“จุรินทร์” ตั้งฉายางบฯ 67 “เป็ดง่อย” มีเวลาใช้เพียง 5 เดือน เหตุงบฯ ล่าช้า มัวไปตั้งรัฐบาล “เพื่อนรัก หักเหลี่ยมโหด” ถามรบ.นี้มี รมต. 34 คน โลกลืมไปแล้วกี่คน เอาสองมือมานับยังนับไม่ได้ ฉะ รบ.กู้เงินเพิ่ม 1 แสนล้าน เป็น “นักกู้ถุงเท้าสีชมพู” ลั่นหากงบฯ ไม่ผ่านควรยุบสภาฯ หรือไม่นายกฯ ก็เลิกใส่ถุงเท้าสีแดง 

วันที่ 3 ม.ค.2567 เมื่อเวลา 11.53 น.นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 2567 ว่า แม้จะไม่ใช่การอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่เรียนว่าพ.ร.บ.งบประมาณรายปีเป็นกฎหมายที่มีความสำคัญ ถ้ารัฐบาลเสนอแล้วไม่ผ่านความเห็นชอบของสภาฯ ก็ต้องรับผิดชอบด้วยการลาออก หรือไม่ก็ยุบสภาฯ ซึ่งก็เป็นหน้าที่รัฐบาลที่มีหน้าที่ต้องไประดม สส. รัฐบาลมาลงคะแนนเสียงให้ได้ และเชื่อว่าร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว จะผ่านการพิจารณาวาระแรกได้ เพราะรัฐบาลมีเสียง สส. ในสภาฯ แบบเด็ดขาด ถึง 314 เสียง ถ้าไม่ผ่านตนคิดว่านายกรัฐมนตรี ต้องเลิกใส่ถุงเท้าสีแดงได้แล้ว

นายจุรินทร์ กล่าวว่า ขอยืนยันว่าฝ่ายค้านมีหน้าที่ตรวจสอบทั้งตัวงบประมาณฯ และผู้ใช้งบประมาณฯ สิ่งที่นายกรัฐมนตรีกล่าวคำแถลงมาทุกอย่างดีหมด ซึ่งงบประมาณฉบับนี้ ถือเป็นงบประมาณฉบับแรกของรัฐบาลชุดนี้ เกิดจากการเอางบประมาณ ปี 66 ซึ่งเป็นของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ มารื้อทำใหม่หมด ส่งผลให้ปฏิทินงบปีนี้ล่าช้าไปกว่า 9 เดือน เนื่องจากใช้เวลาไปตั้งรัฐบาล “เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด” อยู่หลายเดือน แต่หลัง ครม.มีมติให้รื้องบประมาณดังกล่าว ก็ใช้เวลาอีกหลายเดือนเช่นเดียวกันกว่าจะกลับเข้าสู่สภาฯ ได้ ทำให้งบประมาณฉบับนี้ต้องไปบังคับใช้ประมาณเดือนพ.ค.จึงส่งผลให้งบประมาณฉบับนี้ เป็นงบฯ ฉบับเป็ดง่อย เพราะงบประมาณทั้งสิ้น 3.48 ล้านล้านบาท รัฐบาลมีเวลาใช้เงินแค่ 5 เดือน จากปกติปกติ 12 เดือน เท่ากับว่ามีเวลาใช้เงินแค่ 40 เปอร์เซ็นต์ และที่สำคัญคือประสิทธิภาพของการใช้เงิน เรื่องของใช้เงินงบลงทุนที่เป็นหัวใจสำคัญของการกระตุ้นเศรษฐกิจ มีเพียง 70 เปอร์เซ็นต์ แต่มีเวลาใช้เพียง 5 เดือน สุดท้ายก็จะเป็นงบ “เป็ดง่อย” ไม่สามารถนำไปใช้กระตุ้นเศรษฐกิจไม่ได้เต็มร้อย

นายจุรินทร์ กล่าวว่า รัฐบาลชุดนี้มีรัฐมนตรีจำนวน  34 คน แต่โลกลืมไปแล้วจำนวนกี่คน สองมือรวมกันนิ้วยังมีไม่พอให้นับ โดยนายกรัฐมนตรีพยายามตีปี๊บบอกว่า เศรษฐกิจกำลังวิกฤตต้องเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจแบบขนาดใหญ่ แต่ขณะเดียวกันงบประมาณแผ่นดิน ที่มีผลต่อ GDP ถึงร้อยละ 18 กลายเป็นเป็ดง่อย แล้วจะไปขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตตามเป้าหมายได้อย่างไร ยืนยันว่า งบประมาณที่นายกรัฐมนตรีไปสั่งรื้อนั้น ไม่มีอะไรเข้ามาใหม่ เป็นงบที่เหมือนรัฐบาลที่ผ่านมาดำเนินการ และยังมีอีกหลายเรื่องที่แย่กว่าเดิม

โดยแบ่งเป็น 4 ประเด็น คือ1. งบฉบับนี้ยังขาดดุลเหมือนเดิม และจะขาดดุลต่อไปจนครบอายุรัฐบาลนี้คือ 4 ปีเต็ม 2. งบประมาณของรัฐบาลชุดนี้เพิ่มขึ้น แต่งบการลงทุนน้อยลงกว่าเดิม แต่กลับเพิ่มงบประมาณรายจ่ายประจำแทนคิดเป็น 44 เปอร์เซ็นต์ 3.งบกลาง ซึ่งพอไปดูเนื้อในแล้ว เป็นงบสำหรับกรณีฉุกเฉิน ที่เป็นอำนาจนายกรัฐมนตรีโดยตรง กลับเพิ่มขึ้น ซึ่งทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็เคยต่อว่ารัฐบาลที่ผ่านมา แต่กลับทำเสียเอง เข้าทำนองว่าแต่เขา อิเหนาเป็นเอง 4. งบประมาณฉบับนี้เป็นงบประมาณคิดใหญ่ ทำเป็น แต่กลับมาเป็นคิดกู้ ทำกู้ ซึ่งสิ่งรัฐบาลที่แล้วทำไว้ คือกู้ 5.93 แสนล้าน แต่รัฐบาลนี้นำไปรื้อ กลายเป็นกู้เพิ่มขึ้นเป็น 6.93 แสน กู้เพิ่มขึ้นแสนล้านบาท ทั้งที่พวกท่านเคยวิจารณ์รัฐบาลที่แล้วว่าเป็นนักกู้แห่งแม่น้ำเจ้าพระยาแต่ตนคิดว่ารัฐบาลนี้กลายเป็นนักกู้ถุงเท้าสีชมพู