วันที่ 28 พ.ย.66 ที่ห้องประชุมสุนทร สุนันท์ชัย ชั้น 4 กรมส่งเสริมการเรียนรู้  นายวิสาร ปัญญชุณห์  รองอธิบดี กรมส่งเสริมการเรียนรู้ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมส่งเสริมการเรียนรู้ มอบหมายให้ นางเอื้อมพร สุเมธาวัฒนะ ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมกิจการการศึกษาและเครือข่าย เป็นประธานการประชุมหารือ และจัดทำข้อมูลประกอบการเสนอเพื่อพิจารณาปรับปรุงหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายการจัดการศึกษาต่อเนื่อง ตามระเบียบของกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ระหว่างวันที่ 27 - 28 พฤศจิกายน 2566 โดยมี ผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย ตัวแทนผู้บริหารหน่วยงาน สถานศึกษาศึกษานิเทศก์และผู้แทนกลุ่มนิติการ เข้าร่วมประชุม 
นางเอื้อมพร สุเมธาวัฒนะ  กล่าวว่า “ ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ. 2566 ได้กำหนดให้กรมส่งเสริมการเรียนรู้ มีหน้าที่จัด ส่งเสริม และสนับสนุนการเรียนรู้เพื่อการพัฒนาตนเอง เพื่อพัฒนาศักยภาพ ทักษะและความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านตามความถนัดของตน การประกอบอาชีพ การพัฒนาอาชีพ การยกระดับ คุณภาพชีวิตของตน ครอบครัว ชุมชน หรือสังคม หรือเพื่อประโยชน์แห่งความรอบรู้ของตน โดยอาจได้รับการรับรองคุณวุฒิตามความเหมาะสม และเพื่อให้บุคคลมีทักษะการเรียนรู้ ทักษะอาชีพ และทักษะชีวิต ที่สอดคล้องและเท่าทันพัฒนาการของโลก และมีโอกาสพัฒนาหรือเพิ่มพูนทักษะของตนให้สูงขึ้นหรือ ปรับเปลี่ยนทักษะของตนตามความถนัดหรือความจำเป็น  ประกอบกับปัจจุบัน อัตราค่าครองชีพมีแนวโน้มสูงขึ้น และรายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือนลดลงอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งจะเห็นได้ว่าอัตราเงินเฟ้อในปี 2566 มีอัตราเพิ่มขึ้นทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ทำให้การจัดกระบวนการเรียนรู้เพื่อพัฒนาตนเอง สำหรับกลุ่มเป้าหมายของสถานศึกษาในสังกัดกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ในแต่ละกิจกรรมไม่สอดรับกับสภาพเศรษฐกิจและการครองชีพในปัจจุบัน  ​​​​​​​เนื่องจากมีข้อจำกัดตามหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายที่กำหนดมากว่า 15 ปี  ไม่ว่าจะเป็น ค่าตอบแทนวิทยากร และค่าวัสดุฝึก เป็นต้น ซึ่งถือว่าเป็นข้อจำกัดที่สำคัญในการจัดการเรียนรู้มานาน  ส่งผลกระทบให้ไม่สามารถดำเนินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้มีประสิทธิภาพได้ตามวัตถุประสงค์ รวมทั้งไม่ตอบโจทย์การพัฒนาทักษะอาชีพ ทักษะชีวิตตามสมรรถนะ และความต้องการของตลาดแรงงานได้
เพื่อให้การขับเคลื่อนภารกิจในการส่งเสริม สนับสนุนการจัดการเรียนรู้ และพัฒนาคุณภาพชีวิตของกลุ่มเป้าหมายในทุกช่วงวัยมีประสิทธิภาพ จึงได้จัดประชุมดังกล่าวขึ้น เพื่อศึกษา วิเคราะห์เหตุผลความจำเป็นประกอบการจัดทำข้อมูลตามหลักเกณฑ์การเบิกค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง  ​​​​​​​ โดยจะมีการดำเนินการหารือ เพื่อพิจารณาและทำข้อตกลงกับกรมบัญชีกลางตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกค่าใช้จ่ายการจัดการศึกษาต่อเนื่องเพื่อการพัฒนาตนเอง ให้สอดคล้องกับสภาวการณ์เศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบันต่อไป” ​​​​​​​