เปิดเบื้องลึก ! เด้ง "สุริยา" พ้นเก้าอี้ดีเอสไอ

วันที่ 29 พ.ย.2566 จากกรณีที่ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมามีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอโยกย้าย พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล จากตำแหน่ง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (อธิบดีดีเอสไอ) ไปเป็น รองปลัดกระทรวงยุติธรรม นั้นมีการตั้งข้อสังเกตว่าสาเหตุการโยกย้ายครั้งนี้มาจากการที่พ.ต.อ.สุริยา กำลังทำคดีปราบปรามหมูเถื่อน และเคยถูกนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ตำหนิเรื่องการทำงานที่ล่าช้า และไม่สามารถสาวถึงตัวการใหญ่ได้ 

ทั้งนี้มีรายงานว่า เบื้องหลังการโยกย้ายเนื่องจาก พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ต้องการผลักดันพ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีดีเอสไอ ที่ได้รับการแต่งตั้งให้ปฎิบัติหน้าที่รักษาราชการแทนอธิบดีดีเอสไอขึ้นเป็นอธิบดีดีเอสไอ เนื่องจากมีความใกล้ชิดในฐานะเคยเป็นผู้ใต้บังคับบัญชามาก่อน ขณะเดียวกันก่อนการโยกย้าย ตัวพ.ต.ต.สุริยา รู้ตัวมาก่อนหน้านี้แล้วว่าในการประชุมครม. เมื่อวันที่ 28 พ.ย.ว่าพ.ต.อ.ทวี  จะเสนอเรื่องนี้ให้ครม.เห็นชอบ เนื่องจากนายกฯได้เคยแสดงความไม่พอใจอธิบดีดีเอสไอ ขณะเข้ารายงานผลการดำเนินที่สนามบินสุวรรณภูมิ ก่อนที่นายกฯจะเดินทางไปสหรัฐฯ เพื่อเข้าร่วมประชุมเอเปค 2023  จึงปฏิบัติการตรวจค้น บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน)  เมื่อวันที่ 27 พ.ย.ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ผลกระทบจากการตรวจค้นบริษัทสยามแมคโคร กลับมีความพยายามชี้นำกระแสสังคม กล่าวหาเอกชนว่ามีส่วนในการโยกย้ายดังกล่าว เปรียบเหมือนเอา ซีพีเป็นตัวประกัน ทั้งที่ปัญหาหมูเถื่อนเข้ามาในประเทศไทยนั้น ผู้ค้าหมูอย่างซีพี ย่อมได้รับผลกระทบอยู่แล้ว เหตุใดจึงต้องมีปัญหาต่อการจับกุมตรวจค้นของอธิบดีดีเอสไอซึ่งไม่เป็นเหตุเป็นผล

นอกจากนี้ยังมีรายงานด้วยว่า ปัญหาหมูเถื่อนนั้น เกิดจากภาวะหมูล้นโลก ทั้งในจีน บราซิลและเนเธอแลนด์ เป็นช่วงจังหวะวงจรการค้าธุรกิจหมูที่เมื่อหมูได้น้ำหนักถึงเวลา ต้องขายแต่ยังขายไม่ได้ ฟาร์มจำเป็นต้องยอมรับภาวะขาดทุนแล้วส่งไปขายประเทศอื่นด้วยราคาถูก จึงเกิดปัญหาหมูทะลักไทย  ซึ่งหากพ้นจากช่วงนี้ไปราคาก็จะกลับมาปกติ  ส่วนที่มีการนำหมูเถื่อนเข้ามาได้นั้น มีกระบวนการทางศุลกากรที่มีปัญหาโดยมีอดีตรัฐมนตรีบางคนมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย