บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ อาร์เอส กรุ๊ป ภายใต้โมเดลธุรกิจ Entertainmerce มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตผู้คนและสัตว์เลี้ยง เผยภาพรวมไตรมาส 3/2566 สร้างสถิติสูงสุด All Time High จากการเติบโตของธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนต์ที่มีรายได้ทะลักจากกิจกรรมและคอนเสิร์ตหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ขณะเดียวกัน ธุรกิจคอมเมิร์ซก็ฟื้นตัวจากการปรับโมเดลธุรกิจใหม่ ส่งผลให้ไตรมาส 3 มีรายได้รวมมากกว่า 1,019 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% มีกำไรสุทธิ 1,182 ล้านบาท เติบโตก้าวกระโดดถึง 1,176% จากไตรมาสก่อน มีกำไรสุทธิ 9 เดือน อยู่ที่ 1,367 ล้านบาท คาดผลงานไตรมาส 4 เติบโตตามเป้า ตอกย้ำความสำเร็จจากการปรับแนวทางการดำเนินธุรกิจด้วยการปลดล็อกศักยภาพธุรกิจของอาร์เอส กรุ๊ป ผ่านโครงสร้างใหม่ใน 4 กลุ่มธุรกิจได้แก่ RS Music, RS Multimedia & Entertainment, RS LiveWell และ RS Pet All ส่งผลให้การทำงานในแต่ละธุรกิจมีความคล่องตัวสูงขึ้นในการสร้างรายได้และการมองหาโอกาสใหม่ๆทางธุรกิจ
คุณสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ภาพรวมรายได้ในไตรมาส 3 มาจากการเติบโตแบบคู่ขนานของทั้งธุรกิจคอมเมิร์ซ และธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนต์ โดยธุรกิจคอมเมิร์ซเติบโตจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ภายใต้บริษัท RS LiveWell ซึ่งมีสินค้า House Brands ที่ประกอบด้วยแบรนด์ well u, vitanature+, DARING & CO., aviance, Beyonde, iFresh, Happie Homie และ De Beste อาทิ ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ well u collagen Type II plus calcium, well u collagen Type II plus abalone และผลิตภัณฑ์ชาออร์แกนิคจาก vitanature+ รวมไปถึงการที่ ULife ทรานส์ฟอร์มสู่ Subscription model ได้สำเร็จ โดยจำหน่ายสินค้าเป็นรายเดือน ซึ่งลูกค้าจะได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มขึ้นเมื่อมีการซื้อสินค้าอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทฯ มีฐานรายได้อย่างสม่ำเสมอและเติบโตอย่างยั่งยืน
ขณะที่ RS Mall เร่งขยายฐานลูกค้าที่หลากหลาย โดยเฉพาะในช่องทางออนไลน์ นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยงภายใต้แบรนด์ Lifemate ก็มีรายได้เติบโตขึ้นจากการปรับสูตรและปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ใหม่ โดยเฉพาะอาหารเม็ดและอาหารเปียกสำหรับแมว ส่วนธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนต์ยังคงเติบโตต่อเนื่องจากช่วง High Season ของกิจกรรมและคอนเสิร์ต รวมไปถึงรับรู้กำไรพิเศษเกี่ยวเนื่องจากการร่วมธุรกิจกับ ยูนิเวอร์แซล มิวสิค กรุ๊ป เพื่อจัดตั้ง บริษัท อาร์เอส ยูเอ็มจี จำกัด (“RS UMG”) ในการดำเนินการบริหารลิขสิทธิ์เพลงร่วมกัน จนทุบสถิติ All Time High ที่เกิดขึ้นในไตรมาสนี้ เกิดจากการปรับกลยุทธ์การทำงานในแต่ละธุรกิจให้มีความคล่องตัวยิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการเปิดรับพาร์ทเนอร์ ซึ่งก็เป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นว่าแผนธุรกิจและแนวทางในการเพิ่มขีดความสามารถในการสร้างรายได้ที่เรานำมาใช้ในทุกธุรกิจประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี โดยเรายังคงมุ่งมั่นในการใช้โมเดล Entertainmerce ที่ผสานความเชี่ยวชาญของมีเดียและเอ็นเตอร์เทนเมนต์ในมือที่เป็นแต้มต่อเข้ากับธุรกิจคอมเมิร์ซ และยังคงเร่งสร้าง Ecosystem ให้ อาร์เอส กรุ๊ป เป็นบริษัทที่แข็งแกร่งตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ทั้งการพัฒนาสินค้า การตลาด การขาย และช่องทางจัดจำหน่าย ไปจนถึงบริการต่างๆ ที่ครอบคลุมไลฟ์สไตล์ของผู้คนและสัตว์เลี้ยง โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือการพัฒนาศักยภาพในการสร้างรายได้และกำไรให้แก่ทุกธุรกิจอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน”
