"พวงเพ็ชร" แจงโปรเจ็คกระเช้าขึ้นภูกระดึง กรมอุทยานเพิ่งอนุมัติพ.ย.66 ยันอยู่ในขั้นออกแบบ ส่งแนบอีไอเอ-อพท.ต่อ เตรียมชงครม.สัญจร ใช้ 28 ล้านค่าสำรวจออกแบบ เชื่อกระตุ้นท่องเที่ยว จ.เลย
วันที่ 4 ธ.ค.2566 เวลา 08.20 น.ที่โรงแรมณัฐพงษ์ แกรนด์ อ.เมือง จ.หนองบัวลําภู นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นอกสถานที่อย่างเป็นทางการ ถึงกรณีที่ จ.เลยของบประมาณดำเนินการสร้างกระเช้าลอยฟ้าขึ้นภูกระดึง จะใช้งบจากส่วนไหน และจะมีการอนุมัติในที่ประชุม ครม.วันนี้หรือไม่ว่า ตนขอชี้แจงเพื่อไม่ให้เป็นการคลาดเคลื่อน เนื่องจากเมื่อวาน (3 ธ.ค.) ตนได้ไปตรวจราชการที่ จ.เลย และคุยกับทางจังหวัดเรื่องงบประมานต่างๆ ที่จะขอในการประชุม ครม.วันนี้ ซึ่งมี 4 ด้าน ได้แก่ 1. ปัญหาความยากจน 2. ยาเสพติด 3. การแก้ไขปัญหาที่ดินทำกิน 4.เรื่องการเกษตร
นางพวงเพ็ชร กล่าวว่า ในส่วนงบประมาณที่ทาง จ.เลยจะขอนั้น ส่วนหนึ่งเป็นการสำรวจออกแบบก่อสร้างกระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูกระดึง ซึ่งตามมติ ครม.เมื่อเดือน ก.พ. ปี 2555 เห็นชอบให้มีองค์การบริหารพื้นที่พิเศษ (อพท.) ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งเห็นชอบว่า จ.เลยมีหลายจุดที่จะทำให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งงบที่จะขอจำนวน 28 ล้านบาทนั้น เป็นค่าสำรวจและออกแบบการก่อสร้าง ซึ่งการทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะต้องมีแบบแปลนเพื่อแนบในการขออีไอเอ ดังนั้นทางจังหวัดจึงต้องออกแบบเพื่อประกอบการพิจารณาของกระทรวงทรัพย์ฯ เมื่อเห็นชอบอีไอเอแล้วก็จะส่งไปให้ทาง อพท.ของกระทรวงการท่องเที่ยวฯ เพื่อนำเข้าที่ประชุม ครม.อีกครั้ง จึงอยากแจ้งให้ทราบว่าวันนี้เป็นเพียงการของบออกแบบสำรวจก่อสร้าง ส่วนเหตุที่ล่าช้าและยังไม่ได้ออกแบบ เพราะเนื่องจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เพิ่งอนุมัติให้เข้าพื้นที่ได้เมื่อเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา จึงเพิ่งเริ่มเข้าไปสำรวจได้
เมื่อถามว่าขณะนี้ยังมีกลุ่มต่อต้านอยู่หรือไม่ นางพวงเพ็ชร กล่าวว่า ขณะนี้ จ.เลยเป็นจังหวัดท่องเที่ยว ซึ่งไม่ใช่เฉพาะหน้าหนาวที่จะไปแค่ภูเรือหรือเชียงคาน แต่เราต้องทำการท่องเที่ยวทั้งปี ทุกเดือน ให้มีนักท่องเที่ยวตลอด จึงอยากให้มีกระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูกระดึง เรื่องนี้โครงการอนุมัติมา 20-30 ปีแล้ว ก็ยังไม่มีการดำเนินการสักที ในฐานะอดีต ส.ส.เลย อยากเห็นโครงการนี้ดำเนินไปเพื่อคนจังหวัดเลย ส่วนการต่อต้านนั้น เมื่อก่อนจากการศึกษามีทางขึ้น 2 ทาง ทางที่ 1 ยังเป็นทางเดินเท้าอยู่ ส่วนทางด้านหลังจะเป็นกระเช้า เป็นคนละทางกัน
“ใครอยากได้ฟิลลิ่งการเดินก็เดินขึ้นไป คนแก่คนเฒ่าอยากจะเห็นยอดภูเรือหรือเมืองเลย ก็ไปขึ้นด้านกระเช้า เมื่อเป็นความเจริญของ จ.เลยแล้ว ทุกคนคงเห็นชอบถ้ามียอดรายได้เข้าจังหวัดมากมาย และต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกคนทั้งไทยและต่างประเทศ”รมต.ประจำสำนักนายกฯ กล่าว