ธนกฤตยื่นจดหมายเสี่ยแป้ง ให้ก.ยุติธรรมตรวจสอบปมเจ้าหน้าที่ทุจริตในเรือนจำ อัยการสูงสุดสั่งย้ายอัยการบเข้าประจำส่วนกลาง หลังถูกเสี่ยแป้งพาดพิง ด้านศาลพัทลุงออกหมายจับเสี่ยแป้ง เพิ่มอีก 3 ข้อหา ขณะที่ตำรวจคุมตัวชายรายหนึ่งเค้นสอบ คาดพาเสี่ยแป้งหนี

     
ที่กระทรวงยุติธรรม เมื่อวันที่ 30 พ.ย.66 นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกรัฐมนตรี เดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนของ นายเชาวลิต ทองด้วง หรือ"เสี่ยแป้ง นาโหนด" ที่เรียกร้องความเป็นธรรมเพื่อให้กระทรวงยุติธรรมดำเนินการตรวจสอบ
     
โดย นายกองตรี ดร.ธนกฤตได้คุยมีการพูดคุยกับ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง  รมว.ยุติธรรม เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว  โดยกล่าวว่า ตอนนี้เสี่ยแป้งมอนิเตอร์สิ่งที่เราดำเนินการอยู่ตลอด ประเด็นการร้องทุกข์ของเสี่ยแป้งเป็นการร้องทุกข์ปกติทั่วไป เพียงแต่เรื่องนี้ประชาชนให้ความสนใจ โดยการหลบหนีของเสี่ยแป้งยังคงเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และคดีความยังเหมือนเดิม แต่สำหรับหนังสือที่นำมายื่นวันนี้ มีประเด็นเกี่ยวข้องกับกรมราชทัณฑ์เป็นหลัก ประกอบด้วย 2 เรือนจำที่มีปัญหาคือ  เรือนจำพัทลุงและเรือนจำนครศรีธรรมราช  โดยมีเหตุผล ดังนี้ มีผู้ต้องขัง 339 ราย ร่วมกันลงชื่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกรับเงิน สินค้าราคาปรับสูงขึ้น ซึ่งราชทัณฑ์ต้องตรวจสอบ มีผู้ต้องขัง 2 ราย ถูกทรมาน ลงโทษ ทำร้ายร่างกาย โดยการดำเนินการทั้ง 3 เรื่องดังกล่าว เป็นประเด็นที่อยู่ใน 7 ข้อ ที่เสี่ยแป้งขอมาในจดหมาย ซึ่งรมว.ยุติธรรมได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยมีกรมราชทัณฑ์ ปปส. และดีเอสไอเป็นคณะกรรมการร่วม ซึ่งดำเนินการตั้งและมีคำสั่งแล้ว เนื่องจากเรื่องนี้เกี่ยวพันกับยาเสพติดด้วย
    
 นอกจากนี้ ยังได้รับแจ้งว่าญาติของเสี่ยแป้งมีความกังวลใจเรื่องความปลอดภัย เรื่องนี้ตนจะประสานกระทรวงยุติธรรมจังหวัดลงพื้นที่ เพื่อคุ้มครองพยาน และสิทธิของญาติ ผู้สื่อข่าวถามว่า ภายหลังมีกระบวนการยื่นหนังสือดังกล่าว มั่นใจแค่ไหนว่าเสี่ยแป้งจะมอบตัวเร็วที่สุด นายกองตรี ดร.ธนกฤต กล่าวว่า จากที่พูดคุยมานั้น คำขอข้อ 1 ตนไม่อาจก้าวล่วง แต่คาดว่าจะมีคลิปของเสี่ยแป้งถูกปล่อยออกมาอีก 3-4 คลิป พูดความรู้สึกจากเรื่องราวที่ถูกดำเนินการ โดยคลิปที่ 3 ที่ถูกปล่อยออกมา จากการพิจารณาก็สงสัยว่าเขามีประเด็นอะไร การประกันตัวของศาลเป็นดุลยพินิจที่ก้าวล่วงไม่ได้ และก็ไม่ใช่เหตุผลที่เสี่ยแป้งจะไม่มอบตัว เพราะถ้าไม่มอบตัว จะพูดเรื่องประกันตัวทำไม 
    
 อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าตนไม่มีส่วนได้เสียอะไรกับเสี่ยแป้ง เพราะไม่รู้จักกัน โดยเสี่ยแป้งเองก็ยืนยันมาตลอดว่าจะไม่ต่อสู้ ยืนยันตั้งแต่แรกว่าไม่คิดยิงตำรวจ แต่เขาคงกำลังพิจารณาว่าจะมอบตัวเมื่อไร กับใคร ฝากถามไปทางทนายความว่าถ้าตนดำเนินการให้ครบเสี่ยแป้งจะมอบตัวหรือไม่  ส่วนการที่ตนเดินหน้ายื่นหนังสือของเสี่ยแป้งไปยังหน่วยงานต่างๆ จะถูกมองเป็นการแทรกแซงการทำงานหรือไม่นั้น ตนไม่มองเป็นเรื่องการแทรกแซง เพราะเป็นเรื่องที่มีคนส่งข้อมูลมา และเลือกไม่ได้ว่าประชาชนจะอยู่ในหรือนอกเรือนจำ เรื่องนี้ไม่ควรยืดเยื้อ ควรจบ และไม่มีเงื่อนไขใดๆ
     
ขณะที่ นายสมภพ รุจจนเวท  หัวหน้าผู้ตรวจราชการกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า สำหรับทั้ง 3 ประเด็น โดยที่เรือนจำกลางพัทลุง ประเด็นมีการขายสินค้าราคาแพง เบื้องต้นกรมราชทัณฑ์มีระเบียบ และขั้นตอนในการจำหน่ายสินค้า ว่าจะไม่ขายเกินราคาตลาด และเปรียบเทียบราคาระหว่างเรือนจำข้างเคียงทุก 3 เดือน โดยทางกรมฯ จะลงไปตรวจสอบว่ามีการจำหน่ายราคาแพงจริงหรือไม่ ถ้าพบจริงถือว่าผิดระเบียบ ส่วนเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ประเด็น 393 ผู้ต้องขังลงชื่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกรับเงินนั้น ทางกรมฯ จะไปสืบว่าปัจจุบันมีที่มาที่ไปอย่างไร และมีใครบ้างที่ลงชื่อ ส่วนผู้ต้องขังอีก 2 ราย ที่ถูกทำร้ายร่างกายนั้น ปัจจุบันกรมราชทัณฑ์ได้ปรับปรุง และกำหนดเงื่อนไขการดำเนินงาน โดยเฉพาะเรื่องการทรมาน การทำร้ายร่างกาย มาหลายปีแล้ว ทั้งนี้ จะดำเนินการตรวจสอบ หากมีการทำร้ายร่างกายจริง จะสอบข้อเท็จจริงต่อไป
   
  ด้าน นายประยุทธ เพชรคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยภายหลัง นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกรัฐมนตรี ยื่นหนังสือร้องเรียนของ นายเชาวลิต ทองด้วง หรือ"เสี่ยแป้ง นาโหนด" ที่เรียกร้องความเป็นธรรม เพื่อให้ทำการตรวจสอบกรณีคำกล่าวอ้างของ "เสี่ยแป้ง" ที่เกี่ยวข้องกับอัยการเรียกรับสินบนจำนวน 5 แสนบาท และกรณีอัยการ บ โดยมีทีมโฆษกอัยการสูงสุดเป็นผู้รับหนังสือ ว่า เรื่องที่นายแป้งเผยแพร่คลิปซึ่งมีการพาดพิงถึงพนักงานอัยการในพื้นที่อัยการภาค 9 เรื่องดังกล่าวอัยการสูงสุดไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้มีการติดตามตรวจสอบมาก่อนหน้านี้ ซึ่งเรื่องดังกล่าวทางอัยการสูงสุดเคยได้รับเรื่องจากมือที่ 3 หรือผู้ไม่หวังดีนำหนังสือดังกล่าวไปวางไว้ที่ศาลแขวงจังหวัดสงขลา เพื่อให้ทำการตรวจสอบ ก่อนที่จะมีคลิปเผยแพร่ออกมาในช่วง 3 สัปดาห์ หลังจากนั้นอัยการสูงสุดได้ทำการตรวจสอบทันที ซึ่งพบว่านายเลอศักดิ์ อัยการผู้เชี่ยวชาญ สำนักงานอัยการภาค 9 รักษาการตำแหน่งอัยการจังหวัดคดีศาลแขวงสงขลา ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง คาดว่าเป็นการยื่นหนังสือจากบุคคลที่ 3 หรือผู้ไม่หวังดี ซึ่งสอดคล้องกับที่นายแป้ง เผยแพร่คลิปว่าไม่ได้มีผู้ร้องเรียนอัยการจังหวัดคดีศาลแขวงสงขลา
    
 ส่วนกรณี อัยการ บหลังจากที่อัยการสูงสุดสั่งสำนักงานวิชาการให้รับสำนวนคดีนายแป้งที่กล่าวหาอัยการ บ มาตรวจสอบเมื่อวันอังคารที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมา ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาสำนวน ซึ่งช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ อัยการสูงสุดมีคำสั่งย้ายอัยการ บ" เข้ามาส่วนกลาง หรือสำนักงานอัยการการค้ามนุษย์ที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ เพื่อไม่ให้เกี่ยวข้องกับงานคดี โดยยืนยันว่าการสั่งย้ายไม่ได้หมายความว่า อัยการ บ. มีความผิดแต่ย้ายเพื่อให้การตรวจสอบเป็นไปด้วยความโปร่งใสและสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน
     
สำหรับการตรวจสอบมี 2 สำนวน โดยขณะนี้กรณีที่นายแป้งเป็นโจทก์ยื่นฟ้องตำรวจชุดจับกุม 8 นาย พลเรือน 1 นาย ในกรณีอุ้มรีดทรัพย์และกักขังหน่วงเหนี่ยว แลกกับการไม่ดำเนินคดีนั้น ขณะนี้พนักงานอัยการได้มีความเห็นสั่งฟ้องไปเมื่อวันที่ 13 ก.ย.66 และอยู่ระหว่างนัดนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดมาฟ้องพร้อมสำนวนในวันที่ 22 ธ.ค.นี้ ในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157, กักขังหน่วงเหนี่ยว และข้อหาอื่นๆ รวม 10 ข้อหา
     
ส่วนประเด็นที่นายแป้ง อ้างว่าอัยการฯ เรียกรับผลประโยชน์ เป็นจำนวนเงิน 500,000 บาท ในส่วนข้อกล่าวหาจะต้องรอคณะกรรมการที่อัยการสูงสุดตั้งขึ้นมาตรวจสอบในประเด็นที่นายแป้งร้องเรียนว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม แล้วทางอัยการจะมีการชี้แจงถึงผลการสอบสวนอีกครั้ง ส่วนจะมีการสั่งย้ายอัยการที่ถูกกล่าวอ้างหรือไม่นั้นมองว่าเรื่องนี้ยังไกลไปที่จะมีคำสั่งได้ จะให้เหมือนการสั่งย้าย อัยการ บเลยไม่ได้ ส่วนการที่สังคมทำไมต้องเชื่อจากจดหมายร้องเรียนของนายแป้ง แล้วถึงลงไปตรวจสอบ ยืนยันว่าไม่ใช่แบบนั้น แต่มองว่าการตรวจสอบ หากมีคนท้วงติงในเรื่องสั่งคดี อีกทั้งเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ ทางอัยการสูงสุดจึงให้ความสำคัญที่จะต้องทำให้มันโปร่งใส เพื่อตอบกลับสังคมให้ได้
     
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ นายเชาวลิตหรือเสี่ยแป้ง ได้เปิดเผยจดหมายที่เขียนด้วยลายมืออย่างบรรจง ประสานผ่านทนายความของนายแป้ง ซึ่งสรุปใจความได้ว่า มีตำรวจ 3 นาย แบ่งเป็นตำรวจชั้นสัญญาบัตร 2 นาย และชั้นประทวน 1 นาย เรียกรับสินบนแลกกับการไม่ดำเนินคดี เป็นจำนวนเงิน 50,000 บาท
    
 ต่อมาได้มีอัยการเรียกเพิ่มอีก 500,000 บาท แต่เสี่ยแป้งได้ปฏิเสธที่จะจ่ายเงินให้ไป จึงดำเนินการสั่งฟ้องตนเพียงแค่คนเดียว ให้ตรวจสอบสินค้าในเรือนจำ เนื่องจากมีการขายสินค้าเกินราคากว่าที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด ให้ตรวจสอบพฤติกรรมของผู้คุมเรือนจำ ซึ่งเสี่ยแป้งอ้างว่าผู้คุมเรือนจำได้มีการทำร้ายร่างกายผู้ต้องขัง รวมทั้งให้มีการรื้อฟื้นคดีของตน
 
