“ประเสริฐ”แย้มรัฐบาลเดินหน้าทดสอบระบบจ่ายเงิน หมื่นบาท เฟส 3 เสร็จในสิ้นเดือน ระบุ อยากแจกเงินก่อนสงกรานต์ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ยันมีเงินพอแจกกกลุ่มอายุ 21-59 ปี

เมื่อวันที่ 19 มี.ค.68 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2567 หรือดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เฟส 3 ที่รัฐบาลจะแจกให้กับกลุ่มวัยรุ่นอายุ 16-20 ปี จำนวน 2.7 ล้านคน นั้น รัฐบาลตั้งเป้าหมายอยากจะโอนเงิน 10,000 บาท ให้ได้ช่วงต้นเดือนเม.ย.68 หรือก่อนช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพื่อให้สามารถนำไปใช้จ่ายในช่วงเทศกาลกรานต์ ที่ประชาชนมีการเดินทางท่องเที่ยว หรือ กลับบ้านในต่างจังหวัด

“เมื่อวันที่ 18 มี.ค. ได้ทำการทดสอบระบบไปแล้ว 1 ครั้ง เพื่อดูเรื่องของเทคนิค และความเสถียรในเรื่องการใช้งาน ผลการทดสอบจะออกในสัปดาห์นี้ จากนั้นจะมีการทดสอบในครั้งที่ 2 ภายในสิ้นเดือน มี.ค.นี้ หรือภายในสัปดาห์หน้า เพื่อให้มั่นใจว่าระบบจะมีความพร้อมมากที่สุด มีความเสถียร รองรับการใช้งานไม่มีล่ม โดยทาง น.ส. แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญในเรื่องนี้ โดยเข้าใจว่าจะมีการอาจจะมีการลงมาดูการสาธิตทดสอบด้วยตนเองด้วย”

นายประเสริฐ กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกัน กลุ่มผู้ลงทะเบียนในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตส่วนที่เหลือ หรือกลุ่มอายุ 21-59 ปี ยืนยันว่ารัฐบาลจะแจกเงินเหมือนเดิม เพราะเป็นไปตามนโยบายที่ประกาศไว้ ดังนั้น ยืนยันว่าเงิน 10,000 บาท จะถึงมือทุกคน โดยหลังจากนี้ รัฐบาลจะดำเนินการนโยบายดังกล่าวให้กับกลุ่มที่เหลือ ซึ่งจะใช้เป็นเงินดิจิทัลโอนผ่านระบบการชำระเงินได้พัฒนาขึ้นเท่านั้น และยืนยันว่ารัฐบาลมีเงินเพียงพอต่อการใช้โครงการนี้ และไม่ได้มีปัญหาเรื่องเงิน

สำหรับเรื่องความไม่โปร่งใสที่มีบางฝ่ายกังวลนั้น เรื่องนี้ดูแล้วเป็นเรื่องการใช้เงิน หากใช้เงินไม่ตรงวัตถุประสงค์ อาจจะเกิดขึ้นได้ รัฐบาลต้องพยายามตรวจสอบในเรื่องนี้ ขณะที่ความปลอดภัยของระบบยืนยันว่าว่ามีมาตราฐานระดับโลก ส่วนเรื่องที่ฝ่ายค้านมีการมองว่า การแจกเงินดิจิทัลในโครงการมา 2 เฟสแล้วนั้น ไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้นั้น เรื่องนี้อยู่ที่มุมมอง ตอนนี้แบ่งเป็นสองความเห็น หากถามฝ่ายค้านก็บอกว่าจะไม่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ หากฝ่ายรัฐบาลก็มองว่าช่วย เรื่องนี้ เป็นส่วนที่กระทรวงการคลังมีตัวเลขอยู่ ซึ่งคงจะออกมาชี้แจงในเร็วๆนี้