เครือข่ายคลินิกโรคหืดและโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังอย่างง่าย (Easy Asthma and COPD Clinic หรือ EACC) นำโดย รศ.นพ.วัชรา บุญสวัสดิ์ ประธานเครือข่าย EACC เป็นตัวแทนมอบอุปกรณ์ทดสอบสมรรถภาพปอด Peak Flow Meter ในแคมเปญ ’ปอด‘ ปลอดภัย รณรงค์ให้ตระหนักถึงความสำคัญของการตรวจเช็คสุขภาพปอด เพื่อให้ผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจปลอดภัยจากอาการรุนแรง ท่ามกลางสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 โดยมอบให้กับโรงพยาบาลในสังกัดสำนักงาน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข จำนวนกว่า 900 แห่งทั่วประเทศ โดยมีนพ.ภาณุมาศ ญาณเวทย์สกุล รักษาราชการแทนรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้รับมอบ

นพ.ภาณุมาศ กล่าวชื่นชมเครือข่าย EACC ซึ่งดำเนินงานมาเกือบ 20 ปี มีเครือข่าย คลินิกโรคหืดและโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังอย่างง่าย ซึ่งตั้งอยู่ในโรงพยาบาลกว่า 1,400 แห่งทั่วประเทศ ว่าสามารถทำให้ผู้ป่วยเข้าถึงการจัดบริการสุขภาพเฉพาะโรคผ่านสหวิชาชีพอย่างเข้มแข็ง พร้อมส่งต่ออุปกรณ์ทดสอบสมรรถภาพปอด Peak Flow Meter เพื่อใช้ในการคัดกรองผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจในเชิงรุก ซึ่งเป็นนโยบายหลักของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อป้องกันและลดความรุนแรงอาการของโรคระบบทางเดินหายใจ อันเนื่องมาจากสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ในทั่วประเทศ

รศ.นพ.วัชรา กล่าวว่า ปัจจุบันมีการขยายเครือข่าย EACC ในโรงพยาบาลและเครือข่ายกว่า 1,400 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งได้จัดให้มีบริการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคหืดและโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังอย่างง่ายตามมาตรฐาน สอดคล้องกับทิศทางนโยบายการพัฒนาระบบบริการสุขภาพ (Service Plan) ของกระทรวงสาธารณสุขโดยเฉพาะสาขาโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ซึ่งโรคหืดและโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง ถือเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ซึ่งคาดว่าจะมีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงอากาศเย็นและสภาพอากาศปิด 

สำหรับอุปกรณ์ทดสอบสมรรถภาพปอด Peak Flow Meter ใช้ในการคัดกรองเบื้องต้น ซึ่งจะทำให้บุคลากรทางการแพทย์สามารถคัดกรองผู้ป่วยโรคหืดและโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังในเชิงรุก จึงอยากเชิญชวนให้ตรวจเช็คสุขภาพปอด เพื่อ ’ปอด‘ปลอดภัย ณ สถานพยาบาลใกล้บ้าน เพื่อประโยชน์ในเชิงป้องกันความรุนแรงอาการโรคระบบทางเดินหายใจ และยังลดงบประมาณด้านสาธารณสุขประเทศในระยะยาวด้วย

ทั้งนี้แพทย์แนะผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคหืด โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง และโรคภูมิแพ้ทางจมูก ในช่วงที่สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 มีการแพร่กระจาย และจะฟุ้งมากโดยเฉพาะในช่วงอากาศเย็นและมีสภาพอากาศปิด ขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของบุคลากรทางการแพทย์อย่างใกล้ชิด หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้ง เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงที่อาจจะก่อให้เกิดการกระตุ้นความรุนแรงอาการของโรคได้.-