จากกรณี คุณตาชื่อ นายนอ (สงวนนามสกุุล) อายุ 83 ปี และ คุณยายชื่อ นางแว่น (สงวนนามสกุล) อายุ 69 ปี ชาว จ.นครราชสีมา เข้าร้องขอความช่วยเหลือกับ “เพจสายไหมต้องรอด” หลังเกรงไม่ปลอดภัย ถูกลูกสาวคนเล็กแอบเอายากล่อมประสาทให้กินเป็นเวลานาน 3 ปี จนเกือบเสียสติ และมีการช่วยเหลือออกมาได้ หลานสาวพาเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลจนกลับมาเป็นปกติ ซึ่งพบว่าเงินในบัญชีธนาคารกว่า 10 ล้าน รวมทั้งที่ดินกว่า 100 ไร่ มูลค่า 500 ล้านบาท ถูกโอนไปเป็นชื่อลูกสาวคนเล็กจนหมด จากนั้น ได้เข้าร้องเรียน ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อขอความเป็นธรรม เนื่องจากมีการเอาที่ดินไปจำนองกับผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ เมื่อวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา
วันนี้ (20 ต.ค.) เวลา 11.30 น. ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม อาคารศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ ชั้น 8 อาคารบี (ฝั่งทิศตะวันออก) กรุงเทพฯ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พร้อมทีมงาน พา 2 ตายาย เข้าพบ พ.ต.ท.เชน กาญจนาปัจจ์ รอง ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อขอนำเส้นผมไปตรวจหาสารเสพติด หลังลูกเขยมีพฤติกรรมเสพยาบ้า จึงไม่แน่ใจว่ายาเม็ดที่ลูกสาวและลูกเขยให้กินจนทำให้เกือบเสียสติใช่ยาบ้าหรือไม่ เพื่อดำเนินคดีต่อไป
พ.ต.ท.เชน กล่าวว่า สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ได้รับการประสานติดต่อจาก ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ เพื่อขอช่วยตรวจสารเสพติดในร่างกายของสองตายาย โดยปกติจะใช้วิธีการตรวจเลือดช่วงเกิดเหตุ 1-3 วัน ทราบผลทันทีแต่เนื่องจากมีข้อจำกัดเรื่องระยะเวลาการกินยา ซึ่งสองตายายได้อยู่กับลูกสาวคนเล็ก ตั้งแต่ปี 2563 มีการรับประทานยาหลายอย่าง ทั้ง ยาความดัน ยาเบาหวาน และอื่นๆ ไม่ทราบชนิด ก่อนมีการอาการปากแห้ง ไม่ค่อยสบาย รวมทั้ง อยู่กับลูกสาวคนเล็กและไม่มีความสุขจึงช่วยเหลือออกมาเมื่อเดือน เม.ย.66 ขณะนี้ทราบว่ามีการแจ้งข้อหา “ลักทรัพย์” และอยู่ในชั้นอัยการพิจารณา
ส่วนผลการตรวจเส้นผมจะดำเนินการเร่งด่วนภายใน 10 วัน จากปกติประมาณ 30 วัน เพราะต้องส่งมอบผลตรวจของสองตายายให้อัยการ หากผลตรวจเป็นบวกทางคดีอาจมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมภายหลัง ทั้งนี้ วิธีการตรวจของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ มีมาตรฐานตามหลักสากล ส่วนผลการตรวจจะทราบถึงสารที่อยู่ในร่างกาย เช่น หากเป็นยาบ้าจะพบสารเมทแอมเฟตามีน
“สำหรับความยาวของเส้นผมจะสามารถบอกระยะเวลาการทานยาได้ว่าระยะนานเท่าใด ซึ่งความยาวเส้นผมคุณยายไม่มีปัญหาแต่คุณตาอาจจะยาวไม่พอและต้องขอความยินยอมนำเส้นขนจากส่วนอื่นในร่างกายมาทดแทนได้”
ด้าน นายเอกภพ เผยว่า วันนี้พาสองตายาย ร่วมกับ กรมกิจการผู้สูงอายุ มาพิสูจน์ความจริงให้ปรากฏว่าทั้งสองท่านกินยากล่อมประสาทหรือยาเสพติดอะไรกันแน่ โดยสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ มีความเชี่ยวชาญในเรื่องดังกล่าว สามารถตรวจย้อนหลังได้ถึง 3 ปีขึ้นอยู่กับความยาวของเส้นผม ที่ได้มาตรฐานและโปร่งใส
ขณะที่ คุณตาชื่อ นายนอ ระบุว่า ถือเป็นลูกทรพี แต่ตนยอมรับว่าเขาเป็นลูกแท้ๆ แต่ ณ ตอนนี้ได้ตัดขาดความเป็นพ่อลูกแล้ว เพราะมันเกินมนุษย์ อีกทั้งตั้งแต่ออกจากบ้านเมื่อเดือนเมษายน ได้เคยคุยกับลูกคนนี้ผ่านศาล ช่วงตอนไกล่เกลี่ย แต่เขาไม่ยอมรับว่าทำผิด เขาอ้างว่าตนยกที่ดินให้เขา แต่ตนไม่เคยยกให้เลย อย่างเรื่องการเซ็นโอนเงิน ตนก็ไม่เคยเซ็น ไม่รู้เรื่อง อย่างไรก็ตาม หากลูกคนนี้จะมาขอคุย ตนคงไม่เปิดโอกาสให้คุย มันเกินไป มันไม่ใช่ลูกแล้ว เงินของพ่อก็เอาไปหมด แทนที่จะคิดว่าเอาไว้ให้พ่อแม่ใช้ แม้เงินคนเเก่ก็เอาไป ทั้งนี้ ตนสงสัยอยู่ว่าเงินกับที่ดินที่เขาเอาไปจะได้กลับคืนมาหรือไม่ แต่ยืนยันว่าจะให้ติดคุกแน่นอน.