นาย สามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม  ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ inside รัฐสภา โดยได้แสดงความเป็นห่วงเกี่ยวกับโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บ.ของรัฐบาลที่ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับชุมชนระบุว่า ...  นอกจากเงื่อนไขจะคล้ายกับโครงการเราชนะ  ทั้งการห้ามจ่ายเงินข้ามเขต  และห้ามขายของออนไลน์ แล้ว   ยังมีเงื่อนไขเรื่อง ความจำเป็นต้องขึ้นทะเบียนภาษี และระยะได้เงินคืนของร้านค้ายาวนานถึง 6  เดือน   มั่นใจว่า ร้านค้าเล็กๆ จะไม่เข้าร่วมโครงการนี้อย่างแน่นอน   เพราะที่ผ่านมามีบทเรียนจากโครงการเราชนะ  ที่มี 3 พันกว่าร้าน  เป็นคดีความถูกเรียกเงินคืนทั้งหมดจากภาครัฐ    ดังนั้นหากมีโครงการดิจิทัล เกิดขึ้นอีก   เชื่อว่าผลประโยชน์ทั้งหมดจึงไปตกกับ คนทำแอปพลิเคชั่น  ร้านค้าใหญ่ๆ  และร้านสะดวกซื้อที่เปิด 24 ชั่วโมงมากกว่า    ดังนั้นจะไม่เกิดภาวะหมุนเวียนของกระแสเงินในระบบอย่างที่รัฐบาลต้องการ   
 
 นายสามารถ  ย้ำว่า  งบประมาณในโครงการเงินดิจิทัล ใช้เงินกว่า 560,000 ล้านบาท  ไม่ใช่เงินของรัฐบาล   แต่เป็นเงินภาษีของประชาชนที่ต้องจ่ายในอนาคต   หากมีการกู้ยืมเงิน หรือใช้งบประมาณแผ่นดินหมดไปกับโครงการนี้   จะไม่เหลือพอสำหรับการพัฒนาประเทศในด้านอื่นอย่างแน่นอน    วันนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญที่รัฐบาลต้องคิดและทบทวนอย่างรอบคอบ   อย่าคำนึงเฉพาะนโยบายหาเสียงของพรรคการเมืองจากคะแนนเพียง 10 ล้านเสียงเท่านั้นเพราะคนไทยมี 70 ล้านเสียง   อีกทั้งตัวเลขหนี้สาธารณะของประเทศขณะนี้สูงกว่า 60% ต่อ GDP  ไปแล้ว    ทำโครงการนี้จึงเสมือนกับการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ 

“ ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ  เงินไม่ได้หมุนสองสามรอบอย่างที่เราต้องการ  เหตุการณ์นี้มันเป็นแบบเดจาวู   ...เราจะพลาดอีกไม่ได้อีกแล้ว  หนี้สาธาณะประเทศไทยต้องไม่เพิ่มขึ้น  นโยบายหาเสียงไว้เขาเเลือกคุณด้วยเสียง 10 ล้าน   แต่อีก  60 กว่าล้านไม่ได้เลือกพรรคเพื่อไทย  เพราะไม่เห็นด้วยกับนโยบายนี้    ถ้าคุณอ้างว่าเป็นประชาธิปัตย์จริง ก็ต้องฟังเสียงส่วนใหญ่   แต่ 60 ล้านเค้าไม่เอา  ถ้าคุณยังดึงดันกับนโยบายนี้     ผมเชื่ออย่างสุจริตว่า จะต้องมีคนได้ประโยชน์จากเรื่องนี้  มากกว่าประชาชน   จิ้งจกทักต้องฟัง  นี่ไม่ใช่...นี่คือ อดีตรัฐมนตรี อดีตผู้ว่าฯแบงค์ชาติ   อดีตนักวิชาการ  เค้าไม่ใช่จิ้งจก  แต่เป็นคนมีความรู้   เขาออกมาให้ความรู้อย่างสุจริต  กลัวว่าลูกหลานจะมาชี้หน้าด่าเขา ในอนาคต“  นายสามารถ ย้ำ 

นายสามารถ  กล่าวทิ้งท้ายโดยฝากความหวังไว้กับ   พรรคการเมืองและ พรรคฝ่ายค้านจะทำหน้าที่ตรวจสอบ  หากรัฐบาลยังเดินหน้าโครงการเงินดิจิทัล  โดยพรรคการเมือง  สามารถยื่นอภิปรายตรวจสอบการดำเนินการในสมัยการประชุมหน้าได้   เพื่อแสดงถึงความเป็นห่วงเกี่ยวกับโครงการเงินดิจิทัล   ไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย  อย่าง  โครงการจำนำข้าว  ที่ถือเป็นความล้มเหลวด้านนโยบายของรัฐบาลในอดีตอีกด้วย