ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ไล่ล่ารถบรรทุกดินน้ำหนักเกิน กลับเร่งเครื่องหนีพยายามชนรถตำรวจทางหลวง คนขับกระโดดหนีลงจากรถ สุดท้ายหนีไม่รอด
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รรท.รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.บก.ทล., พ.ต.อ.ณัฐพงษ์ ปิตะบุตร รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป. ช่วยราชการ บก.ทล., พ.ต.อ.ภคพล สุชล ผกก.ถปภ. รรท.ผกก.2 บก.ทล., พ.ต.ท.นโรตม์ ยุวบูรณ์ รอง ผกก.6 บก.ปปป. รรท.รอง.ผกก.2 บก.ทล.
เจ้าหน้าที่ตำรวจ ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. (นครปฐม) นำโดย พ.ต.ต.กล้า สมบัติพิบูลย์ รรท.สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล., ร.ต.อ.เอกกฤษณ์ ขุนรักพรหม รอง สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล., ร.ต.ท.บัณฑิต จำปาศรี, ร.ต.ต.อำนวย บุญทองศรี, ร.ต.ต.ฉลาด ใจแก้ว รอง สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล., ด.ต.จักรพงศ์ พุฒตาล, ด.ต.จิรันธนิน พิชิตไชยปรีชา, จ.ส.ต.ฐณรัช นาคนาโส ผบ.หมู่ ส.ทล.1กก.2 บก.ทล.ร่วมกันจับกุม นายพิสิทธิ์ฯ อายุ 53 ในความผิดฐาน “ขับรถในลักษณะที่เห็นได้ว่าไม่คํานึงถึงความปลอดภัยในชีวิตหรือร่างกายของผู้อื่น” และความผิดฐาน “ใช้ยานพาหนะบรรทุกที่มีน้ำหนักเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดมาใช้บนทางหลวง” พร้อมตรวจยึดของกลาง รถบรรทุกส่วนบุคลชนิด 3 เพลา 6 ล้อ ยาง 10 เส้น ยี่ห้ออีซูซุ จำนวน 1 คัน
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากตามนโยบายของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ออกกวดขันปราบปรามรถบรรทุกน้ำหนักเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดบนทางหลวงแผ่นดิน เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงนครปฐม (ส.ทล.1 กก.2 .บก.ทล.) จึงได้ออกตรวจพื้นที่รับผิดชอบจนมาถึงบริเวณทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ทล.3233 กม.12 ต.วัดละมุด อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม โดยได้พบรถบรรทุกส่วนบุคคลชนิด 3 เพลา 6 ล้อ ยาง 10 เส้น ยี่ห้อ อีซูซุ วิ่งมาบนถนนลักษณะมีการบรรทุกสิ่งของที่มีน้ำหนักจำนวนมาก ต้องสงสัยว่าอาจเป็นรถบรรทุกน้ำหนักเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด
เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจึงได้แสดงตัวและเรียกให้หยุดรถเพื่อขอตรวจสอบ แต่รถบรรทุกคันดังกล่าวกลับเร่งเครื่องหลบหนีด้วยความเร็วสูง โดยขับขี่ฉวัดเฉวียน ปาดซ้ายปาดขวารถของประชาชนคันอื่นๆที่อยู่ในเส้นทาง ซึ่งก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้รถใช้ถนนรายอื่น เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจึงได้ขับรถไล่ติดตามเพื่อหยุดรถคันดังกล่าว จากนั้นรถตำรวจทางหลวงได้ขับแซงขึ้นไปเพื่อสกัดให้รถบรรทุกคันดังกล่าวหยุด แต่ผู้ขับขี่รถบรรทุกคันดังกล่าวกลับเร่งเครื่อง พยายามที่จะชนรถตำรวจ แต่สุดท้ายก็จนมุมเพราะถูกรถตำรวจและรถบรรทุกของพลเมืองดีที่ขับตามกันมาบีบให้เข้าจอดบริเวณไหลทาง แต่เมื่อรถบรรทุกคันดังกล่าวถูกนำเข้าข้างทาง ผู้ขับขี่รถบรรทุกคันดังกล่าวกลับ วิ่งลงจากรถเพื่อพยายามหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจึงได้วิ่งไล่ติดตาม จนกระทั่งสามารถจับกุมผู้ขับขี่รายนั้นได้
จากการตรวจสอบทราบชื่อผู้ขับขี่ คือ นายพิสิทธิ์ฯ โดยจากการตรวจสอบเอกสารใบอนุญาตพบว่ามีใบอนุญาตขับขี่รถทุกประเภทชนิดที่ 3 ฉบับที่ 1กจ.00158/66 วันอนุญาต 21 ส.ค.66 วันสิ้นอายุ 20 ส.ค. 69 ภายหลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำรถบรรทุกคันดังกล่าวไปเข้าชั่งเพื่อตรวจสอบน้ำหนัก โดยพบว่า รถบรรทุกคันดังกล่าวมีน้ำหนักรวม 32,330 กิโลกรัม ซึ่งน้ำหนักตามที่กฎหมายกำหนดต้องไม่เกิน 25,000 กิโลกรัม (รถคันดังกล่าวมีน้ำหนักเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด 7,330 กิโลกรัม) เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาและนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.นครชัยศรี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การว่า ตนเองเป็นเจ้าของรถบรรทุกคันดังกล่าว โดยบรรทุกขนดินมาเต็มคันรถ โดยดินดังกล่าวตนซื้อมาจากบ่อดินไม่มีชื่อบริเวณตวัดละมุด อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เพื่อนำมาเทลงบริเวณ ต.วัดละมุด อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม โดยผู้ต้องหายังให้การยอมรับเพิ่มเติมถึงสาเหตุที่ไม่ยอมหยุดรถ และพยายามขับรถไปด้วยความเร็ว เกิดจากตนเองตกใจกลัว เพราะทราบดีว่ารถบรรทุกของตน บรรทุกดินมาน้ำหนักเกิน