วันที่ 24 ม.ค.2567 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาฯ ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ได้แจ้งถึงการเลื่อนลำดับ สส.บัญชีรายชื่อ จำนวน 2 คน ให้แทนตำแหน่งที่ว่าง หลังจากที่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ลาออกจากตำแหน่ง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ซึ่งได้เลื่อน นางนันทนา สงฆ์ประชา ขึ้นเป็นสส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย แทน และ กรณีที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ลาออกจากสส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และได้เลื่อน นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ขึ้นมาแทน ทั้งนี้ได้ให้ 2 สส.ใหม่ กล่าวปฏิญาณตนก่อนปฏิบัติหน้าที่
ทั้งนี้นายวันมูหะมัดนอร์ แจ้งว่า ทำให้มี สส.ที่ปฏิบัติหน้าที่ได้ 499 คน ดังนั้นต้องใช้องค์ประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง หรือ 250 คน
จากนั้นนายณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล หารือต่อการเพิ่มวันประชุมสภาฯ เป็นพิเศษในวันที่ 26 ม.ค. ซึ่งพรรคก้าวไกล สนับสนุนในการเพิ่มวันประชุม เนื่องจากขณะนี้มีญัตติที่ค้างในวาระ 40 เรื่อง และมีร่างพระราชบ้ญญัติ (พ.ร.บ.) รอการพิจารณาวาระแรก จำนวน 23 เรื่อง ซึ่งจากปฏิทินการทำงานพบว่า สภาฯ สามารถจัดการประชุมได้อีก 6 สัปดาห์เท่านั้น เพราะที่เหลือจะมีการพิจารณาหรือการประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการเปิดอภิปรายทั่วไปของวุฒิสภา เพื่อให้รัฐบาลชี้แจง ตามรัฐธรรมนูญย มาตรา 153 ดังนั้นตนขอให้เร่งดำเนินการตั้งคณะกรรมการประสานงานร่วมกันของพรรคฝ่ายค้านและพรรคฝ่ายรัฐบาล ซึ่งขณะนี้ได้ส่งรายชื่อแล้วและรอการลงนาม ทั้งนี้เพื่อให้เกิดการหารือในแนวทางการทำงานที่เป็นเกิดประโยชน์
ทั้งนี้นายวันมูหะมัดนอร์ ชี้แจงว่า ตนมอบหมายให้นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ คนที่สอง เรียกประชุมคณะกรรมมการประสานงาน ในสัปดาห์นี้ เพื่อตกลงว่าจะนัดประชุมสภาฯ เพิ่มเติมในช่วงเวลาใดบ้าง
นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน หารือว่า ขอให้ ประธานสภาฯ กำหนดให้วันพุธ เป็นการประชุมสภาฯ ที่มีวาระพิจารณาร่างกฎหมาย เพราะขณะนี้มีร่างกฎหมายที่รอการพิจารณา ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาว่าสภาฯต้องรอร่างกฎหมายของรัฐบาล จึงควรกำหนดวันให้ชัดเจน ซึ่งนายวันมูหะมัดนอร์ รับหลักการดังกล่าวไปพิจารณา
ทำให้นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ฐานะวิปรัฐบาล หารือโต้แย้งว่าตนไม่ขัดข้องที่จะนัดประชุมสภาฯ 3 วันต่อสัปดาห์ แต่อย่าลืมว่า สส. ต้องมีหน้าที่หลากหลาย ไม่เฉพาะออกกฎหมายหรือพิจารณาญัตติเท่านั้น เมื่อประชาชนเลือกมาต้องลงพื้นนที่ ตนยอมรับว่าเป็นผู้แทนตลาดล่าง ที่ต้องไปเยี่ยมประชาชนในพื้นที่ตามงานที่ได้รับการประสาน หากเพิ่มวันประชุม 3 วันต่อสัปดาห์ อาจกระทบต่อการรับฟังปัญหาของประชาชน อย่างไรก็ดียอมรับว่ามีผู้แทนที่ไม่เคยลงพื้นที่ไปพบชาวบ้านเลย แต่ผู้แทนบางส่วนต้องการพบชาวบ้าน
ทำให้นายปกรณ์วุฒิ ชี้แจงว่าไม่ใช่จะให้ประชุม3วันทุกสัปดาห์ แต่ต้องการให้กำหนดวันประชุมที่ใช้พิจารณาร่างพ.ร.บ. ซึ่งจะเป็นสิ่งที่ดีที่คณะกรรมการประสานงานร่วมจะหารือถึงวันที่เหมาะสม อาจเป็นเดือนละ 2-3 ครั้ง อย่างไรก็ดี พรรคก้าวไกล มีสส.เขต กว่า 100 คนต้องลงพื้นที่เช่นกัน