วันที่ 24 ธ.ค. 2566 นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ  เปิดเผยว่า วันนี้ตนได้ส่งหนังสือถึงนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลังเพื่อขอให้สอบหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับมูลค่าของขวัญที่แจกให้ดาราต่าง ๆ ในงานปีใหม่เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งงานแจกของขวัญดังกล่าว มีหลักฐานปรากฏในสื่อต่าง ๆ ว่ามีดาราหลายคนได้รับของขวัญที่มีราคาสูง เช่น ทองคำหนัก 30 บาท กระเป๋าแบรนด์แนมมูลค่า 800,000 บาท และของขวัญอื่น ๆ ที่ตีมูลค่าหรือราคาได้ เป็นต้น
 
นายเรืองไกร กล่าวว่า จากข้อเท็จจริงที่ปรากฏ เป็นเรื่องดาราคนดังที่เป็นบุคคลสาธารณะได้รับของขวัญจากมาดามแป้ง ซึ่งเป็นเรื่องที่มีการนำมาลงในสื่อต่าง ๆ ไปแล้ว กรณีนี้เกิดขึ้นบ่อย ๆ ยังไม่ใช่เรื่องที่จะผิดกฎหมาย แต่ผลที่ตามมาคือหน้าที่ของผู้รับซึ่งจะต้องนำมูลค่าของขวัญที่ได้รับ ไปถือเป็นเงินได้พึงประเมินปี 2566 ที่จะต้องนำไปยื่นแบบเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภายในเดือนมี.ค. 2567 
 
นายเรืองไกร กล่าวว่า กรณีดังกล่าว เชื่อว่าทั้งคนให้และคนรับคงไม่ได้นึกถึงว่าจะมีภาระภาษีที่ต้องเสีย หรือมีเหตุที่จะถูกตรวจสอบ และเชื่อว่านายกฯ ซึ่งเป็น รมว.คลังด้วย ก็คงไม่ทราบเรื่องภาระภาษีดังกล่าว  ดังนั้น เพื่อให้ดาราผู้รับของขวัญ มีหน้าที่นำมูลค่าของขวัญไปเสียภาษีให้รัฐ กรณี จึงควรขอให้นายกฯ ตรวจสอบมูลค่าของขวัญจากมาดามแป้งเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการเก็บภาษีต่อไป

จึงได้ทำหนังสือถึงนายกฯ เพื่อขอให้ตรวจสอบ ดังนี้ 1. ตรวจสอบมูลค่าของขวัญตามข่าวที่ปรากฏ ว่ามีมูลค่าเท่าใด ซึ่ง เมื่อมีการรับของขวัญแล้ว เงินได้ย่อมเกิดขึ้น ดาราผู้รับของขวัญ ก็ต้องนำมูลค่าของขวัญไปเสียภาษีตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 50 (9) ที่บัญญัติว่า “มาตรา 50 บุคคลมีหน้าที่ ดังต่อไปนี้ ... (9) เสียภาษีอาการตามที่กฎหมายบัญญัติ” 

 2. กรณีการรับของขวัญปีใหม่ตามข่าวดังกล่าว มูลค่าของขวัญต่างๆ เช่น ทองคำ นาฬิกา กระเป๋า แหวน ต่างหู ที่ผู้รับจะต้องถือเป็นเงินได้พึงประเมินเพื่อนำไปรวมเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภายในเดือนมีนาคม 2567 ตามที่ประมวลรัษฎากรบัญญัติไว้ ซึ่งการถือเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 วงเล็บใดนั้น ควรถือปฏิบัติตามแนวทางในหนังสือตอบข้อหารือที่ กค 0706/5182 วันที่ 19 มิ.ย. 2549 
               
 3. ดังนั้น เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงว่าของขวัญแต่ละชิ้นที่ดาราแต่ละคนรับไปตามข่าวนั้น มีมูลค่าเท่าใด ตรงตามข่าวหรือไม่ ในเบื้องต้นจึงต้องตรวจสอบมูลค่าของขวัญจากผู้ให้คือมาดามแป้ง หรือ คุณนวลพรรณ ล่ำซำ เสียก่อน ซึ่งหลักฐานที่จะพิสูจน์มูลค่าได้ก็คือใบเสร็จรับเงินจากการซื้อของขวัญชิ้นต่าง ๆ ซึ่งควรเป็นใบเสร็จรับเงินหรือใบกำกับภาษีจากผู้ขาย และน่าเชื่อว่า การซื้อของขวัญแต่ละชิ้นซึ่งมีมูลค่าสูงจะต้องมีหลักฐานการจ่ายเงิน ทั้งนี้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ของรัฐระดับอธิบดีคนหนี่ง เคยยื่นบัญชีกรณีพ้นจากตำแหน่งเมื่อ ก.ย. 2563 โดยแจ้งคุณนวลพรรณ ล่ำซำ ในฐานะคู่สมรสว่า มีรายได้รวม107 ล้านบาทเศษ รายจ่ายรวม 21 ล้านบาทเศษ ทรัพย์สินรวม 4,651 ล้านบาทเศษ หนี้สินรวม 100 ล้านบาทเศษ ต่อ ป.ป.ช. มาก่อนแล้ว 
 
" จึงส่งหนังสือทางไปรษณีย์ EMS เพื่อขอให้นายกฯเศรษฐา สั่งให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากมาดามแป้ง ว่ากรณีขวัญปีใหม่ที่แจกให้ดารานั้นว่า แต่ละชิ้น มีมูลค่าเท่าใด ซื้อจากที่ใด มีใบเสร็จหรือไม่ และตรวจสอบดาราแต่ละคนที่ได้รับของขวัญไปแล้ว จะต้องนำมูลค่าของขวัญดังกล่าว ไปรวมเสียภาษีกับเงินได้พึงประเมินประเภทอื่น ที่ได้รับมาตลอดปี 2566  โดยต้องเสียภาษีภายในมี.ค. 2567 ให้แก่กรมสรรพากร คนละเท่าใด" นายเรืองไกร กล่าว