เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 15 พ.ย. (ตามเวลาท้องถิ่นนคร ซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา ซึ่งช้ากว่ากรุงเทพฯ 15 ชั่วโมง ) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง กล่าวถึงกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ตที่ไม่ตรงกับที่หาเสียงเอาไว้ว่า หากเรายึดมั่นกับสิ่งที่พูดไปโดยไม่ฟังความคิดเห็น ก็จะโดนทั้งขึ้นทั้งล่อง ซึ่งเราพยายามทำให้ดีที่สุด แต่ต้องปรับปรุงแต่งเติมบ้างตามข้อคิดเห็น หรือข้อเสนอแนะของทุกภาคส่วน และไม่สามารถทำให้ทุกคนพอใจได้ พยายามรับฟังอยู่ วันนี้ก็รับฟังอะไรที่ไม่ก้าวร้าวก็พร้อมจะรับฟัง
เมื่อถามว่า การวิพากษ์วิจารณ์ว่า การดำเนินการโครงการไม่ตรงกับที่หาเสียง เช่น บอกว่าจะไม่กู้เงิน แต่รัฐบาลก็กู้ นายกฯ กล่าวว่า “ทุกสิ่งที่ผมพูดไป พยายามทำให้ได้อย่างที่พูด แต่ต้องมีการปรับปรุงแต่งเติมกันบ้างแล้วแต่จะคิด ไม่อยากไปตอบโต้ สำหรับคำพูดที่ว่าจะทำแล้วไม่ทำ อย่าเอาความคิดของท่านมาให้ผมเลย ต่างคนต่างคิดต่างคนต่างทำมีหน้าที่ก็ทำไป เป็นหน้าที่ของท่านที่ท่านจะพูด ส่วนผมก็เป็นหน้าที่ของผมที่ผมจะทำ”
เมื่อถามว่า กรอบระยะเวลาการดำเนินโครงการยังเหมือนเดิมหรือต้องรอความชัดเจนจากคณะกรรมการกฤษฎีกาก่อน นายกฯ ระบุว่า เข้าใจว่า ตอนที่เราดูเรื่องไทม์ไลน์ เราดูเรื่องกฤษฎีกาแล้ว ว่าเราก็มีเวลาให้กฤษฎีกา ซึ่งไม่ต้องการไปกดดัน ว่าจะมีการประชุมเมื่อไหร่อย่างไร แต่ขณะนี้ยืนยันว่ายังคงอยู่ในไทม์ไลน์และตั้งใจจะดำเนินการโครงการนี้จริงๆ ไม่ใช่หาทางออก และการที่หลายหลายคนบอกว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่อยากให้ทุกฝ่ายตรวจสอบได้ รัฐบาลจึงดำเนินการให้มีพระราชบัญญัติให้สภาสามารถตรวจสอบได้ ต้องให้เกียรติทุกภาคส่วน ไม่มีอะไรที่ทำแล้วทุกคนพอใจแต่ต้องพยายามทำเพื่อประชาชน วันนี้เรื่องของการหาเสียงจบไปแล้ว ถึงเวลายกระดับความเป็นอยู่ของประชาชน และจะพยายามทำให้ดีที่สุด