มีรายงานว่า ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา นายเชาวลิตหรือแป้ง ได้ปล่อยคลิป 3 ความยาว 04.56 นาที ตั้งคำถามสาเหตุที่ตนเองไม่ได้รับอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวมาสู้คดี เสี่ยแป้ง ระบุว่า อยากกราบเรียนประธานศาลฎีกา ศาลอุทธรณ์ และศาลชั้นต้นของจังหวัดพัทลุง โดยตนเองเป็นเพียงคนเดียวที่ไม่ได้รับอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวในขณะถูกดำเนินคดี และตั้งคำถามถึงสาเหตุที่นายจรวดถูกตั้งข้อหาพยายามฆ่าเจ้าหน้าที่ แต่ได้รับอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว เช่นเดียวกับคนอื่น ๆ
   
  เสี่ยแป้ง กล่าวอีกว่า เพราะตนเองมีปัญหากับเจ้าหน้าที่รัฐใช่หรือไม่ และต้องการถามถึงวงเงินประกัน ตนเองทำธุรกิจอู่ซ่อมรถ แต่ต้องเจ๊ง ซ่อมรถให้ลูกค้าไม่เสร็จ เพราะไม่ได้อยู่ดูแลธุรกิจ จึงต้องคำถามว่าเหตุใดศาลระบุเพียงว่าได้ใช้ดุลยพินิจ แต่ไม่กำหนดวงเงินประกัน หรือเงื่อนไขต่างๆ เพื่อให้สู้คดี เพราะตนเองยอมรับเงื่อนไขทุกอย่างทั้งติดกำไล EM วางหลักทรัพย์ประกัน ไม่ให้ประกันตัว รู้ไหมว่าเขามีครอบครัว มีธุรกิจ ต้องกลายเป็นบุคคลล้มละลาย เสียสิทธิหลายอย่าง รู้สึกอึดอัดใจ อยากให้ศาลมีหลักเกณฑ์ชัดเจนว่าคดีแบบใดบ้างที่จะไม่ได้อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว เพราะตนเองต้องเสียค่าใช้จ่ายทั้งการเดินทาง จ้างทนายความสู้คดี แต่กลับไม่ได้รับพิจารณาปล่อยตัวชั่วคราว

 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าดคี ล่าสุด ศาลพัทลุง ออกหมายจับ นายเชาวลิตหรือแป้ง เพิ่มอีก 3 คดี ลงวันที่ 24 พ.ย.66 ในข้อหา ร่วมกันมีอาวุธปืน ที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร หรือเหตุจำเป็นเร่งด่วนสมควรแก่พฤติกรรม
   
  โดยการออกหมายจับดังกล่าว เป็นผลสืบเนื่องมาจาก เหตุยิงปืนบนถนน ในพื้นที่ หมู่ 5 ต.คลองเฉลิม อ.กงหรา จ.พัทลุง เมื่อเวลา 19.30 น. ของวันที่ 17 พ.ค.64 ที่ผ่านมา ครั้งนั้นเจ้าหน้าที่เก็บปลอกกระสุนขนาด 9 มม. และขนาด 5.56 ได้ รวม 9 ปลอก และจากการตรวจสอบปลอกกระสุนพบตรงกับปลอกกระสุนที่เสี่ยแป้งใช้ยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ บนเทือกเขาบรรทัด เมื่อวันที่ 8 พ.ย. ที่ผ่านมา
     
นอกจากนั้น มีรายงานด้วยว่า ปลอกกระสุนดังกล่าวยังไม่ตรงกับคดีฆ่าผู้อื่น ในพื้นที่ สภ.โคกชะงาย อ.เมืองพัทลุงด้วย ส่วนคดีร่วมกันพยายาม ฆ่าเจ้าพนักงาน เมื่อ ปี 62 ศาลพัทลุง ได้เลื่อนการพิจารณาคดี ไปในวันที่ 20 ธ.ค.66 ที่จะถึงนี้
    
 วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานจากจ.พัทลุง ว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าตำรวจชุดสืบสวนภาค 9 นำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งใน อ.ตะโหมด พร้อมควบคุมตัวชายรายหนึ่ง ที่คาดว่าจะเป็นหนึ่งในกลุ่มบุคคลที่พาเสี่ยแป้งหลบหนีจากบ้านในตระมาสอบสวนอยู่ที่ สภ.ตะโหมด จ.พัทลุง