วันที่ 12 ม.ค. 2567 เมื่อเวลา 12.20 น. ที่บริเวณหน้าอาคารศรียานนท์ กองอำนวยการโรงพยาบาลตำรวจ ที่โรงพยาบาลตำรวจ นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)การตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ภายหลังศึกษาดูงานรพ.ตำรวจ กล่าวถึงการศึกษาดูงานในวันนี้ว่า หลังแลกเปลี่ยนพูดคุยกับทางรพ.ตำรวจ โดยมีพล.ต.ต.สามารถ ม่วงศิริ นายแพทย์(สบ.7)ให้การต้อนรับ ตนได้ทราบว่าตอนนี้มีผู้ต้องขังที่เข้าพักรักษาตัวค้างคืนที่รพ.ตำรวจเพียง 1 ท่าน ซึ่งคือ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นอกจากนั้นเป็นผู้ต้องขังที่รักษาตัวเช้าเย็นกลับ
นายชัยชนะ กล่าวว่า ตนได้หารือตามกรอบระเบียบรพ.ตำรวจ ซึ่งได้รับอนุญาตให้ขึ้นไปศึกษาดูงานที่ชั้น 14 เพียงดูขั้นตอนวิธีการคุมขัง โดยมีเจ้าหน้าที่จากกรมราชทัณฑ์ปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ สน.ปทุมวันและตำรวจสันติบาล เมื่อเดินทางไปชั้น 14 ได้พบเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่จำนวน 7 นาย โดยมีกรมราชทัณฑ์ 2 นาย ตำรวจท้องที่ 3 นาย สันติบาล 3 นาย เมื่อพบเจ้าหน้าเราได้ลงมาที่ชั้น 7 เพื่อศึกษาดูขั้นตอนวิธีการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังที่เป็นผู้ป่วยรักษาโรคต้อกระจกว่ามีขั้นตอนวิธีการดูแลอย่างไร ซึ่งมีเจ้าหน้าที่จากกรมราชทัณฑ์มาดูแล 2 คน จะเห็นได้ว่าการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้ากรมราชทัณฑ์ที่มีต่อผู้ต้องขังอื่น ๆ มีความเท่าเทียมกัน สำหรับชั้น 14 ตนขึ้นไปพบเจ้าหน้าที่จริง ส่วนการพบนายทักษิณ เป็นพ.ร.บ.ส่วนบุคคลที่ทางรพ.ตำรวจอนุญาตเพียงแค่นี้
เมื่อถามว่ากรณีนี้ถือว่าทำตามวัตถุประสงค์เรื่องการเดินทางมาชั้น 14 เพื่อยืนยันว่านายทักษิณ อยู่จริงหรือไม่ นายชัยชนะ กล่าวว่า เรามาเพื่อให้สังคมหายข้อสงสัย สิ่งที่ทำได้อย่างเต็มที่ตามกรอบระเบียบกฎหมายรัฐธรรมนูญ คือการได้พบเจ้าหน้าที่ ส่วนนายทักษิณ พักรักษาตัวอยู่ที่รพ.ตำรวจ จริงหรือไม่เป็นหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์ เนื่องจากเจ้าหน้ากรมราชทัณฑ์ชี้แจงว่าเป็นพ.ร.บ.ส่วนบุคคล ซึ่งเป็นสิทธิ์ของผู้ต้องขังที่จะอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้เข้าเยี่ยมก็ได้ แต่เราไม่ได้ขอเยี่ยมใครอยู่แล้วเพียงแต่มาศึกษาดูงานว่ามีขั้นตอนวิธีการปฏิบัติเท่าเทียมกันหรือไม่อย่างไร
เมื่อถามว่าทางรพ.ตำรวจได้ชี้แจงเกี่ยวกับอาการป่วยของนายทักษิณ และมีขั้นตอนการรักษาอย่างไร นายชัยชนะ กล่าวว่า วิธีการรักษาบอกไม่ได้อยู่แล้วเนื่องจากมีกฎหมายควบคุม แต่อาการป่วยต่าง ๆ ทั้งโรคความดันโลหิต เส้นเลือดโลหิต และโรคปอด ทางรพ.ตำรวจเคยชี้แจงอย่างครบถ้วนแล้ว แต่ในส่วนของตนเดินทางมาดูขั้นตอนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ว่ามีการควบคุมอย่างไรต่อผู้ต้องขังพักรักษาตัวแบบค้างคืน โดยกรมราชทัณฑ์ได้ผลัดเวรกันผลัดละ 2 นาย เวรละ 24 ชั่วโมง และต้องรายงานผู้บังคับบัญชาทุก ๆ 2 ชั่วโมง และห้องที่ผู้ต้องขังพักรักษาตัวอยู่จะไม่มีการล็อคเพื่อให้ผู้คุมได้เดินเข้าออกได้ตลอดเวลา
