นายกฯ ลงพื้นที่จ.ระนอง ประชุมครม.สัญจร รับฟังความเห็นชาวบ้านผุดโครงการแลนด์บริดจ์ มั่นใจสร้างอาชีพและสร้างรายได้ให้คนในพื้นที่ได้ เชื่อช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจประเทศ พร้อมประกาศเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต
เมื่อวันที่ 22 ม.ค.67 เวลา 09.30 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง พร้อมคณะ ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน. 6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานระนอง ต.ราชกรูด อ.เมืองระนอง จ.ระนอง เพื่อตรวจราชการและประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ครั้งที่ 1/2567 ระหว่างวันที่ 22-23 ม.ค. โดยเมื่อนายเศรษฐาเดินทางถึงท่าอากาศยานระนอง ได้มี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ,พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ,นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผวจ.ระนอง และข้าราชการ ให้การต้อนรับ
จากนั้น นายกรัฐมนตรีเดินทางต่อด้วยรถยนต์โตโยตาอัลพาร์ด ทะเบียน กง 888 ระนอง ไปสักการะศาลหลักเมืองระนอง ผูกผ้าเจ็ดสีและปิดทอง และสักการะอนุสาวรีย์พระยาดำรงสุจริตมหิศรภักดี (คอซู้เจียง) ที่ศาลหลักเมืองระนอง ต.เขานิเวศน์ อ.เมืองระนอง จ.ระนอง เพื่อเป็นสิริมงคล โดยมีประชาชนมาให้การต้อนรับ มอบดอกกุหลาบแดงให้กำลังใจ และมีประชาชนสอบถามนายกรัฐมนตรีถึงโครงการดิจิทัลวอลเล็ตว่า ประชาชนรออยู่นะคะ นายกรัฐมนตรี จึงเดินเข้าไปหาและตอบว่า "ครับ"
ทั้งนี้ นายเศรษฐา เปิดเผยว่า ดีใจที่พี่น้องชาวระนองมารอต้อนรับ และดีใจเป็น 2 เท่าที่พี่น้องเข้าใจสิ่งที่รัฐบาลกำลังทำ หลายคนบอกตนว่าพื้นที่ต้องการโครงการแลนด์บริดจ์และขอให้รัฐบาลเดินหน้าเต็มที่เพื่อพัฒนาระนอง ตนบอกเลยว่านั่นเป็นสิ่งที่เราตั้งใจทำเพื่อพี่น้องชาวจ.ระนอง
โดยก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กว่า ครม.สัญจร ครั้งที่ 2 เรามีจ.ระนองเป็นเป้าหมายครับ เพราะเป็นหนึ่งในจังหวัดที่จะมีบทบาทสำคัญมากในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทย โดยโครงการแลนด์บริดจ์จะมาสร้างอาชีพ รายได้ และพัฒนาพื้นที่ให้คนในพื้นที่อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนครับ
สำหรับภารกิจ นายกรัฐมนตรีในการลงพื้นที่พบปะประชาชนในจังหวัดต่างๆ นั้น นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะรัฐมนตรีลงพื้นที่ตรวจราชการกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน (กระบี่ ตรัง พังงา ภูเก็ต ระนอง และสตูล) และเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 1/2567 ที่จ.ระนอง ระหว่างที่ 22 - 23 ม.ค. โดยการลงพื้นที่ประชุมครม.สัญจรที่จ.ระนองครั้งนี้ มีเป้าหมายในการตรวจราชการที่สำคัญหลายมิติ ทั้งเรื่องการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของภาคการประมง การติดตามความคืบหน้าโครงการสำคัญของรัฐบาล การยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน
