เวลา 14.00 น. วันที่ 20 ต.ค. 66 ที่มูลนิธิเพื่อศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทย องค์กร PSC Thailand หรือ Palestine Solidarity Campaign Thailand มีนายรุ่งโรจน์ ซาลลี เป็นประธานองค์กร PSC Thailand จัดแถลงข่าว โดยนายซัยยิด เรซา โนบัดตี เอกอัครราชทูตอิหร่านประจำประเทศไทย กรณี สถานภาพตัวประกันชาวไทยและความขัดแย้งปาเลสไตน์​-อิสราเอล​และแนวโน้มการขยายตัวของสงคราม แถลงข่าวที่โรงแรม อัลมีรอซ ห้องริฟาอี ชั้น 3  ซอยรามคำแหง5 แขวงและเขตสวนหลวง กทม.

ศ.พลโท ดร.สมชาย วิรุฬหผล ที่ปรึกษาPSC Thailand  อ่านแถลงการณ์ ของPSC Thailand ฉบับที่ ๒ ว่า ตามที่มีข่าวนำเสนอโดยสื่อหลายองค์กรว่า อิสราเอลได้ทำการทิ้งระเบิดโรงพยาบาลในฉนวนกาซาทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 500 ราย และเลขาธิการสหประชาชาติได้ออกแถลงประณามการกระทำดังกล่าว ในการ นี้ PSC Thailand ขอประณามการกระทำที่ไร้มนุษยธรรมดังกล่าว ไม่ว่าจะโดยเจตนาหรือไม่ก็ตาม 

นอกจากนี้ PSC Thailand ยังขอประณามการโจมตีฉนวนกาซาอย่างต่อเนื่องของอิสราเอลโดยอ้างว่า โจมตีฮามาส ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่การโจมตีด้วยอาวุธหนักและทางอากาศจะไม่ก่อเหตุอันทำให้พลเรือนชาวปาเลสไตน์ผู้บริสุทธิ์จำนวนมากทั้งเด็กและคนชราต้องได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ประการต่อมา PSC Thailand ขอประณามการปิดล้อมฉนวนกาซา ทั้งการตัดน้ำ ตัดอาหารยารักษาโรค และไฟฟ้า ซึ่งจะนำไปสู่การสูญเสียชีวิตของผู้บริสุทธิ์อย่างทรมาน และนับว่าเป็นการกระทำที่ไร้มนุษยธรรมเป็นอย่างยิ่ง

อนึ่ง หากทางการอิสราเอลจะออกมาแก้ต่างว่าการระเบิดโรงพยาบาลนั้นเป็นการกระทำของฮามาส เพื่อเบี่ยงเบนประเด็น ทาง PSC Thailand และเครือข่ายก็ขอเรียกร้องให้ทางอิสราเอลแสคงความจริงใจในการเร่งดำเนินการเปิดช่องทางให้เจ้าหน้าที่ของสหประชาชาติได้เข้าไปทำการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อจะได้เป็นที่ชัดเจนว่าเป็นการกระทำของฝ่ายใด และหากว่าอิสราเอลยังไม่ยอมเปีดทางให้ดังกล่าว ก็ย่อมแสดงว่าการแถลงของอิสราเอลเป็นเพียงวาทะกรรมที่ โป้ปดเบี่ยงเบนอาชญากรรมสงครามที่ตนกำลังกระทำอยู่สุดท้ายนี้ PSC Thailand ยังคงยืนขันที่จะให้มีการแก้ปัญหาโดยสันติ นั่นคือการหยุดยิง เร่งให้มีการเจรจา และการปฏิบัติตามมติ สหประชาชาติในปี ค.ศ. 1967 นั่นคือการคืนดินแคนที่ยึดครองไป และยินยอมให้มีการจัดตั้งประเทศปาเลสไตน์