เมื่อถามว่ากมธ.มีความสงสัยต่อทีมแพทย์หรือไม่ว่าจะรักษานานแค่ไหน นายชัยชนะ กล่าวว่า ตนไม่ก้าวล่วงการรักษาของแพทย์ หน้าที่ของตนคือมาพิสูจน์ข้อเท็จจริง โดยหลังจากนี้ต้องกลับไปถามอธิบดีกรมราชทัณฑ์เกี่ยวกับเอกสารที่เราขอไปว่า ผู้คุมคนไหนที่มาเข้าเวรที่นี่และมีการปรับเปลี่ยนเวรอย่างไร มีการลงชื่ออย่างไร เราได้ขอเอกสารไปแล้ว ในส่วนของค่ารักษาพยาบาลที่แจ้งว่าใช้สิทธิ์สปสช.ถ้าเกินสิทธิ์สามารถเบิกใช้เงินส่วนตัวได้ ใช้ระเบียบข้อไหน เอกสารที่ขอไปคือสำเนาใบรท.101 กรอกประวัติก่อนเข้าเรือนจำได้ทำไว้หรือไม่ ทั้งนี้เผยว่าภาพการรักษาของนายทักษิณ ไม่สามารถเปิดเผยได้เนื่องจากเป็นข้อมูลส่วนบุคคล
เมื่อถามว่าการขอเอกสารของผู้ป่วยจะติดพ.ร.บ.ข้อมูลส่วนบุคคลหรือไม่ นายชัยชนะ กล่าวว่า สิ่งไหนที่กรมราชทัณฑ์ให้ได้หรือไม่ได้ให้ตอบมา เนื่องจากเราถามขั้นตอนการปฏิบัติทางกฎหมาย ว่าขั้นตอนในการรับตัวผู้ต้องหาเข้าไปเรือนจำมีวิธีการขั้นตอนอย่างไร ในเมื่อการกรอกรท.101 กรอกประวัติได้กรอกจริงหรือไม่ หากกรอกจริงให้ยืนยัน และเงินงบประมาณที่ใช้ตนคิดว่าประชาชนมีสิทธิ์ที่จะรับรู้ เพราะเป็นเจ้าของเงิน ซึ่งเงินงบประมาณทั้งหมดมาจากภาษีของประชาชน เพราะฉะนั้นการใช้เงินรักษาจากเงินสปสช.ก็เป็นเงินของประชาชน พี่น้องประชาชนต้องได้ทราบว่าหากเกินสิทธิ์สปสช.สามารถใช้เงินส่วนตัวได้ นักโทษคนอื่น ๆ ควรได้รับสิทธิ์นั้นเช่นกัน และสามารถใช้เงินส่วนตัวของครอบครัวได้
เมื่อถามต่อว่าเชื่อหรือไม่ว่านายทักษิณ พักรักษาตัวอยู่ชั้น 14 นายชัยชนะ กล่าวว่า ตนตอบไม่ได้ให้ไปถามทางกรมราชภัณฑ์ เนื่องจากตนพบเพียงเจ้าหน้าที่จะให้ตนตอบว่าเชื่อหรือไม่ก็ไม่ได้ ดังนั้นทางกรมราชทัณฑ์ควรตอบเรื่องนี้
เมื่อถามต่อว่าการมาวันนี้ผิดหวังหรือไม่ นายชัยชนะ กล่าวว่า ไม่ผิดหวัง ตนได้ขึ้นไปชั้น 14 แล้ว กรอบอำนาจหน้าที่ที่ให้เราไว้ ความตั้งใจที่ให้เรามาทำงาน ได้เจอผู้ต้องขังจากเรือนจำพิเศษมีนบุรีพักรักษาตัวอยู่ และได้ขึ้นไปศึกษาดูงานที่ชั้น 14 เพื่อดูมาตรการการป้องกันของเจ้าหน้าที่เป็นอย่างไร ถือว่าวันนี้เป็นไปตามแผน สำหรับเรื่องห้องพักตนไม่เห็น เนื่องจากรพ.มีพื้นที่หวงห้ามเราจึงไม่สามารถเข้าได้
“นายทักษิณ ชินวัตร ไม่ได้ผิดอะไรหรอก แต่ถ้ากรมราชทัณฑ์ไม่ต้องการเป็นจำเลยสังคมนี้ กรมราชทัณฑ์ต้องชี้แจงกับสังคมให้เข้าใจ ถ้าเมื่อไรที่ชี้แจ้งไม่เข้าใจ คุณจำผมไว้เลย จำเลยของสังคมก็คือกรมราชทัณฑ์ ส่วนรพ.ตำรวจ ผมต้องยอมรับว่าสิ่งที่รพ.ตำรวจทำวันนี้ถูกต้องที่สุด ให้ความร่วมมือ ให้ข้อเท็จจริงกับกรรมาธิการตำรวจ” นายชัยชนะ กล่าว
นอกจากนี้นายชัยชนะ เปิดเผยด้วยว่า กล้องวงจรปิดที่โรงพยาบาลตำรวจเสียหายเป็นจำนวนมาก และเสียหลายตึก โดยเฉพาะตึกที่ชั้น 14 โดยได้รับแจ้งว่า เสียมานานก่อนที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะมารักษาตัว เนื่องจากเสื่อมสภาพเพราะใช้งานมากว่า 10 ปี ซึ่งข้อมูลนี้ได้รับการยืนยันจากพล.ต.ต.นพ.สามารถ ม่วงศิริ ผอ.โรงพยาบาลตำรวจ ดังนั้นตนขอฝากไปยังนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในฐานะที่กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) ช่วยหางบประมาณ 2-5 ล้านบาท มาติดตั้งกล้องวงจรปิดให้โรงพยาบาลตำรวจให้ครบถ้วนด้วย
เมื่อถามว่า แบบนี้จะมีข้อครหาหรือไม่ นายชัยชนะ กล่าวว่า ไม่มีข้อครหา เพราะเสียมานานแล้ว ตนเป็นตัวแทน ประชาชนจึงออกมาเรียกร้องให้