เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 28 ธ.ค.66 นายเทพฤทธิ์ แป้นสุข กรรมการผู้จัดการบริษัทครูกายแก้ว ได้เผชิญหน้ากับ ทนายความของบริษัท แบงค์ค็อกไนท์บาซาร์ ในฐานะเจ้าของพื้นที่ เนื่องจาก ไม่เห็นด้วยที่จะมีการย้ายรูปปั้นออกทั้งหมด จึงได้มีการเจรจานานกว่า 30 นาที 


โดยทนายยืนยันว่า จำเป็นต้องย้ายออก เนื่องจากพื้นที่ของการรถไฟ ไม่สามารถอนุญาติให้มีการปล่อยเช่าช่วงได้ และผู้บริหารชุดเก่า ที่ใช้ชื่อบริษัทสวนลุมไนท์บาร์ซ่า ไปปล่อยให้เช่าก็ไม่สามารถทำได้ เพราะเจ้าของพื้นที่จริงๆที่ได้รับสิทธิจากการรถไฟฯ คือ บริษัท แบงค์ค็อกไนท์บาซาร์ 

ซึ่งการรถไฟ สั่งให้รื้อถอน และขนย้ายสิ่งปลูกสร้างออกไปภายใน 30 วัน พอได้หนังสือจากการรถไฟแล้ส ทางบริษัทก็กลัวถูกบอกเลิกสัญญา จึงได้ดำเนินการเสียค่าปรับ เป็นจำนวนเงิน 1.3 ล้านบาท ซึ่งจ่ายไปแล้ว เมื่อวันที่ 22 ธันวาคมที่ผ่านมา ทางบริษัทจึงรีบทำตามระเบียบของการรถไฟ ถ้าหากถูกยกเลิกสัญญท จะเสียหายหนัก ทั้งนี้ ระเบียบการรถไฟกำหนดชัดเจนอยู่แล้วทุกพื้นที่ ว่าพื้นที่การรถไฟ ไม่มีสิทธิออกให้เช่าช่วงได้อย่างแน่นอน 

นายเทพฤทธิ์ กล่าวว่า ตามสัญญานเช่าที่ได้เช่าอย่างถูกต้อง ณ ตอนนั้น ก็คงให้กฎหมายให้ศาลคุ้มครอง และให้ศาลพิจารณา จึงจะเป็นทางออกได้ดีที่สุด และวันนี้ถ้าเขายก เขาก็ต้องรับผิดชอบไป ส่วนจะเอาไปไว้ไหนคงไว้ในนี้ก่อน เพราะเราก็มีหนังสือ มีสัญญาถูกต้อง ถ้าเกิดการย้ายการยก แล้วเสียหายเขาก็ตเองรับผิดชอบ มูลค่าความเสียหายก็หลายสิบล้านอยู่ ส่วนที่อ้างว่าถูกหลอก เราก็มีเอกสารชี้แจง 

บริษัทตนเองได้ดำเนินการตามสัญญานเช่าที่อย่างถูกต้อง และจะยื่นให้ศาลพิจารณา จึงจะเป็นทางออกได้ดีที่สุดส่วนการเคลื่อนย้ายวันนี้ หากมีความเสียหาย ตนเองก็จะฟ้องร้องหลับแน่นอน เพราะมูลค่าหลายสิบล้านบาท 

และหลังจากมีการเจรจากันเสร็จสิ้น ทางเจ้าของโรงแรม ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ ก็สั่งให้เครน ดำเนินการยกรูปปั้นครูกายแก้วออกทันที และนำขึ้นรถเครน  ทะเบียนรถ 72-5524 สระบุรี เพื่อไปเก็บไว้หลังโรงแรม แล้วใช้ผ้าคลุมเอาไว้ และรอให้ทางบริษัทครูกายแก้วมารับไป