วันที่ 11 ต.ค 2566 ที่รัฐสภา มีการประชุมวุฒิสภา ที่มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุม ได้พิจารณารายงานผลการตรวจสอบและผลการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ประจำปีงบประมาณ 2565 และรายงานสถานการณ์การทุจรติประเทศไทย ประจำปีงบประมาณ 2565
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการอภิปรายของสว.ได้ตั้งคำถามเกี่ยวกับการทำงานเชิงรุกของ ป.ป.ช. ต่อการตรวจสอบนโยบายของรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง โดยเฉพาะนโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท และมีการท้วงติงจากฝ่ายต่างๆ และกังวลว่าจะซ้ำรอยโครงการรับจำนำข้าวที่สร้างความเสียหายเป็นมูลค่ามหาศาล
ทั้งนี้นางสุวณา สุวรรณจูฑะ กรรรมการ ป.ป.ช. ชี้แจงว่า กรรมการเฝ้าระวังสภาวะการทุจริต สำนักงาน ป.ป.ช. ซึ่งตนเป็นประธาน ได้ศึกษารวบรวมละเอียดข้อมูล ได้ศึกษาคำแถลงนโยบายของครม.เมื่อ วันที่ 11-12 ก.ย. เกี่ยวกับโครงการเติมเงิน 1 หมื่นบาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งได้ประชุมและรวบรวมข้อมูลต่างๆ รวมถึงรายละเอียดโดยใช้เครื่องมือที่กรรมการ ป.ป.ช. เสนอครม.ว่าด้วยเกณฑ์ชี้วัดความเสี่ยงในการทุจริตเชิงนโยบาย และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับนโยบายดังกล่าว ซึ่งมีข้อมูล นำเสนอให้ ป.ป.ช. รับทราบและดูผลดำเนินการ
“ขณะนี้ได้เสนอต่อกรรมมการป.ป.ช. เป็นวาระเริ่มต้น โดยหารือเบื้องต้นว่าจำเป็นต้องเชิญนักวิชาการ ผู้ที่มีความรู้เรื่องต่างๆ มาศึกษารายละเอียดให้ครบถ้วน ซึ่งได้ตรวจสอบนโยบายสำคัญของรัฐบาลเหมือนชุดที่ผ่านๆ มาด้วยความห่วงใยของ สว.ต้องทำโดยเร่งด่วน" นางสุวณา กล่าว
ด้านนางสุภา ปิยะจิตติ กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่าการรายงานผลการทำงานต่อวุฒิสภา ถือเป็นการทำงานในวาระสุดท้ายก่อนที่จะพ้นวาระ ซึ่งที่ผ่านมาตนขอขอบคุณวุฒิสภาที่ให้ตนเข้ามาทำงาน และเป็นการทำงานเพื่อชดใช้แผ่นดิน ในประเด็นที่ถูกซักถามต่อประเด็นจีทูจีในคดีกลุ่มว่าด้วยข้าว ซึ่งเกี่ยวกับนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ และพวกรวม 52 คน รวม 4 สัญญา มูลค่ารวม 1.2 แสนล้านบาท มีมติชี้มมูลเรียบร้อยแล้ว และส่งให้อัยการพิจารณาเช่นเดียวกับคดีจีทูจีมันสำปะหลัง ที่เกิดขึ้นในรัฐบาลสมัยก่อนหน้านี้ ป.ป.ช.ชี้มูลแล้ว นอกจากนั้นยังมีประเด็นการทำงานเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติ โดยได้เรียกคืนที่ดิน 7,000 ไร่ ทั้งนี้ปี 65 - 66 มีสถิติที่เพิ่มมากขึ้น