วันที่ 3 พ.ย.ที่ บช.ภ.1 พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รรท.ผบช.ภ.๑, พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ รรท.รอง ผบช.ภ.1, ร่วมกับ บช.ปส. โดย พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย รรท.ผบช.ปส. พร้อมด้วย หน่วยข่าวกรองทางทหาร โดย พล.ต.อาทิตย์ ม่วงเล็ก ผบ.ขกท., ขกท.ศปก.นสศ. โดย พ.อ.สุพจน์ สวาคฆพรรณ, สำนักงาน ป.ป.ส.ภาค 1 โดยนายประสาร หยงสตาร์ ผอ.ป.ป.ส.ภาค 1 ว่าที่ ร.ต. อากาศ ปานแย้ม ผู้เชี่ยวชาญด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส.ภาค 1 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกนายในสังกัดบูรณาการร่วมกันสืบสวนจับกุมบุคคลในเครือข่ายยาเสพติด มีรายละเอียดดังนี้
สืบเนื่องจากวันที่ 4 ก.ย.66 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรภาค 1 ชุดที่ 3 ได้จับกุมนายนนทวัฒน์หรือนิก (ขอสงวนนามสกุล) และนายศุภวัฒน์หรือตาล (ขอสงวนนามสกุล) พร้อมของกลางยาบ้า ประมาณ 1,600,000 เม็ด พื้นที่ สภ.หนองแค ภ.จว.สระบุรี ซึ่งจากสืบสวนขยายผลในคดีดังกล่าว ทำให้ทราบว่าจะมีทีมลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้ามาส่งยาเสพติดในพื้นที่ภาคกลาง พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุลรรท.ผบก.ภ.จว.
สมุทรปราการ ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่ง ผบก.ภ.จว.สระบุรี จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเฝ้าระวังติดตามและสืบสวนจับกุม
ต่อมาเมื่อวันที่ 31 ต.ค.66 จากการสืบสวนทราบว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจาก จ.นครพนม มาส่งให้ลูกค้าในพื้นที่ภาคกลาง โดยใช้รถบรรทุกยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ทะเบียน 83-3754 สุรินทร์ เป็นยานพาหนะในการลำเลียง ยาเสพติด และจะใช้รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ทะเบียน บม ๖๔๕ ร้อยเอ็ด และรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน ยี่ห้ออีซูซุ สีเทา ทะเบียน 4 ขช 7466 กทม. ในการสำรวจเส้นทางด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนกระทั่งเวลาประมาณ 15.20 น. ของวันที่ 1 พ.ย.66 พ.ต.อ.ไกรสร ศรีอำพร ผกก.สส.ภ.จว.สระบุรี/หัวหน้า ชปส.ศอ.ปส.ภ.1 ชุดที่ 3 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรภาค 1 ชุดที่ 3 และเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยข่าวกรองทางทหาร ร่วมกันไปสังเกตการณ์และพบกลุ่มรถยนต์ดังกล่าวอยู่ที่สถานีบริการน้ำมัน พีที วังน้อย (ขาออก กทม.) หมู่ 3 ต.ลำไทร อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา จึงนำกำลังเฝ้าสังเกตการณ์และสามารถจับกุมผู้ต้องหาในคดีนี้ได้ จำนวน 5 คน ได้แก่ นายสุรชาติหรือชาติ (ขอสงวนนามสกุล), นายวิรอนหรือแดง (ขอสงวนนามสกุล), น้องชายของนายวิรงค์ (ขอสงวนนามสกุล), นายณัฐสิทธิ์หรือเติ้ล (สงวนนามสกุล), นายพงศ์อิทธิพลหรือเจ๋ง (ขอสงวนนามสกุล)
ผลการตรวจค้นพบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 8 กระสอบ รวมจำนวน 2,000 มัด ประมาณ 4,000,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ภายในรถบรรทุกยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ทะเบียน สุรินทร์ พร้อมด้วยอาวุธปืน 1 กระบอก และเครื่องกระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 14 นัด นำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.วังน้อย เพื่อดำเนินคดีในความผิด “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 3 เพิ่มเติมว่ามีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต” โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดการณ์ว่าหากไม่มีการจับกุมสกัดกั้นยาเสพติดดังกล่าวไว้ได้ก่อน จะแพร่กระจายสู่ท้องตลาดซึ่งจะมีมูลค่าสูงถึงประมาณ 40,000,000 บาท และจะเป็นภัยต่อประเทศชาติที่ทำให้เกิดปัญหาสังคมอื่นๆ ตามมาอีกมากมาย ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะขยายผลถึงผู้อยู่ในขบวนการค้ายาเสพติดและทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการทำความผิดเพื่อนำมาดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดต่อไป
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ ตำรวจภูธรภาค 1 พร้อมรับนโยบายด้านการปราบปรามยาเสพติดของรัฐบาล อย่างต่อเนื่อง และให้ความสำคัญในการปราบปรามยาเสพติด โดยในช่วงที่ผ่านมาสามารถจับผู้ต้องหาและยึดยาเสพติดได้มากขึ้น เนื่องจากมีการสืบสวนขยายผลที่เข้มงวดมากขึ้น ดำเนินการยึดทรัพย์กลุ่มผู้ค้ายาเสพติด และติดตามกลุ่มผู้ค้าที่ยังเคลื่อนไหว โดยดำเนินการควบคู่กันไปเพื่อตัดวงจรกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดอย่างเด็ดขาด