่านได้อย่างไร แต่ปัญหาที่เกิดขึ้น ตลอดห้วงของการหาเสียงหลายเดือนที่ผ่านมา คือการที่ “ผู้ช่วยหาเสียง” อย่าง “ทักษิณ” ที่ใช้กลยุทธ์ “การตลาดนำ” จนเป็นผลสำเร็จ จนเหมือนเป็น “ผู้กำหนดเกม” …*…

จงใจทำการเมือง ระดับ “ท้องถิ่น” ให้กลายเป็น “ระดับชาติ”  ใช้เวทีหาเสียง ชู “นโยบายรัฐบาล” มากกว่าการนำเสนอ “นโยบายท้องถิ่น” ไปเสียอย่างนั้น จะว่าน่าเสียดายก็ถูก แต่เมื่อเวลาไล่หลัง มาพร้อมๆกับการที่ “ทักษิณ” ถูกข้าศึกตีขนาบข้าง ทั้ง “พรรคประชาชน” และ “พรรคสีน้ำเงิน” ก็คงต้องเลือกวิธีที่รวดเร็ว รวบรัด  ไปพร้อมๆกับการครองพื้นที่สื่ออย่างที่เห็น !

…*… การเมืองภาพใหญ่มาแรงเอาช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อ “เอกนัฏ พร้อมพันธุ์” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ชิงโยนระเบิดเข้าใส่ “ฝั่งตรงข้าม” ด้วยการเปิดปมร้อนกลางสภาฯ บอกเลยว่า แม้จะมีการลงขัน จาก “บางกลุ่ม” เพื่อต้องการ “ย้ายรัฐมนตรี”  ให้พ้นกระทรวงอุตสาหกรรม  ด้วยมูลค่า 200-300 ล้านบาท แต่งานนี้ก็ยังหยุด “รัฐมนตรีขิง” ไม่ได้  เพราะจากนี้เจ้าตัวประกาศแล้วว่า จะเดินหน้าลุยต่อ ไม่สนว่าใครจะมาตั้งค่าหัวใดๆ แต่ที่หลายๆคนพากันร้องโอ้ย !! ออกมาดังๆ ทำเอา “หัวจะปวด”  ก็เห็นทีจะเป็นมาตรการแก้ไขปัญหา “ฝุ่นพิษ” ในกทม. นี่แหล่ะ เมื่อ “รัฐบาล” เลือกหนทางใช้เงิน เตรียมใช้ “งบ 140ล้าน” เทลงมาแก้ ด้วยการประกาศให้คนกรุง นั่งรถไฟฟ้าฟรี นั่งรถขสมก.ฟรี 7วัน 7 คืน จะแก้ได้จริงหรือ “เจ้ากระทรวงคมนาคม” ลองสดับรับฟังแนวทางที่หลายๆต่อหลายฝ่ายเสนอดูบ้าง โดยที่ไม่ต้องใช้เงินเทลงมากันแบบนี้ …*… 

ที่มา:พันแสง (27/01/68)