ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสั่งการให้กวาดล้างปราบปรามอาชญากรรมและสิ่งของผิดกฎหมายทุกประเภท หลังเทศกาลปีใหม่อย่างต่อเนื่อง พ.ต.อ.ไพฑูรย์ ศรีวิไล ผกก.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีขบวนการขนแรงงานต่างด้าวเถื่อน ลักลอบเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งบุคคลต่างด้าวเหล่านี้เป็นชาวโรฮีนจา จึงขอความร่วมมือกับหน่วยความมั่นคงโดยมี พ.ต.ท. เมธี ธีระสวัสดิ์ สว. ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองกาญจนบุรี นายณัฐพัชร์ งามศิริโรจน์ ปลัดฝ่ายป้องกันอำเภอสังขละบุรี ทหารชุดเฉพาะกิจลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ฯ กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 134


โดยเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีการลักลอบขนแรงงานต่างด้าว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงตั้งจุดตรวจจุดสกัดจับหน้าบริเวณจุดตรวจร่วมบ้านจงอั่ว ม.4 ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรีฯ
     

จนกระทั่งต่อมาได้พบ รถยนต์กระบะ Toyota vigo champ สีดำ หมายเลขทะเบียน กาญจนบุรี มาจากอำเภอสังขละบุรี มุ่งหน้าไปยังอำเภอทองผาภูมิ จึงได้เรียกหยุดเพื่ทำการตรวจสอบ รถคันดังกล่าวได้ชะลอความเร็วลง แต่ไม่ทำการหยุดรถให้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมตรวจสอบ แต่กลับเหยียบคันเร่งเครื่องขับหลบหนี
     

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ขับรถยนต์ติดตามไปเป็นระยะทางกว่า 1 กม.พบรถยนต์คันดังกล่าวได้เสียหลักชนกับเสาไฟฟ้าข้างทาง พบว่าคนภายในรถมีคนร้องครวญครางขอความช่วยเหลืออยู่ ตรวจสอบพบว่าคนในรถเป็นบุคคลต่างด้าวชาวโรฮิงญา สัญชาติเมียนมา จำนวน 30 คน มีบาดเจ็บหนัก 1 คนเป็นเด็ก บาดเจ็บเล็กน้อย 7 คน เจ้าที่ได้ให้ความช่วยเหลือนำตัวส่งโรงพยาบาลสังขละบุรีเพื่อทำการรักษาตามหลักมนุษยธรรม ส่วนคนขับรถอาศํยความมืดหลบหนีไปได้ 

จากการสอบสวนจากการสอบสวนหนึ่งในรงงานต่างด้าวทราบว่า ทั้งหมดเดินทางมาจากรัฐยะไข่ ใช้เวลาเดินทางมา 8 วัน กว่าจะถึงด่านเจดีย์สามองค์ ต่อจากนั้น เดินทางเข้ามาในประเทศไทย(อ.สังขละบุรี) ตามช่องทางธรรมชาติ โดยคนนำพาได้พาเดินลัดเลาะมาตามป่าเขา และมาลงเรือบริเวณขอบอ่างเขื่อนวชิราลงกรณ ซอย 4 หมู่ 2ต.หนองลู อ.สังขละบุรี ก่อนจะมาขึ้นฝั่งที่ท่าเรือบ้านทิโคร่ง หมู่4ต.ปรังเผล และเดินทางต่อด้วยรถกะบะคันเกิดเหตุ ตามเส้นทาง323 ถ.ทองผาภูมิ-สังขละบุรี ก่อนจะมาเกิดอุบัติเหตุรถยนต์พลิกคว่ำโดยการเดินทางในครั้งนี้ต้องเสียค่าใช้จ่าย คนละ 25,000-30,000 ต่อคน โดยปลายทางของทั้ง30คน จะเดินทางไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย 
     

จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้นำตัวแรงงานต่างด้าวทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน สภ.สังขละบุรี และจะรวบรวมหลักฐานติดตามผู้ขับขี่รถยนต์ เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป