นายกฯฟุ้งเดินสายต่างประเทศมาถูกทาง ชวนเชิญนักลงทุนในไทย บอกลมปากอย่างเดียวดึงดูดไม่ได้ หอการค้าฯระบุผลสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ เตรียมทำสมุดปกขาวเสนอนายกฯ 4 ประเด็นสำคัญ รีฟอร์มประเทศ เปลี่ยนผ่านประเทศสู่เศรษฐกิจใหม่ในอนาคต
ที่ห้องภิรัชฮอลล์ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา เมื่อวันที่ 19 พ.ย.66 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรวม.คลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษในงานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 41 ในโอกาสครบรอบ 90 ปี หอการค้าไทย โดยกล่าวยืนยันว่า หลังจากที่ได้ไปประชุมเอเปคทุกประเทศอยากมาลงทุนในไทย แม้เราจะเป็นประเทศเล็กแต่ก็มีเอกราชและมีจุดยืนในการค้าขายมาตลอด และหลังจากที่ตนเดินทางไปหลายประเทศทั้งในอาเซียนและสหรัฐอเมริกา เป็นที่ประจักษ์ว่าประเทศไทยเป็นที่ต้องการของชาวโลก ทุกคนอยากมาลงทุนในประเทศไทย หรืออย่างน้อยก็มีประเทศไทยเป็นตัวเลือก
ทั้งนี้ การเดินทางไปต่างประเทศ ประเทศไทยไม่ได้ฝักใฝ่ฝ่ายใด แต่มาเพื่อค้าขาย มีมาตรการต่างๆมากมายที่จะรองรับนักลงทุน เช่น มาตรการด้านภาษี แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เรื่องของ FTA ประเทศไทยมีการเจรจาเรื่องนี้น้อยมาก ยังคงล้าหลังอยู่ดังนั้น เรื่องนี้จะเป็นอีกหนึ่งประเด็นหลักที่จะเดินหน้าเรื่องนี้กับนานาประเทศ
ลมปากอย่างเดียวไม่สามารถดึงดูดให้นักลงทุนมาลงทุนได้แต่ต้องเดินทางไปพูดคุยและเจรจาและทุกฝ่ายต้องช่วยกัน แม้หลายคนอาจจะมองว่าการไปประชุมเอเปคไทยประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง แต่ผมไม่มองอย่างนั้น ประเทศไทยสามารถก้าวไปได้อีก ขณะเดียวกัน รัฐบาลก็สนับสนุนเรื่องของการท่องเที่ยวเมืองรองด้วย แต่จะทำแบบนั้นได้ต้องอาศัยหลายปัจจัย รัฐบาลจึงต้องมีการลงทุน โดยเฉพาะเรื่องของการคมนาคม มีการขยายสนามบินในพื้นที่เมืองรอง จึงอยากให้ภาคเอกชนเสนอว่าต้องการการสนับสนุนอะไรจากรัฐบาล ยืนยันการพัฒนาเมืองรองเป็นนโยบายหลักของรัฐบาลนี้จะทำให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้
นายเศรษฐา กล่าวต่อว่า ในช่วงกลางเดือนหน้าจะเดินทางไปที่ญี่ปุ่นเพื่อเข้าร่วมประชุมอาเซียนเจแปน พูดอย่างไม่อายว่าเราเป็นหนี้บุญคุณญี่ปุ่นอยู่ เพราะตลอด 50 ปี ญี่ปุ่นเป็นประเทศ ที่มีฐานผลิตอยู่ในไทยมากที่สุดประเทศหนึ่ง ดังนั้นการเดินทางไปครั้งนี้ก็จะไปแสดงความพร้อมของไทยและจะสนับสนุนในทุกด้านสำหรับการลงทุนในไทยของญี่ปุ่น รวมถึงการอำนวยความสะดวกเรื่องวีซ่าฟรีให้กับนักธุรกิจญี่ปุ่น และยินดีที่จะนำนักลงทุนของไทย ร่วมคณะไปกับรัฐบาล ในการเดินทางเยือนต่างประเทศเพื่อพบกับนักธุรกิจในประเทศนั้นๆ ประเทศไทยเปิดแล้ว พวกท่านพร้อมไหมครับถ้าพร้อมแล้วไปด้วยกันครับ
