สุดจะกลั้นน้ำตา  หัวอกคนเป็นแม่และเมียร่ำไห้ ถามข่าวลูกจากเพื่อนแรงงานในอิสราเอล คำตอบที่ได้รับ บอกให้ทำใจ นายไม้ตายแล้ว แต่ทางการยังไม่ยืนยัน คนเป็นแม่และเมียวอนรัฐบาลไทยพาลูกกลับบ้าน แม้เป็นศพกลับมาก็รับได้ถ้าจะให้ดีขอตัวเป็นๆ กลับมาจะดีกว่า

 

วันนี้ (9 ต.ค.66) ผู้สื่อข่าวจ.อุดรธานี เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 46 หมู่ 14 บ้านทุ่งขวาง ต.เชียงเพ็ง อ.กุดจับ จ.อุดรธานี พบกับครอบครัวของนายไชยยา รักษานนท์ หรือ “ไม้” อายุ 28 ปี แรงงานชาวจ.อุดรธานีที่ไปทำงานที่ประเทศอิสราเอลอีกคน ตอนนี้ทั้งแม่พี่สาวและภรรยาเป็นห่วงเพราะติดต่อไม่ได้ โดยพบกับ นางทองยิ้ม รักษานนท์ อายุ 48 ปี แม่ของนายไม้ และน.ส.สายใจ ศรีบุญ ภรรยา ต่างรอเฝ้าข่าวคราวตลอดเวลาแต่ยังติดต่อนายไม้ไม่ได้ ทั้งแม่พี่สาวนายไม้และภรรยาทำได้เพียงกราบขอพรกับพระพุทธรูประจำบ้าน โดยพี่สาวบอกว่ากราบต่อหน้าพระว่า ขอให้น้องไม้ปลอดภัยกลับมาบ้านเราอย่างปลอดภัย หากเสียชีวิตแล้วก็ขอให้ได้กระดูกกลับมาทำบุญ”

น.ส.รัชนี สกุลดี อายุ 28 ปี พี่สาวนายไม้ เปิดเผยว่า  ก่อนเหตุสู้รบตนได้พูดคุยกับน้องชายเมื่อวันเสาร์ที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยน้องติดต่อด้วยข้อความว่ามีการเกิดเหตุยิงกันที่หน้าแคมป์คนงานมีชาวเนปาลเสียชีวิต จากนั้นก็ติดต่อไม่ได้จนวันนี้ ต่อมาตนได้สอบถามไปยังเพื่อนคนงานด้วยว่าติดต่อได้ไหม เพื่อนคนงานก็บอกกับมาทางแชทว่า “ให้ทำใจ” และเท่าที่ทราบข้อมูลตอนนี้มีคนไทยเสียชีวิตที่แคมป์แล้ว 13 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นคาดว่าเป็นน้องชาย

 

น.ส.สายใจ ศรีบุญ อายุ 28 ปี ภรรยา เปิดเผยว่า ตนแต่งงานกับสามีได้ 3 ปี จากนั้นสามีก็ขอไปทำงานที่อิสราเอล ทำงานตำแหน่งพนักงานขับรถสีมันฝรั่ง เพื่อนบอกว่าสามีอาจจะถูกยิงเสียชีวิต นอนไม่หลับเลย แต่ส่วนตัวยังไม่เชื่อว่าสามีจะเสียชีวิตต้องรอการยืนยันจากทางการอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้สามีไปทำงานที่อิสราเอลได้ราว 3 ปี โดยแชทข้อความล่าสุดที่คุยกันสามีคุยว่า มีการยิงกันในแคมคนงาน ตนก็บอกให้ดูแลตัวเองดี จากนั้นตนก็พยายามติดต่อได้ส่งข้อความและโทรไปก็ไม่สามารถติดต่อได้

 

นางทองยิ้ม รักษานนท์ อายุ 48 ปี ผู้เป็นแม่ บอกว่า หลังสอบถามไปยังเพื่อนลูกชาย เพื่อนแรงงานว่า ให้ทำใจนะแม่ รู้สึกเสียใจมาก แต่ตนก็ภาวนาว่าขออย่าให้ลูกเสียชีวิต สาเหตุที่ลูกไปทำงานอิสราเอลก็เพราะว่าฐานะทางความครอบครัวเรายากจน ต้องการหาเงินมาเรียงครอบครัว โดยตนได้บนบานศาลกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอให้ลูกปลอดภัยแล้ว ขอฝากถึงทางการไทยช่วยพาลูกกลับบ้านด้วย แม้ตายแล้วก็ขอเอากระดูกกลับมาบำเพ็ญกุศลที่บ้าน แต่ก็ภาวนาขอให้ลูกกลับมาแบบมีชีวิตตัวเป็นๆจะดีกว่า แม่น้ำตาคลอและร่ำไห้

ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสพูดคุยกับแรงงานคนไทยชาวโคราชท่านหนึ่ง ชื่อนายก๋วย ซึ่งรู้จักกับนายไชยยา หรือไม้ เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เหตุการณ์สู้รบตอนนี้ล่าสุดขณะนี้ยังไม่สงบ คนไทยส่วนใหญ่หลบอยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว การเสียชีวิตของน้องไม้นั้นขณะนี้ยังไม่คอนเฟิร์ม แต่จะเล่าเหตุการณ์ตอนนั้นให้ฟังว่า ผู้ก่อตั้งก่อการร้ายเข้ามาในแคมป์คนงาน ได้ทำการกราดยิงคนงานเสียชีวิตก่อน 2 คน ซึ่งเป็นชาวเนปาลสักพักกลับมาผู้ก่อร้ายกลับมากราดยิงอีกครั้ง ตอนนั้นคนไทยได้พยายามหลบหนีแล้ว ส่วนตัวหลบอยู่อีกที่โดยมีกราดยิงและโยนระเบิดยิงเสร็จปาระเบิดต่อ จนเกิดเหตุไฟไหม้ จากนั้นกลุ่มก่อการร้ายก็เดินเปิดห้อพักคนงานกราดยิงและโยนระเบิดใส่  สำหรับแคมป์คนงานที่ตนเองพักอยู่มีคนไทยอยู่จำนวนมาก มี 6 ห้อง ห้องที่นายไม้อยู่เป็นห้องหมายเลข 5 โดยโดนระเบิดไฟลุกไหม้ทั้งห้อง เท่าที่รู้ข้อมูลคาาดว่ามีผู้เสียชีวิต 23 คน ชาวเนปาล 10 คน คนไทยสูญเสียชีวิตและสูญหายอีก 13 คน