ต้องเริ่มจากเลิกใช้ชีวิตและวิธีคิดในแบบเดิมๆ เหมือนที่ผ่านมา ลองทำอะไรใหม่ๆ กับ 7 วิธีรีเซ็ทชีวิตใหม่

 JoyFul   มีความเบิกบาน สนุกสนาน  ละทิ้งความคิดและความรู้สึกที่ทำให้เรารู้สึกท้อแท้หรือเกินจะรับไหว เมื่อเรารู้ตัวว่ากำลังมีความคิดหรือความรู้สึกแบบนี้เกิดขึ้น ให้เตือนตัวเองว่านั่นเป็นเพียงความคิดในใจเท่านั้น แล้วหันไปสนใจอะไรที่มีประโยชน์ต่อชีวิตมากกว่าเรื่องพวกนี้ดีกว่า

Start New Year   เริ่มต้นสนุกไปกับเทศกาลฉลองปีใหม่  ไปเที่ยวกับเพื่อน และครอบครัว  มีความสุขอิ่มเอมไปกับกิจกรรมที่ร่วมทำด้วยกัน   การอยู่กับความวิตกกังวลมากๆ จะกลายเป็นความเครียดสะสมส่งผลเสียต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตของเรา 

Make friends   เปิดใจมองหาเพื่อนใหม่ ๆ  ยิ่งอยู่ในวัยทำงานเราก็มักจะเจอแต่คนเดิมๆ สิ่งแวดล้อมเดิมๆ เพื่อนเก่าๆ ก็ทำงานหรือไปทำธุรกิจของตัวเอง หรือมีครอบครัวจนแทบไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย  เปิดใจหาเพื่อนใหม่ที่จะทำให้เราพบคนเจ๋ง ๆ ที่อาจกลายเป็นเพื่อนสนิทในอนาคต   ลองเลือกไปเข้าร่วมกิจกรรมสักอย่าง เช่น การเรียนทำขนม เวิร์คช็อปงานฝีมือหรืออาสาสมัครทำงานเพื่อสังคม เป็นต้น  อาจจะเปิดโลก พบเพื่อนใหม่ก็เป็นไปได้

Globalization อัพเดทเทรนด์ต่างๆ  ให้ทันยุค ทันสมัย เท่าทันโลกที่เปลี่ยนแปลง  รู้จักคน รู้จักเทคโนโลยี  เพราะต้องยอมรับตอนนี้ คือยุคดิจิทัล  ไม่ว่าจะวัยไหนๆ วัยเด็ก วัยรุ่น วัยเก่า ก็ต้องรู้จักเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลง  เข้ามามีบทบาทในชีวิตการงาน ชีวิตความเป็นอยู่ของเรา   อย่าคิดว่าเราไม่อยากรู้ ไม่อยากเรียนแล้ว ทำให้เราจะคุยกับใครไม่รู้เรื่อง

Health มีเงินเยอะก็แค่ไหนก็ซื้อสุขภาพไม่ได้   ดังนั้นการดูแลรักษาสุขภาพร่างกายของตัวเราเองอย่างถูกต้องและเหมาะสม การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การออกกำลังกายสม่ำเสมอ การพักผ่อนอย่างเพียงพอ ดูแลสภาพจิตใจ ปรับทัศนคติความคิด รวมถึงปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตไม่ให้ทำลายสุขภาพ จะช่วยให้เรามีสุขภาพกายและใจดีขึ้น ทั้งแข็งแรงและสดใส

Life Long Learning   เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เสมอ   สมองของมนุษย์มีไว้เพื่อคิด แก้ปัญหา สร้างสรรค์งาน   ถ้าเราไม่ให้โอกาสตัวเองที่จะตั้งคำถาม สุดท้ายเราจะลงท้ายด้วยความเบื่อ ซึมเศร้า และไม่รู้จะไปทางไหนดี   การเรียนรู้สิ่งใหม่จะช่วยให้สมองแก่ช้าลง  ให้เซลล์สมองใหม่ได้โต ช่วยเพิ่มความคิดและทักษะความยืดหยุ่นในเชิงสร้างสรรค์  และสิ่งสำคัญทำให้เรามีความสุข สนุก กับการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ 

สุดท้ายซึ่งถือว่า สำคัญมากที่สุด  คือ  การให้ความสำคัญกับสุฃภาพใจของเรา  เริ่มจาก การแบ่งปันความสุขให้คนอื่น ลดความเห็นแก่ตัวลง ขึ้นชื่อว่า การแบ่งปัน ไม่มีข้อกำหนด ไม่มีรูปแบบ หรือขอบเขตที่จะมากะเกณฑ์แบบตายตัว การแบ่งปันเป็นการให้ที่ผู้ให้มุ่งที่จะช่วยเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายหรือขาดแคลนให้แก่อีกฝ่ายคือ ผู้รับ  และที่สิ่งที่ผู้ให้ได้กลับคืนมา คือ ความสุขในใจนั่นเอง

ขอบคุณข้อมูล : ศ.นพ.รณชัย คงสกนต์ ผอ.โรงพยาบาล BMHH - Bangkok Mental Health Hospital