ด้าน นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวในงานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 41 ว่า หอการค้าไทยได้รวบรวมประเด็นและข้อเสนอแนะจากงานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ โดยจัดทำเป็น "สมุดปกขาว" เพื่อนำเสนอต่อ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทย ผ่านข้อเสนอภาคเอกชน 2 ส่วนสำคัญ ประกอบด้วย 1.ข้อเสนอเพื่อการเปลี่ยนผ่านเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน (Transform) ไปสู่การแสวงหาโอกาสและรูปแบบการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสมัยใหม่ในอนาคต 2.ข้อเสนอยุทธศาสตร์เศรษฐกิจของหอการค้า 5 ภาค ที่ได้รวบรวมประเด็นเชิงพื้นที่จากหอการค้าจังหวัดและภาคเอกชนทั่วประเทศ ผ่านการประชุมสัญจรและมีการจัดลำดับความสำคัญ เพื่อช่วยกันดำเนินการให้เกิดผลเป็นรูปธรรมตามความต้องการและความจำเป็นในแต่ละพื้นที่
สำหรับ Highlight สำคัญในสมุดปกขาว 4 ประเด็น ได้แก่ 1.ประเทศไทยต้องยกระดับ Innovation Digital และนำเทคโนโลยีมาเพิ่มประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นสิ่งประเทศไทยยังขาดอยู่ จึงเสนอให้ภาครัฐยกระดับมาตรการ Talent immigration policy เพื่อดึงดูดคนต่างชาติที่เก่งเข้ามาทำงานและอยู่อาศัยในประเทศไทย ซึ่งช่วยให้เกิดการสร้างงาน รวมถึงการถ่ายทอดเทคโนโลยีและทักษะสมัยใหม่ โดยรัฐบาลควรมีมาตรการ Incentive ที่เหมาะสมเช่น การอำนวยความสะดวกเรื่อง Visa และ Work permit มาตรการทางภาษี มาตรการพำนักอยู่อาศัยที่เหมาะสม เป็นต้น ส่วนหนึ่งที่หอการค้าไทยได้ดำเนินการไปแล้วคือการขับเคลื่อนการศึกษาที่ตอบโจทย์โลกเห็นอนาคต ผ่าน Harbour space@UTCC ที่มุ่งผลิตบัณฑิตที่ตอบสนองการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยนำคนเก่งจากทั่วโลกและรู้จริงในด้านต่าง ๆ มาเป็นอาจารย์สอนนักศึกษาในประเทศไทย เพื่อสร้างขีดความสามารถทางการแข่งขันให้ทัดเทียมประเทศอื่นๆ ในเวทีโลก
2.นโยบายเพิ่มจำนวนประชากรและพัฒนาประชากรให้มีคุณภาพ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของโลก พร้อมเป็น Global Citizen ที่มีคุณภาพ ต่อยอดจาก YEC ครบรอบ 10 ปี หอการค้าไทยได้มีการจัดทำโครงการ YPC เพื่อ Connect ข้าราชการรุ่นใหม่ในท้องถิ่นกับผู้ประกอบการรุ่นใหม่ หอการค้าจังหวัด ซึ่งประสบความสำเร็จและจะขยายผลต่อไป นอกจากนี้ หอการค้าฯ ยังมีโครงการสร้างผู้นำที่เก่งและดี ด้วยกระบวนการ Mentoring ผ่านโครงการ Developing Outstanding Talents for Thailand หรือ DOT พร้อมขยายผลเพื่อสร้างอุทยานผู้นำของประเทศ
3.จากการสัมมนาในครั้งนี้ ได้รับฟังเสียงจากผู้ประกอบการถึงภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทั่วประเทศ โดยเฉพาะ SMEs ที่มีความเดือดร้อนมาก ดังนั้น รัฐบาลควรสนับสนุนเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเร่งด่วน เพื่อช่วยให้ธุรกิจ SMEs ฟื้นตัว ควบคู่ไปกับแก้ไขปัญหาหนี้ SMEs สร้างโอกาสให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนอย่างเป็นระบบ และ 4.ผลักดันโครงการพัฒนาเมืองรอง 10 จังหวัด เป็นเมืองหลัก ซึ่งจะเป็นโมเดลต้นแบบความร่วมมือภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนในพื้นที่ เกิดการยกระดับรายได้และลดความเหลื่อมล้ำให้กับประเทศไทย