“ภูมิใจไทย” ไม่แผ่ว กกต.ให้ใบแดง-ใบดำ "สมชาย ภิญโญ " ผู้สมัคร  สส.เขต 6 นครราชสีมา  ปราศรัยสัญญาได้เป็น  สส.มีงบ พา อสม. เที่ยวล่องแพเมืองกาญจน์   เตรียมยื่นศาลฎีกาพร้อมดำเนินคดีอาญา

วันนี้ (19 ม.ค.)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซด์สำนักงาน กกต.เผยแพร่คำวินิจฉัยกกต.ให้ส่งศาลฎีกาสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือเพิกถอน สิทธิเลือกตั้งของนายสมชาย ภิญโญ ผู้สมัคร สส.นครราชสีมา เขต 6 พรรคภูมิใจไทย  ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. 2561 มาตรา 73   วรรคหนึ่งประกอบมาตรา  138  วรรคหนึ่ง   และให้ดำเนินคดีอาญา ตาม 141   ประกอบมาตรา 158 ของกฎหมายเดียวกัน    เนื่องจาก ข้อเท็จจริงที่ได้จากการไต่สวนฟังได้ว่า วันที่ 7  เม.ย. 66  เวลากลางวัน    นายสมชาย ผู้ถูกร้อง ได้จัดเวทีปราศรัยหาเสียงเลือกตั้ง   ที่ศาลาประชาคม บ้านหนองตาด หมู่ที่ 2 ต.หนองตาดใหญ่ อ.สีดา จ.นครราชสีมา    โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน และประชาชนในพื้นที่   ที่นายสมชายได้ปราศรัยด้วยถ้อยคำว่า “เดี๋ยวผมได้เป็น สส. มีงบไปเพิ่มงาน   จะพา อสม. ไปล่องแพกาญ ร้องเพลง” ตามที่ปรากฏในคลิปบันทึกเสียงประกอบคำร้อง     ซึ่งเห็นว่าถ้อยคำดังกล่าวมีความหมายทำนองว่า    เมื่อนายสมชายได้เป็น  สส.จะมีงบประมาณศึกษาดูงาน จะพาอาสาสมัครสาธารณสุข    ประจำหมู่บ้านไปล่องแพและร้องเพลงที่  จ.กาญจนบุรี     แม้นายสมชายจะอ้างว่าถ้อยคำดังกล่าวหมายถึง  หากมีงบประมาณจากกองทุนพัฒนาการท่องเที่ยวที่เป็นนโยบายของพรรคภูมิใจไทย   และเป็นงบประมาณ จากทางรัฐบาล  จะนำงบประมาณดังกล่าวมาช่วยส่งเสริมสนับสนุนให้คนในชุมชนได้ไปเพิ่มพูนความรู้ และพัฒนาศักยภาพโดยนำความรู้ที่ได้กลับมาพัฒนาชุมชนของตนเอง แต่เหตุผลดังกล่าวไม่สอดคล้องกับนโยบายของพรรคภูมิใจไทยที่ว่า ชุมชนดี แหล่งท่องเที่ยวดีและผู้ประกอบการดีด้วยกองทุน พัฒนาการท่องเที่ยว   ซึ่งนโยบายดังกล่าวของพรรคภูมิใจไทยมีลักษณะเป็นการสนับสนุนชุมชน   โดยให้แต่ละ จังหวัดปรับปรุงและพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว รวมทั้งการพัฒนาศักยภาพชุมชนในจังหวัดของตนเอง   มิใช่การนำงบประมาณดังกล่าวมาใช้เพื่อนำอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านและประชาชนในชุมชน ไปศึกษาดูงานที่จังหวัดอื่น  

อีกทั้งถ้อยคำว่า “จะพา อสม. ไปล่องแพกาญ ร้องเพลง" มิใช่การส่งเสริม ศักยภาพงานในหน้าที่ของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านประกอบกับจากการตรวจสอบคลิปบันทึกเสียงประกอบคำร้อง ปรากฏว่านายสมชาย กล่าวถ้อยคำว่า "เว้าแฮงบ่ได้ เดี๋ยวจิอัดวิดีโอ" ซึ่งมีความหมายทำนองว่า พูดเสียงดังไม่ได้ เดี๋ยวจะอัดวิดีโอ   ต่อจากคำว่า “เดี๋ยวผมได้เป็น สส. มีงบไปเบิ้งงาน จะพา อสม. ไปล่องแพกาญ ร้องเพลง”    แสดงให้เห็นถึงเจตนาที่ไม่สุจริตของนายสมชายในการปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งดังกล่าว   กรณี จึงปรากฏหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า การปราศรัยหาเสียงของนายสมชายดังกล่าว ซึ่งเป็นการสัญญาว่าจะให้   หรือจัดเตรียมเพื่อจะให้ทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณ เป็นเงินได้แก่อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน   และประชาชนในพื้นที่ซึ่งเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งเพื่อจูงใจ ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่ตนเอง   ซึ่งเป็นการทุจริตการเลือกตั้ง    อันเป็นการฝ่าฝืน  พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง  สส.2561  มาตรา 73 (1) ประกอบ มาตรา 138  วรรคหนึ่ง เป็นเหตุให้ผลการเลือกตั้ง สส.นครราชสีมา เขตเลือกตั้งที่ 6   ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับนายสมชายมิได้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เพิ่งมีรายงานว่า   กกต.ได้มีมติให้ส่งศาลฎีกาสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งและเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งนางมุกดาวรรณ  เลื่องสีนิล สส.ภูมิใจไทย   นครศรีธรรมราช เขต 8 ฐานแจกเงินให้คนไปลงคะแนน-ฟังปราศรัย   เสนอศาลฎีกาสั่งเพิกถอนสิทธิลงเลือกตั้ง   พร้อมจัดเลือกตั้งใหม่ และให้นางมุกดาวรรณรับผิดชอบค่าใช้จ่ายมาแล้ว