วันที่ 21 มีนาคม ที่กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น., พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.ชรินทร์ โกพัฒน์ตา รอง ผบช.น., พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.วรวิทย์ ญาณจินดา ผบก. สปพ.ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายพิทัก หรือทัก พุทธไชย  อายุ 31 ปี พร้อมของกลาง1. ไอซ์ น้ำหนัก 332 กิโลกรัม,2. คีตามีน น้ำหนัก 18 กิโลกรัม,3. รถยนต์ จำนวน 2 คัน 4. รถจักรยานยนต์ จำนวน 2 คัน,5. โทรศัพท์มือถือ จำนวน 1 เครื่อง

พฤติการณ์กล่าวคือสืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า ว่ามีกลุ่มเครือข่ายยาเสพติดพื้นที่ ต.สวนแตง จ.สุพรรณบุรี โดยไปรับยาเสพติด แล้วนำกลับมาเก็บซุกซ่อนไว้บริเวณบ้านเลขที่ 22/2 หมู่ 5 ต.สวนแตง อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี  ต่อมาวันที่ 19 มีนาคม 2568 เวลาประมาณ 20.00 น. กลุ่มผู้ต้องหาขับรถยนต์จำนวนสามคัน จากพื้นที่ ต.สวนแตง อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี ขับมุ่งหน้าพื้นที่ อ.สรรคบุรีจ.ชัยนาท แล้วกลับทิศทางมุ่งหน้า อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี โดยรถยนต์ทั้งสามคันมีลักษณะขับตามกันเป็นขบวนโดยทิ้งระยะห่าง จึงเชื่อว่ากลุ่มเครือข่าย ได้ลักลอบไปรับยาเสพติดแล้วกำลังนำกลับมาเก็บซุกซ่อนไว้บริเวณบ้านหลังดังกล่าว ตามพฤติกรรม ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด


จับกุมได้เฝ้าสังเกต และสืบสวนมา จึงได้สะกดรอยติดตามมา กระทั้งเวลาประมาณ 23.20 น.ของวันเดียวกัน รถยนต์รถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ รุ่น mu-x สี ขาว เลขทะเบียน ฆญ 2002 กรุงเทพมหานคร ขับเข้ามาจอดภายในที่จอดรถของบ้านหลังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวขอตรวจค้นจับกุม พบนายพิทัก หรือทัก กับพวกวิ่งหลบหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมนายพิทักหรือทัก  พร้อมตรวจยึดของกลางยาเสพติด 

นายพิทัก ให้การรับสารภาพว่าตัวเองทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ แห่งหนึ่งใน อ.อู่ทอง โดยเริ่มรับยาไอซ์ มาจำหน่ายตั้งแต่ช่วงปลายปี2567 โดยวิธีการจะนัดรับยากับเครือข่ายจากทางภาคเหนือมาส่งยังจุดนัด จากนั้นผู้ต้องหากับพวกจะเดินทางไปรับยาแล้วนำมาพักไว้ที่บ้านหลังดังกล่าวเพื่อรอการกระจายให้เครือข่ายในพื้นที่ จังหวัดสุพรรณและพื้นที่โดยรอบ แจ้งข้อหา “ร่วมกันกับพวกที่หลบหนี ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 (ไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน) โดยมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป และจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 (คีตามีน) โดยมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน”ส่วนกลุ่มเครือข่ายได้อาศัยความมืดและความชำนาญพื้นที่ หลบหนีไปได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการทางกฎหมายต่อไป