เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 4 พ.ย. 2566 ที่อ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล ตำบลปลวกแดง อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ตรวจเยี่ยมอ่างเก็บน้ำหนองปลาไหลเพื่อติดตามระบบการบริหารจัดการน้ำของอ่างเก็บน้ำให้รองรับเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) พร้อมกล่าวมอบนโยบายภายหลังรับฟังบรรยายสรุป ว่า ขอบคุณที่สละเวลาวันเสาร์มาช่วยกันทำงาน เชื่อว่าปัญหาเรื่องน้ำทุกท่านตระหนักดีอยู่แล้วแต่ละพื้นที่มีปัญหาที่แตกต่าง บางจังหวัดมีปัญหาน้ำท่วม บางจังหวัดแล้ง บางจังหวัดขาดน้ำที่จะใช้ในภาคอุตสาหกรรม และทราบกันดีอยู่แล้วเรื่องน้ำพี่น้องประชาชน รวมทั้งภาคอุตสาหกรรมมีเหตุผลในการใช้อยู่ 4 อย่าง คืออุปโภคบริโภครักษาระบบนิเวศเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม พื้นที่นี้ โฟกัส เรื่อง 3 และ 4 เป็นหลัก ส่วนมากเรื่องการใช้เกษตรกรรม มีความต้องการน้ำสูง และภาคพื้นอีแีซีจังหวัดระยอง จังหวัดชลบุรี และปราจีนบุรี เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ เป็นศูนย์ยุทธศาสตร์สําคัญของประเทศเรา ฉะนั้นความต้องการน้ำในเขตนี้จะมีสูงกว่าเขตอื่น ปัญหาความขัดแย้งของพี่น้องประชาชนในอนาคตที่จะเกิดขึ้นระหว่างการแย่งน้ำภาคการเกษตรและภาคอุตสาหกรรมเป็นเรื่องสำคัญ ตรงนี้รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างมาก ขอบคุณที่กรุณานำเสนอมีหลายประเด็นการพัฒนาความต้องการแหล่งน้ำ การเชื่อมต่อ ส่งจ่าย เชื่อว่าได้ศึกษากันมาดีแล้ว
นายกฯ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม การที่รัฐบาลนี้ได้เข้ามาบริหารจัดการในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาเราให้ความสำคัญที่สุดเรื่องหนึ่งคือการเชื้อเชิญนักลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาลงทุนในประเทศไทย การลงทุนเป็นการลงทุนที่สูง ไม่ใช่แค่เรื่องน้ำอย่างเดียว เรื่องพลังงานสะอาด และอีกหลายเรื่องเป็นปัจจัยสำคัญในการที่จะเชิญให้นักลงทุนจากต่างประเทศเข้ามา ฉะนั้นเรายอมรับไม่ได้ที่จะให้มีเรื่องไม่ดีเกี่ยวกับการขาดแคลนน้ำเกิดขึ้น เรื่องนี้ต้องอาศัยการทำงานร่วมกันในทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายปกครอง สทนช. กรมชลประทาน กระทรวงอุตสาหกรรม และบีโอไอ และอีกหลายภาคส่วน การที่ท่านได้นำเสนอมาและมีผลงานโดยเชื่อว่าเป็นเรื่องที่ดี และไม่อยากให้มีการล่าช้าเกิดขึ้นในการบริหารจัดการเรื่องนี้ ฉะนั้นถ้ามีปัญหาตรงไหนรัฐบาลพร้อมที่จะบริหารจัดการตรงนี้ให้ดี การสื่อสารกับพี่น้องประชาชนถือเป็นเรื่องสำคัญ อยากให้มีการสื่อสารที่ดีขึ้น ลดความขัดแย้งระหว่างภาคเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม ที่จะมีการแย่งน้ำกันเกิดขึ้น ถ้าตรงไหนมีปัญหาเกิดขึ้นขอให้แจ้งมาได้เลย