ทั้งนี้ วันที่ 22 ม.ค. นายกรัฐมนตรีจะลงพื้นที่ติดตามโครงการปรับปรุงท่าเรือระนอง - เกาะสอง อำเภอเมืองระนอง และพูดคุยประเด็นการค้าผ่านแดน แรงงานข้ามชาติ พิธีการศุลกากร และประมง ซึ่งท่าเรือระนอง - เกาะสอง ต.ปากน้ำ เป็นจุดผ่านแดนที่ใช้รองรับการเดินทางระหว่างประเทศไทยและเมียนมา โดยเป็นท่าเรือข้ามฟาก ขนส่งและท่องเที่ยว พร้อมรับฟังการบรรยายสรุปข้อมูลการพัฒนาท่าเรือระนอง - เกาะสอง ข้อมูลการค้าผ่านแดนระหว่าง 2 ประเทศ แรงงานข้ามชาติ พิธีการศุลกากร และประมงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงจะพบปะประชาชนกลุ่มประมงและกลุ่มต่าง ๆ ในพื้นที่ เพื่อรับฟังปัญหาความเดือดร้อนและหาแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกันต่อไป
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีจะได้ติดตามความคืบหน้าโครงการสะพานเศรษฐกิจเชื่อมฝั่งทะเลอ่าวไทย - อันดามัน (Landbridge ชุมพร-ระนอง) ที่อุทยานแห่งชาติแหลมสน อ.กระเปอร์ จ.ระนอง สำหรับโครงการแลนด์บริดจ์เป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและบริการด้านคมนาคม โดยการเชื่อมโยง 2 ท่าเรือในฝั่งทะเลอันดามัน และฝั่งอ่าวไทยให้เชื่อมถึงกันอย่างไร้รอยต่อ ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยมีการพัฒนาท่าเรือบริเวณแหลมอ่าวอ่าง อำเภอเมืองระนอง ในรูปแบบการพัฒนาโครงการเป็นการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (Public Private Partnership : PPP)
หากโครงการนี้แล้วเสร็จจะช่วยสร้างโอกาสการจ้างงาน สร้างรายได้ สร้างอาชีพ และพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ซึ่งรัฐบาลมีความตั้งใจจะมีแผนงานเร่งรัดพัฒนาศักยภาพทางโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่สามารถสร้างเม็ดเงินการลงทุน และการใช้จ่ายเข้าสู่ประเทศได้ด้วยความรวดเร็ว ตามศักยภาพของพื้นที่ต่างๆ ซึ่งนายกรัฐมนตรียังให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ โดยจะเยี่ยมชมการบริหารจัดการบ่อน้ำแร่ร้อนรักษะวาริน ที่บ่อน้ำแร่ร้อนรักษะวาริน อ.เมืองระนอง ซึ่งมีบ่อน้ำแร่ร้อนที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดที่มีการชูอัตลักษณ์ชุมชน อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม สร้างรายได้ให้ชุมชนสามารถพึ่งพาตัวเองได้ส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
ในวันที่ 23 ม.ค. นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 1/2567 ที่หอประชุมคอซู่เจียง ศูนย์ราชการจังหวัดระนอง ต.บางริ้น อ.เมืองระนอง จ.ระนอง โดยจ.ระนองเตรียมนำเสนอโครงการปรับปรุงท่าเรือระนอง - เกาะสอง เพื่อการท่องเที่ยวและสัญจร เป็นโครงการปรับปรุงทางเข้าท่าเรือและปรับปรุงอาคารผู้โดยสาร เนื่องจากท่าเรือดังกล่าว เป็นท่าเรือข้ามฟากระหว่างจ.ระนองกับจ.เกาะสอง ประเทศเมียนมา รวมทั้งเตรียมเสนอโครงการก่อสร้างถนนเพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข 4) จากจ.ระนอง-จ.พังงา และโครงการก่อสร้างถนนสายราชกรูด-หลังสวน (ทางหลวงหมายเลข 4006) ขยายถนนเป็น 4 ช่องจราจร จากอ.เมืองระนอง ไปยังจ.พังงา เพื่อเข้าสู่ตัวเมืองระนอง