วันที่ 17 ธันวาคม 2567 ที่ห้องประชุมศรีพฤทเธศวร ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานเปิดโครงการมหาดไทยสีขาว สร้างพื้นที่ปลอดภัย หยุดยั้งยาเสพติด (Safe Zone No Drugs) โดยมีนายอนุรัตน์ ธรรมประจำจิต และนายสุริยา จินดาบุตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ และนายสุกิจ เหลืองสกุลไทย ปลัดจังหวัดศรีสะเกษ นำข้าราชการ พนักงานราชการ ลูกจ้างและบุคลากรในสังกัดกระทรวงมหาดไทยจังหวัดศรีสะเกษ เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก
นายสุกิจ เหลืองสกุลไทย ปลัดจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทย โดยกรมการปกครอง ได้จัดทำโครงการมหาดไทยสีขาวสร้างพื้นที่ปลอดภัย หยุดยั้งยาเสพติด(Safe Zone No Drues) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันมิให้ข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้าง และบุคลากรในสังกัดกระทรวงมหาดไทย เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดในทุกรูปแบบ โดยประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้างและบุคลากรในสังกัด ยินยอมและสมัครใจเข้ารับการตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะโดยปราศจากการบังคับกรณีตรวจพบข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้าง และบุคลากรมีสารเสพติดในร่างกายให้หัวหน้าส่วนราชการต้นสังกัดดำเนินการ ดังนี้ สอบถามความสมัครใจและยินยอมเข้ารับการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายในระบบของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้ผู้นั้นเข้ารับการบำบัดรักษาฯตามหลักนโยบาย "ผู้เสพ คือ คือ ผู้ป่วย"
ทั้งนี้ ให้ปกปิดข้อมูลของบุคลากรดังกล่าว/และห้ามกระทำการใดๆ อันเป็นการเปิดเผยต่อบุคคลที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของบุคลากรและครอบครัวเป็นสำคัญกำหนดมาตรการเพิ่มเติมเพื่อควบคุมพฤติกรรมอย่างใกล้ชิดในระหว่างการเข้ารับการบำบัดรักษาฯเช่น ให้มารายงานตัวต่อหัวหน้าส่วนราชการเป็นระยะ เพื่อให้คำแนะนำสอบถามอาการหรือต้องการช่วยเหลือเพิ่มเติมจากต้นสังกัดหรือหน่วยงานอื่น เพื่อจูงใจให้เลิกพฤติกรรมเกี่ยวกับยาเสพติด และเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาของการบำบัดรักษาและบุคลากรผู้นั้นตกลงร่วมกัน หากผู้นั้นยังไม่เลิกพฤติกรรมเกี่ยวกับยาเสพติดไม่สมัครใจเข้ารับการบำบัดรักษา หลบหนีการบำบัดรักษาหรือกระทำการใดๆ อันเป็นการแสดงออกว่าไม่ยินยอมเข้ารับการบำบัดรักษาฯตามข้อตกลงของหน่วยงานต้นสังกัด กรณีเป็นข้าราชการให้ดำเนินการลงโทษทางวินัยตามกฎหมายเกี่ยวกับวินัยของข้าราชการ และดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดสำหรับบุคลากรที่มิใช่ข้าราชการให้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป