เมื่อวันที่ 18 ต.ค.66 ที่ศูนย์ช่วยเหลือสังคมชุมชนโค้งรถไฟยมราช เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) พร้อมคณะผู้บริหาร พม. ลงพื้นที่พบปะ พูดคุย ให้กำลังใจ รวมถึงจัดกิจกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตและให้บริการครัวเรือนเปราะบางในชุมชนโค้งรถไฟยมราช นายวราวุธ กล่าวว่า พม. โดยกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) ให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางในชุมชนได้เปิด “ศูนย์ช่วยเหลือสังคมชุมชนโค้งรถไฟยมราช” เพื่อเป็นศูนย์กลางการรับเรื่อง และบริการคนทุกช่วงวัยอย่างครอบคลุมในทุกมิติ การให้บริการแบบจุดเดียวเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) และประสานส่งต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ได้อย่างตรงสภาพปัญหา
นายวราวุธ กล่าวว่า ที่ผ่านมาทุกหน่วยงาน พม. ร่วมเป็นผู้จัดการรายกรณี ดำเนินการพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กและครอบครัวขายพวงมาลัย จำนวน 12 ครอบครัวในชุมชนโค้งรถไฟยมราช ตลอดจนได้ประสานบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกมิติทางสังคม
นายวราวุธ กล่าวด้วยว่า นโยบายพม.คือลดความเหลื่อมล้ำ หาและให้โอกาสประชาชนทุกคนให้อยู่ในสังคมอย่างมีศักดิ์ศรีเท่าเทียมกันไม่ว่าจะเป็นเด็กเยาว สตรี คนพิการ คนไร้ที่พึ่ง พ่อแม่เลี้ยงเดี่ยว องค์ประกอบสำคัญคือความอบอุ่นของครอบครัวและชุมชน ซึ่งเป็นเกราะป้องกันเยาวชนให้รอดพ้นภาวะที่ไม่อยากให้เกิด ที่ผ่านมาพม.ได้ทำงานช่วยเหลือขุมชนนี้และชุมชนอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะชุมชนโค้งรถไฟยมราชได้มาติดตามการแก้ปัญหาและพัฒนากลุ่มเปราะบางที่ดำเนินการมาแล้ว 1 ปี
นายวราวุธ กล่าวว่า ที่ผ่านมาปัญหาใหญ่ที่พบคือเยาวชนที่ออกไปขายพวงมาลัยขายของบริเวณริมทางซึ่งเสี่ยงเกิดอันตราย ได้มีการแก้ปัญหาจัดสถานที่ใหม่ให้ขาย มีหลายหน่วยงานทั้งรัฐและเอกชนมาร่วมแก้ปัญหาจนเกิดความยั่งยืน รวมถึงการสนับสนุนให้เด็กทุกคนได้เรียน ทั้งนี้จะนำเป็นชุมชนต้นแบบนำร่องขยายผลในการแก้ปัญหาชุมชนอื่นๆ ทั้งในกทม.ที่มีอีกหลายพื้นที่และต่างจังหวัด
นายวราวุธ กล่าวว่า อย่างไรก็ตามแต่ละพื้นที่มีบริบทข้อจำกัดของปัญหาที่แตกต่าง ไม่สามารถตัดเสื้อโหล่ใช้แก้ปัญหาได้ เป็นความละเอียดอ่อนที่ต้องศึกษา เข้าใจและอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่ายร่วมกันแก้ปัญหา ทั้งนี้การสร้างความเข็มแข็ง ความมั่นคงให้กับชุมชนเล็กๆ ที่กระจายทุกพื้นที่ในประเทศไทย เป็นแนวทางนำไปสู่การแก้ปัญหาสังคม ยาเสพติดได้ นอกจากนี้การทำงานของพม.ใน 5 กรม 2 รัฐวิสาหกิจ 1องค์การมหาชน ต้องเป็นหนึ่งเดียว ไม่สามารถแยกกรมทำงาน ทุกหน่วยงานต้องร่วมขับเคลื่อนไปพร้อมกันโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง