เผยอีกคลิป 8 นาทีหน้าบังเกอร์ ก่อนแรงงานไทยถูกจับเป็นตัวประกัน 2 ครอบครัวที่ จ.อุดรธานี สุดห่วงยังติดต่อไม่ได้ หวังเป็นข่าวดีหลังกลุ่มฮามาสจะปล่อยตัวประกัน พ่อของนายท็อปหนึ่งในตัวประกันเผย 12 วันเพิ่งกินข้าวได้ ลูกชายเตรียมกลับมาเดือนเมษาปีหน้า อยากสานต่องานเกษตรของพ่อกำหนดกลับครบ 5 ปี เดือนเม.ย.ที่จะถึงนี้ อาเผยนายท็อปล้มลุกคลุกคลานมาตั้งแต่เด็กเคยผ่านวิกฤติสึนามึจนเป็นบ้ามาแล้ว หวังคราวนี้หลานชายจะรอดปลอดภัยกลับมาบ้านเหมือรอดตายจากคลื่นสินามิอีกครั้ง

วันนี้ (18 ต.ค.66) ผู้สื่อข่าวที่ จ.อุดรธานีรายงานว่า  มีมาอีกคลิปก่อนแรงงานไทยก่อนถูกจับเป็นตัวประกัน โดยเป็นคลิปขณะที่แรงงานไทยยืนอยู่หน้าบังเกอร์ และปรากฎว่าถนนหน้าคิบบูตมีการยิงต่อสู้กัน โดยก่อนหน้านี้มีคลิปกลุ่มแรงงานไทยกำลังเดินไปที่บังเกอร์ แต่คลิปนี้เป็นคลิปล่าสุดก่อนแรงงานไทยจะถูกจับเป็นตัวประกันประกอบไปด้วยนายมณี,นายอนุชา,นายคมกริช,ชาวต่างชาติ และนายณัฐพล รวมถึงนายเกียรติศักดิ์ โดยในคลิปนี้จะเห็นกลุ่มแรงงานไทยยืนอยู่หน้าบังเกอร์ เห็นนายมณี ยืนอยู่กลางถนน และมีเสียงคนถ่ายคลิป โห..เสียงปืน คงจะมีคนตายอยู่นะ ได้ยินเสียงปืนยิงกัน คลิปที่ 2 ได้ยินเสียงปืนรัวเป็นชุด แรงงานไทยหน้าบังเกอร์ก็บอกว่า อยู่หน้าคิบบุตเลย จากนั้นก็เห็นเจ้าหน้าที่ของอิสราเอลถือปืนเดินไปสองคน โดยมีรถปิคอัพสีขาวจอดอยู่กลางถนน และเสียงหนึ่งในแรงงานไทยก็บอกว่า เข้ามาหน่อย อย่าไปชะเง้อแบบนั้น ลูกปืน ฟิ้วๆ อยู่ และเพื่อนๆก็บอกให้มณีเข้าไปในบังเกอร์ และในคลิปจะสังเกตเห็นนายท็อปใส่เสื้อแขนยาวสีดำสลับเขียวยืนอยู่หน้าบังเกอร์จากนั้นคลิปก็ตัดไป โดยเพื่อนๆ ของแรงงานไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกัน บอกว่าเป็นคลิป 8 นาทีก่อนจะถูกจับ

และหลังจากกลุ่มฮามาสได้ออกมาประกาศว่าจะปล่อยตัวประกันที่ไม่ใช่คนอิสราเอล ล่าสุดวันนี้ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับนายคำสี พาที อายุ 63 ปี ซึ่งเป็นคุณพ่อของนายเกียรติ พาที อายุ 35 ปีหรือ “ท็อป” หนึ่งในแรงงานไทยที่มีชื่อถูกจับเป็นตัวประกัน พบว่านายคำสีพร้อมภรรยาต้องออกมาอยู่บ้านของลูกชายที่ส่งเงินมาสร้างเอาไว้ที่ปลายนา

 นายคำสี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า 12 วันแล้วที่รอฟังข่าวลูกชาย ได้ยินข่าวว่ากลุ่มฮามาสจะปล่อยตัวประกันตั้งแต่เมื่อวาน รู้สึกดีใจขึ้นมาในระดับหนึ่ง หลังจากที่ผ่านมา หัวอกคนเป็นพ่อไม่กินข้าว นอนก็ไม่หลับ จนภรรยาต้องให้ดื่มน้ำแทน และเพิ่งนอนหลับได้เมื่อคืนที่ผ่านมา 12 วันที่ผ่านมาบอกได้ตรงๆ ห่วงลูกชายมาก ทำอะไรไม่เป็นกะจิตกะใจในการทำงาน ทุกวันจะไม่ค่อยอยู่บ้านญาติๆ จะพากันไปบนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ไหนดีไปหมด ไปหาหมอดูหลายที่ท่านบอกว่า ท็อปและเพื่อนๆ ที่ถูกจับเป็นตัวประกัน ยังปลอดภัยดีและมีชีวิตอยู่ เดี่ยวเขาก็ปล่อยตัวมา เราก็ทำได้เท่าที่พ่อทำได้ หวังลูกชายจะได้รับการปล่อยตัวและกลับมาเมืองไทยจะได้เห็นหน้าลูกชาย เมื่อวานผมก็ไปเยี่ยมพ่อแหล่ พ่อนายมณี เพื่อไปให้กำลังใจกัน หัวอกคนเป็นพ่ออยากไปเยี่ยมกัน

ลูกชายไปทำงาน 4 ปีกว่าแล้ว เดือนเมษาปีหน้าจะครบแท็กกลับมาบ้านแล้ว เขาส่งเงินมาให้พ่อสร้างบ้านเอาไว้และซื้อรถไถนั่งขับให้พ่อ เพราะเห็นพ่อเหนื่อยทำนา และให้พ่อขุดสระเลี้ยงปลาเอาไว้ เห็นบอกว่า หลังจากกลับจากอิสราเอลจะกลับมาทำไร่ทำนาสานฝันแทนพ่อ พ่อจะได้ไม่เหนื่อย และเขาบอกจะเลี้ยงและดูแลพ่อเอง ตอนนี้รอปาฏิหาริย์และภาวนาให้ลูกชายได้ถูกปล่อยตัวออกมา หัวอกพ่อกล่าวด้วยความหวังลูกชายจะได้รับการปล่อยตัว

ขณะที่นายแสวง พาที อาของนายท็อป ยังมีความหวังว่าหลานชายยังมีชีวิตอยู่ และบอกอีกว่า ท็อปหลานชายล้มลุกคลุกคลานมาตั้งแต่เด็ก หลังจากพ่อและแม่แยกทางกันได้มาอยู่กับพ่อ ไปทำงานโรงแรมภูเก็ตผ่านคลื่นสึนามิมาได้แต่ก็เป็นบ้าช่วงหนึ่งจนต้องพาไปรักษาจนหายปกติ หลังจากนั้นตนเองก็พาไปทำงานขับรถบดถนน เคยเป็น รปภ.ที่กรุงเทพฯ อยู่หลายปี ไปทำงานไต้หวัน และตอนท้ายไปทำงานอิสราเอล ชีวิตเขาผ่านอะไรมาแต่ไม่เคยท้อชีวิต หลานชายบอกว่าเขา ไม่อยากให้พ่อเหนื่อยจะหาเงินมาดูแลพ่อเอง ตนเองห่วงหลานชายเหมือนพ่อคนหนึ่ง  ตอนนี้หวังว่าท็อปยังปลอดภัยและมีชีวิตอยู่

ขณะเดียวกันอีกครอบครัวที่ยังถูกจับเป็นตัวประกันคือนายบุญถม ชาวอ.สร้างคอม นางอุไร จันทะชาติ อายุ 61 ปี พี่สาวนายบุญถม เปิดเผยว่า หลังข่าวว่าจะมีการปล่อยตัวตัวประกัน รู้สึกดีใจขึ้นมามากและมีความหวัง ฝากถึงรัฐบาลไทยช่วยรีบพาตัวออกมาโดยเร็ว เกรงว่าผู้ที่ตรวจจับเป็นตัวประกันจะหิวข้าวหิวน้ำไม่ได้กินข้าวกินน้ำ ตั้งแต่น้องชายถูกจับไปเป็นตัวประกันก็ไม่ได้ข่าวเลย ผ่านมาแล้ว 12 วัน ไม่ได้ยินข่าวข่าวว่าน้องชายเป็นตายร้ายดีอย่างไร ทั้งนี้หากน้องชายกลับมาถึงประเทศไทย ทางบ้านจะทำพิธีบายศรีสู่ขวัญให้ยิ่งใหญ่เพื่อต้อนรับการกลับมา