นายเศรษฐา กล่าวว่า เรื่องการจัดหาแหล่งน้ำ ขุดเจาะเชื่อมโยงถือเป็นเรื่องสำคัญ การลงทุนครั้งนี้ถือเป็นการลงทุนที่ทางเรามั่นใจว่าจะคุ้มค่าและเป็นประโยชน์กับประเทศชาติสูงสุดหากไม่ทำตรงนี้เราจะไม่สามารถยกระดับความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนได้ เราจะไม่สามารถหลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลางได้ เชื่อว่าอนาคตที่เราจะต้องเดินหน้าต่อไปด้วยกัน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่รัฐบาล ภาคเอกชน รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานรัฐต้องให้ความสำคัญ วันนี้การที่ลงพื้นที่ครั้งแรกของตนในอีอีซี ดีใจที่มีทุกส่วนเข้ามา และนั่งรถไฟมาก็มีการพูดคุยในหลายปัญหา เรื่องน้ำเป็นหนึ่งในหลายๆเรื่องที่เราได้มีการยกมาพูดคุยกัน เราจะกลับมาที่นี่อีก 60 วันข้างหน้า เพื่อมาดูเรื่องการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง เรื่องที่ยังไม่ถูกบริหารจัดการ เราให้ความสำคัญเรื่องนี้ ยืนยันการทำงานของรัฐบาลนี้จะทำงานอย่างรวดเร็วฉับพลัน และตอบโจทย์กับพี่น้องประชาชนนักลงทุนต่างชาติมากที่สุด
จากนั้นนายกฯ รับฟังระบบท่อส่งน้ำในภาคตะวันออก ของพื้นที่จ.ชลบุรี จ.ระยอง และจ.จันทบุรี รวมทั้งเยี่ยมชมสถานีสูบน้ำหนองปลาไหล โดยมีนายสุริยพล นุชอนงค์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เป็นผู้รายงาน ถึงสถานการณ์น้ำในพื้นที่
โดยนายกฯ ได้นำตัวแทนจากบริษัทวงษ์สยามและบริษัทอีสท์วอเตอร์ มาจับมือจับกันเพื่อยืนยันความร่วมมือต่อสื่อมวลชน พร้อมระบุว่า ปัญหาที่มีในอดีตก็มีการตกลงกันเรียบร้อยทั้งภาคอุตสาหกรรมและเกษตรกรรม มั่นใจได้ว่าปัญหาจะไม่เกิดขึ้น ซึ่งแหล่งน้ำเป็นเรื่องสำคัญในอดีตทางรัฐบาลมีความพยายามที่จะแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำที่จะเพียงพอต่อภาคอุตสาหกรรมที่ต้องการใช้โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เราเดินทางไปเจราจากับต่างประเทศในเรื่องไฟฟ้าและความเพียงพอในการมีน้ำใช้ของภาคอุตสาหกรรม
นายกฯ ระบุว่า ปฏิเสธไม่ได้ว่าเรามีปัญหาในการปั๊มน้ำจากแหล่งน้ำต่างๆ และเรื่องของการจัดส่งน้ำที่ภาคเอกชนอาจจะมีความเข้าใจผิดกันเกิดขึ้น แต่ได้แก้ไขปัญหาให้เรียบร้อยแล้ว วันนี้จึงเป็นศักดิ์ศรีพยานว่า ได้ข้อยุติในความร่วมมือทั้งสองฝ่ายและจบลงแล้วมโดยทั้งสองฝ่ายยินดีที่จะทำงานร่วมมือกันที่จะก้าวข้ามปัญหาในการขัดแย้งน้ำ นี่ว่าเป็นภาพประวัติศาสตร์ระหว่างรัฐบาลและภาคเอกชน เพื่อให้ความมั่นใจกับนักลงทุน และปัญหานี้จะไม่เกิดขึ้นอีกอนาคต
“ผมขอขอบคุณทุกท่านที่เห็นประโยชน์แก่ประเทศชาติเป็นหลักเรื่องเล็กๆ น้อยๆให้ลืมไปทุกท่านมาร่วมกันช่วยพัฒนาประเทศไปข้างหน้า ผมขอขอบคุณในนามรัฐบาลไทยไว้ด้วย” นายกฯ กล่าว