"พิธา" ควง "ชัยธวัช" เข้าไต่สวนพยานบุคคล คดีแก้ ม.112 เผยไม่มีเจตนาล้มล้างการปกครอง มั่นใจไม่ถูกยุบพรรค ไม่กังวลหากจะมีผู้ร้องยื่นยุบพรรคในภายหลัง

ศาลรัฐธรรมนูญนัดไต่สวนพยานบุคคลในคดีที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 ว่าการกระทำของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ผู้ถูกร้องที่ 1 และ พรรคก้าวไกล ผู้ถูกร้องที่ 2 ที่เสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่…) พ.ศ… เพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112

โดยใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้งและยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่องเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 วรรคหนึ่งหรือไม่

นายพิธา เดินทางมาพร้อมนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล โดยนายพิธาให้สัมภาษณ์ก่อนไต่สวนพยานบุคคลว่าวันนี้จะใช้ข้อเท็จจริงและหลักกฎหมาย อธิบายว่าการดำเนินการตามกระบวนการนิติบัญญัติไม่เท่ากับการล้มล้าง เป็นกระบวนการที่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญทุกประการ แม้จะมีคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยก็ตาม

นายพิธา กล่าวว่า ไม่มีความหนักใจ เพราะได้ทบทวนข้อเท็จจริง เตรียมตัวอธิบายเขียนอธิบายไว้แล้ว ซึ่งวันนี้จะอธิบายถึงเจตนาลดวิกฤตทางการเมือง และทางสายกลางในช่วงหนึ่งทศวรรษที่ผ่านมา ทั้งนี้บทลงโทษของข้อร้องเรียนนี้ไม่ถึงขั้นยุบพรรค  หากพิจารณาคดีแล้วไม่เป็นคุณ ศาลจะสั่งให้หยุดดำเนินการตามที่ผู้ร้องเรียกขอเท่านั้น ไม่มีกระบวนการยุบพรรค ย้ำว่ากระบวนการนิติบัญญัติไม่เท่ากับการล้มล้าง ไม่กังวลหากจะมีผู้ร้องยื่นยุบพรรคในภายหลัง เพราะเป็นเรื่องอนาคต 

ขณะเดียวกันด้าน นายชัยธวัช เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาได้ยื่นเอกสารหลักฐานไป 2 รอบแล้ว วันนี้ขึ้นอยู่กับว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีประเด็นอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ เรายืนยันโดยข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย และเจตนาว่าการกระทำของพรรคก้าวไกลไม่ได้นำไปสู่การล้มล้างการปกครอง  ส่วนแผนรองรับกรณีศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ยกเลิกนโยบายนี้ คงต้องดูรายละเอียดของคำวินิจฉัยอีกครั้ง ตอนนี้ยังไม่ได้เตรียมการอะไรนอกจากการอภิปรายงบประมาณปี 2567

 

#พิธาลิ้มเจริญรัตน์ #ก้าวไกล #พรรคก้าวไกล