รมว.กห. เผยการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาความรุนแรงในพื้นที่ จชต. เน้นสร้างความเชื่อมั่นศรัทธาและบูรณาการทุกภาคส่วน สร้างพื้นที่ปลอดภัยปราศจากเงื่อนไขความรุนแรง ปัญหายาเสพติด และภัยความมั่นคง ภายใต้กรอบกฎหมาย


วันนี้ ( 13 พฤศจิกายน 2566 ) เวลา 14.30 น. ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า  ค่ายสิรินธร  ตำบลเขาตูม  อำเภอยะรัง  จังหวัดปัตตานี  นาย สุทิน  คลังแสง  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยถึงแผนการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประจำปี 2567 เน้นสร้างความเชื่อมั่นศรัทธาและบูรณาการกำลังทุกภาคส่วน เพื่อสร้างพื้นที่ปลอดภัย ปราศจากเงื่อนไขความรุนแรง ปัญหายาเสพติด และ       ภัยความมั่นคงภายใต้กรอบกฎหมาย โดยคำนึงถึงหลักนิติธรรม ย้ำเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนมีส่วนสำคัญในการสกัดกั้นแนวชายแดน ทั้งทางบก และทางน้ำ  เพื่อสกัดการนำพาอาวุธ ยุทโธปกรณ์ และสิ่งผิดกฎหมายทุกประเภทเข้าในพื้นที่  ยืนยันกำลังพลทุกคนทั้งข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และบุคลากรของรัฐล้วนแต่มีความตั้งใจอันดีในการปฏิบัติหน้าที่สร้างสันติสุขในพื้นที่อย่างยั่งยืน พร้อมย้ำว่าแผนงานเสริมสร้างความเข้าใจแก่ประชาชนทั้งในและนอกพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้     โดยชุดเสริมสร้างความเข้าใจ (ชุดปฏิบัติการกิจการพลเรือน) จัดกิจกรรมเสริมสร้างความเข้าใจในชุมชน เน้นการสื่อสารจากเครือข่ายสภาสันติสุขตำบล ให้มีส่วนร่วมชี้แจงประเด็นเร่งด่วน สำคัญ สร้างการรับรู้ เข้าใจ นำข้อมูลข่าวสาร และข้อเท็จจริงไปยังพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา เพื่อประชาชนได้เข้าใจการทำงานของภาครัฐ และ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เพื่อประชาชนทุกเชื้อชาติ  ทุกศาสนา สามารถอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรมอย่างปกติสุข  ส่วนแนวทางและมาตรการในการปรับลดพื้นที่การประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน  พ.ศ.2548  และปรับลดกำลังพล ขณะนี้ จะปรับลดพื้นที่ในแต่ละปีงบประมาณไม่น้อยกว่า 2 อำเภอ ของห้วงปีงบประมาณ 2566 - 2569 และในปีงบประมาณ 2570 จะทำการปรับลดทุกอำเภอที่เหลืออยู่ ซึ่งได้กำหนดแนวทางการติดตามและประเมินผลตามตัวชี้วัด ย้ำเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ต้องมีการปรับตัว และปรับใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในการแก้ปัญหาอย่างเหมาะสม เพื่อดูแลพื้นที่ให้ปลอดเหตุ และต้องกระทำทุกวิถีทางให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ มีความปลอดภัย  ส่วนการบังคับใช้กฎหมายกับผู้ที่กระทำความผิดก็เป็นสิ่งที่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถละเว้น การปฏิบัติได้ ถ้าหากจำเป็นต้องยกเลิกกฎหมายบางฉบับ ก็ควรมีเครื่องมือและกฎหมายอื่นมาทดแทน เพื่อเป็นหลักประกันความมั่นคงของรัฐในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป 

สำหรับการคัดเลือกทหารกองประจำการ ของกระทรวงกลาโหม ปัจจุบันได้มีการปรับรูปแบบการตรวจเลือกทหารกองประจำการให้เป็นแบบสมัครใจ ควบคู่กับวิธีการตรวจเลือกตามความจำเป็น เพื่อนำไปสู่รูปแบบสมัครใจโดยสมบูรณ์ในอนาคต ตลอดจนพิจารณากำหนดมาตรการ สร้างแรงจูงใจการสมัครเข้าเป็นทหารกองประจำการ และการพิจารณาเพิ่มสวัสดิการ เงินเดือนต้องได้รับจริง ย้ำทหารกองประจำการทุกนายต้องห่างไกลยาเสพติดทุกชนิด มีความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ มุ่งพัฒนากำลังพลให้เป็นที่พึ่งของประชาชนมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ได้ปรับปรุงระบบการฝึกให้ทันสมัยและสอดคล้องบริบทปัจจุบัน  รวมถึงประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับหน้าที่ ความสำคัญ และสิทธิประโยชน์ รวมถึงสวัสดิการต่างๆ ของทหารกองประจำการ ตลอดจนกำชับกองทัพ แนะนำการศึกษาต่อที่สูงขึ้น เพื่อต่อยอดและเปิดโอกาสก้าวสู่การเป็นทหารอาชีพในอนาคตต่อไป