นายซัยยิด เรซา โนบัดตี เอกอัครราชทูตอิหร่าน กล่าวเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวที่แท้จริงของอิหร่านต่อกรณีสงคราม ปาเลสไตน์​-อิสราเอล​ ว่า ได้พบกับ ผู้นำฮามาสขอร้องให้ปล่อยตัวประกันไทยและฟิลิปปินส์  แต่ขณะนี้ อิสราเอลยังโจมตี ทำให้มีผู้เสียชีวิตอยู่ หากไม่หยุดยิง มองว่ายิ่งเป็นไปด้วยความยากลำบาก ซึ่งอิสราเอลยืนยันยังไม่พร้อมเจรจา ถ้ายังไม่มีการเจรจา การสงบศึกก็เป็นไปได้ยาก ขณะที่หลายชาติพยายามทำให้เกิดสันติภาพให้ได้ในที่สุด 

ส่วนสถานภาพตัวประกันที่คนไทยนั้น ทางกลุ่มฮามาสดูแลตัวประกันต่างชาติอย่างดี แต่การโจมตีของอิสราเอลทำให้มีตัวประกันเสียชีวิต 9 คน ยังไม่ทราบว่าเป็นชาติไหน ซึ่งกลุ่มฮามาสพยายามเคลื่อนย้ายตัวประกันไปในที่ปลอดภัย หากยังมีการโจมตี ก็เป็นไปได้ยาก รวมถึงตอนนี้อิสราเอลประกาศว่า ตัวประกันไม่ใช่ภารกิจของเค้า แต่ภารกิจหลักคือการยึดและทำลายกลุ่มฮามาส  สำหรับตัวประกัน ตอนนี้มี 200 กว่าคน มีทั้งคนไทย ต่างชาติ และอิสราเอล ด้วย 


ส่วนการเคลื่อนไหวกลุ่มฮิซบุลลอฮ์ ที่อยู่ในเลบานอน ทางตอนเหนือของอิสราเอล จากกระแสที่ว่าได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านนั้น ซึ่งจริงๆ มีกองกำลังความสามารถที่จะบุกไปถึงกรุงเทลอาวีฟได้ แต่เวลานี้พยายามที่จะจำกัดบทบาทแค่ป้องปรามไม่ให้อิสราเอลบุกมายังเลบานอน และหากอิสราเอล ยังบุกฆ่าชาวปาเลสไตน์ในกาซาต่อเนื่อง กลุ่มฮิซบุลลอฮ์อาจจะมีมาตราการที่เข้มข้นขึ้น แต่ถ้ามีการแก้ไขอย่างสันติวิธี  ก็พร้อมหยุด ดังนั้นทีัมีข่าวว่าเป็นการรุมอิสราเอล ยังไม่ปรากฏมีการดวลปืนใหญ่ตามชายแดนที่เป็นข่าวอยู่บ้าง

ทั้งนี้กรณีที่ต่างประเทศสนับสนุนทั้ง 2 ฝ่าย มองว่า ส่วนใหญ่ประเทศทางตะวันตกให้การสนับสนุนอิสราเอล แต่ว่าอย่างไรก็ตามประชาชนในประเทศเหล่านั้น มีจำนวนไม่น้อยที่สนับสนุนปาเลสไตน์และคัดค้านไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลของตัวเอง ซึ่งอันนี้ก็รวมทั้งการเคลื่อนไหวของ psc ในต่างประเทศด้วย เช่น ไอซ์แลนด์ สกอตแลนด์ ค่อนข้างที่จะรุนแรง ส่วนประเทศมุสลิมแน่นอนว่า ให้การสนับสนุนปาเลสไตน์ นอกจากนั้นยังมีกองกำลังทั้งหลายที่ให้การสนับสนุนกลุ่มฮามาสในการสู้รบ เนื่องจากอิสราเอลมีกำลังเหนือกว่าและได้รับการสนับสนุนจากประเทศมหาอำนาจ เป็นภาระที่หนักหน่วง


ส่วนการสู้รบจะขยายตัวหรือไม่ นายซัยยิด ระบุว่า หากอิสราเอลยังโจมตีฉนวนกาซาอยู่ โอกาสที่สงครามขยายตัวมีมาก โดยหวังว่าจะหยุดการเข่นฆ่าและเริ่มเจรจา ซึ่งประเด็นแรกจะต้องหยุดยิงและเจรจาเรื่องของการแลกเปลี่ยนตัวประกัน ตรงนี้หมายถึงตัวประกันอิสราเอลที่ฮามาสจับตัวไปก็จะแลกเปลี่ยนกับพวกเชลยศึกหรือนักโทษที่ติดคุกในอิสราเอลอยู่ แต่ถ้าอิสราเอลยังโจมตีอยู่ก็ไม่แน่ใจว่า สงครามจะขยายตัวต่อไปหรือไม่ ซึ่งมีความเป็นไปได้สูง

ส่วนที่มีแรงงานไทยเล่าว่า กลุ่มฮามาสพูดทักทายจนแรงงานไทยนึกว่าเป็นทหารอิสราเอลเข้ามาช่วยเหลือนั้น ศ.ดร.พล.ท.สมชาย กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นความสับสนเนื่องจากเกิดการรบลุกฮือขึ้นมาต่อต้าน ข้อมูลบางอย่างบางทีอาจจะมีความสับสน อีกประการหนึ่งคนที่ไปทำงานที่นั่น เมื่อกลับมาแล้วคงไม่กล้าให้ข้อมูลที่เป็น negative เพราะอาจจะเป็นอันตรายต่อพรรคพวกของเขาที่อยู่ที่นั่น ตรงนี้คงบอกยาก ส่วนกรณีที่ระเบิดโรงพยาบาลตอนนี้ก็อิสราเอลพูดว่า เป็นฝีมือฮามาส แต่ตอนแรกบางสื่อระบุว่า เป็นฝีมืออิสราเอล หากจะให้แน่ชัดต้องให้สหประชาชาติเข้าไปตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์จะได้รู้ว่าใครโจมตี จากนั้นนำขึ้นศาลอาชญากรรมระหว่างประเทศ เพราะเป็นอาชญากรรมร้ายแรงที่ทำลายโรงพยาบาล 

"จุดยืนของ PSC Thailand มีการประสาน PSC ที่ยูเครน เพื่อที่จะได้มีการขับเคลื่อนเป็นหนึ่งอันเดียวกับปาเลสไตน์ แต่เราจะต่อสู้ในแนวสันติ เพื่อให้เกิดสันติภาพที่ยั่งยืน แต่สันติภาพจะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าไม่มีความเป็นธรรมและไม่มีนิติธรรม" ศ.ดร.พล.ท.สมชาย กล่าว

อย่างไรก็ตามนายซัยยิด กล่าวทิ้งท้ายถึงการเรียกกลุ่มฮามาสเป็นผู้ก่อการร้าย ซึ่งได้ถามกลับว่า กลุ่มเวียดกงที่ลุกขึ้นมาปลดแอกจากสหรัฐอเมริกา เพื่อความเป็นอิสระถูกเรียกว่าเป็นผู้ก่อการร้ายหรือไม่ แม้แต่ยูเครนที่ลุกขึ้นมาต่อสู้กับรัสเซียถูกเรียกว่าผู้ก่อการร้ายหรือไม่ รวมถึงประเทศไทยเองที่พม่าเข้ามายึดครอง ซึ่งศ.ดร.พล.ท.สมชาย กล่าวยกตัวอย่างสมัยพระเจ้าตากสินที่ลุกขึ้นมาสู้และขับไล่พม่าแล้วเราจะเรียกท่านว่าเป็นผู้ก่อการร้ายหรือไม่ ในเมื่อคนเหล่านั้นต่อสู้เพื่อปลดปล่อยการปกครองการยึดครองของอิสราเอล เพื่อให้ได้ดินแดนของเขาคืนมา แล้วจะเรียกเขาว่าผู้ก่อการร้ายหรือไม่