คุณวิทวัส เวชชบุษกร ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เผยว่า “รายได้รวมสำหรับไตรมาส 3/2566 อยู่ที่ 1,019 ล้านบาท เติบโต 6% และมีกำไรสุทธิ 1,182 ล้านบาท เติบโต 1,176% จากไตรมาสก่อน โดยแบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจคอมเมิร์ซ 370 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% จากไตรมาสก่อน แสดงให้เห็นการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของสินค้าและบริการในกลุ่มคอมเมิร์ซ ประกอบกับการเริ่มรับรู้รายได้จากการควบรวมธุรกิจของ บริษัท เพ็ท เมดิเคิล กรุ๊ป (Pet Medical group) ด้วย ด้านธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนต์ มีรายได้จากธุรกิจสื่อและเพลงรวม 650 ล้านบาท เติบโต 3% จากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งรายได้หลักมาจากคอนเสิร์ต รวมไปถึงรายได้จากการจัดอีเวนต์และสปอนเซอร์ชิป นอกจากนี้ ยังมีรายได้จากการร่วมธุรกิจกับ ยูนิเวอร์แซล มิวสิค กรุ๊ป จัดตั้ง บริษัท อาร์เอส ยูเอ็มจี จำกัด (“RS UMG”) ในการดำเนินการบริหารลิขสิทธิ์เพลงร่วมกัน ส่งผลให้รับรู้กำไรพิเศษจากธุรกรรมดังกล่าว 1,446 ล้านบาท โดยหลังหักค่าใช้จ่ายและภาษีที่เกี่ยวเนื่อง บริษัทฯ รับรู้กำไรพิเศษจากธุรกรรมนี้จำนวน 1,111 ล้านบาท ในไตรมาสนี้ และจะรับรู้ส่วนที่เหลืออีก 190 ล้านบาท (ก่อนภาษีเงินได้) ในไตรมาส 4/2566 จึงทำให้ อาร์เอส กรุ๊ป มีกำไรสุทธิ 9 เดือนถึง 1,367 ล้านบาท”
อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2566 ผลประกอบการจะเติบโตต่อเนื่องตามเป้า ทั้งธุรกิจคอมเมิร์ซและธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ด้วยสินค้าและบริการเพื่อสุขภาพที่ครบวงจรสำหรับผู้บริโภคและสัตว์เลี้ยง โดยในไตรมาส 4 ปีนี้ RS LiveWell จะส่งสินค้ากลุ่ม Personal Care ภายใต้แบรนด์ vitanature+ ไปจำหน่ายยังประเทศฟิลิปปินส์ รวมไปถึงการเปิด Pet All My Love รีเทลสำหรับสัตว์เลี้ยงสาขาแรก การเปิด HATO Pet Wellness Center สาขาใหม่ที่โครงการ Ours เจริญนคร นอกจากนี้ ยังมีคอนเทนต์และกิจกรรมบันเทิงที่จัดเต็มเพื่อสร้างความสุขส่งท้ายปี อาทิ ซีรีส์ “Bake Me Please พิชิตใจนายสายหวาน” Y Project, การเปิดค่ายเพลงใหม่, คอนเทนต์ด้านดนตรีแนวใหม่, COOL WINDY FEST 2023, คอนเสิร์ต “RS MUSIC ร่วมกับ อำพลฟูดส์ Present CONCERT SHORT CHARGE SHOCK REAL ROCK RETURN” และอีเวนต์ทั่วประเทศจาก RS Multimedia & Entertainment ที่จะมาสร้างสีสันในช่วงเทศกาล ทั้งนี้ การรุกเข้าสู่ธุรกิจใหม่ๆ ที่อยู่ในเทรนด์ การร่วมลงทุนกับพันธมิตรที่แข็งแกร่ง และการขยายบริการที่ครอบคลุมตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้คนและสัตว์เลี้ยง ส่งผลให้ อาร์เอส กรุ๊ป ยังคงเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมสื่อและบันเทิง รวมถึงผลักดันให้บริษัทฯ เติบโตอย่างรวดเร็วในตลาดสินค้าและบริการเพื่อสุขภาพสำหรับผู้คนและสัตว์เลี้ยง ซึ่งทั้งหมดนี้ เป็นการดำเนินงานภายใต้แนวคิด Life Enriching ที่เรามุ่งเน้นในการยกระดับชีวิตของผู้คนและสัตว์เลี้ยงในทุกมิติอย่างแท้จริง
ทั้งนี้ล่าสุด ที่ประชุม EGM 1/2566 มีมติให้แจก RS-W5 แก่ผู้ถือหุ้นเดิมในอัตรา 10:1 โดยไม่คิดมูลค่า โดยผู้ถือ RS-W5 สามารถแปลงสิทธิเพื่อซื้อหุ้นสามัญของ RS ในราคา 6 บาท ทั้งนี้ ใบสำคัญแสดงสิทธิ RS-W5 มีอายุไม่เกิน 2 ปีนับจากวันที่ออก โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิ warrant (XW) วันที่ 4 ม.ค. 2567
#อาร์เอสกรุ๊ป #RS