เข้าสู่ฤดูฝนหรืออากาศมีความชื้นสูงเมื่อไหร่ ปัญหาผิวหนังสุดฮิตอย่าง ‘กลากเกลื้อน’ ก็เริ่มกลับมาให้พบเห็นกันหนาตาขึ้นอีกครั้ง โดยกลากเกลื้อน เป็นการติดเชื้อราที่ผิวหนังชนิดหนึ่ง เกิดจากเชื้อรากลุ่ม Dermatophytes ซึ่งเชื้อราเหล่านี้สามารถเจริญเติบโตได้ดีในสภาพแวดล้อมที่อบอุ่นและชื้น มักพบบริเวณที่มีเส้นผม ผิวหนังชั้นนอก และเล็บ สำหรับคนที่มีคำถามว่าแล้วเราจะรักษากลากเกลื้อนให้หายขาดได้ไหม หรือมีวิธีการรักษากลากเกลื้อนให้หายขาดได้อย่างไรบ้าง สามารถหาคำตอบได้ในบทความนี้

    อาการเบื้องต้นที่ควรรู้ของกลากเกลื้อน
    ก่อนจะไปรู้คำตอบว่าจะสามารถรักษากลากเกลื้อนให้หายขาดได้ไหม และจะสามารถรักษาได้ด้วยวิธีใดบ้าง อันดับแรกเราต้องมาทำความรู้จักกับอาการเบื้องต้นของโรคนี้กันเสียก่อน โดยอาการของกลากเกลื้อนที่สามารถสังเกตเห็นได้ชัดเจนด้วยตาเปล่า ได้แก่ เป็นผื่นแดง มีอาการคัน ตกสะเก็ด โดยผื่นหรือสะเก็ดนั้นมีลักษณะเป็นวงแหวนหรือรูปตัววี มักพบบริเวณลำตัว แขน ขา ศีรษะ หรือเล็บ

    ตอบคำถามคาใจ กลากเกลื้อนรักษาให้หายขาดได้ไหม?
    แม้จะเป็นโรคทางผิวหนังที่ชื่อฟังดูน่ากลัว แต่ในความเป็นจริงแล้ว กลากเกลื้อนไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด หากได้รับการรักษาอย่างถูกวิธี ก็สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่อาจจะใช้เวลานานหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรคนั่นเอง

    วิธีการรักษากลากเกลื้อนให้หายขาด
สำหรับใครที่กำลังเผชิญปัญหาผิวหนังประเภทนี้แล้วต้องการรักษาโรคกลากเกลื้อนให้หายขาด ก็สามารถทำได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ รวมถึงดุลยพินิจของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและเภสัชกร โดยทั่วไปมีแนวทางการรักษาดังนี้

  • การรักษาด้วยยาทา เช่น ยาฆ่าเชื้อรากลุ่มอิมิดาโซล ยาทาสเตียรอยด์ ควรทายาให้ทั่วบริเวณที่เป็นผื่น อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 2-4 สัปดาห์ หรือจนกว่าอาการจะหายไป หากอาการไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาการรักษาด้วยยารับประทาน
  • การรักษาด้วยยารับประทาน ควรรับประทานยาตามคำแนะนำของแพทย์ โดยทั่วไปจะรับประทานยาเป็นเวลา 2-4 สัปดาห์ หรือจนกว่าอาการจะหายไป
  • การรักษาแบบอื่น ๆ หากโรคมีอาการรุนแรงจนการรักษาด้วยยาทาหรือยารับประทานไม่ได้ผล อาจพิจารณาการรักษาแบบอื่น เช่น การฉายแสงเลเซอร์ การกำจัดเชื้อราด้วยเลเซอร์ 

    การป้องกันกลากเกลื้อน
โดยทั่วไปกลากเกลื้อนสามารถแพร่กระจายได้จากการสัมผัสกับเชื้อราโดยตรงหรือโดยสัมผัสกับสิ่งของที่มีเชื้อราเกาะอยู่ ซึ่งเราสามารถป้องกันได้ดังนี้

  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้ป่วยที่เป็นโรคกลากเกลื้อน
  • ไม่ปล่อยให้ผิวกายเกิดความอับชื้น
  • รักษาความสะอาดของร่างกายและเสื้อผ้า
  • หลีกเลี่ยงการใส่เสื้อผ้าที่คับเกินไป
  • ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่อ่อนโยน

    สรุปแล้ว เราสามารถรักษากลากเกลื้อนให้หายขาดได้ แต่ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์หรือเภสัชกร เพื่อความปลอดภัยและทำให้การรักษาเกิดประสิทธิภาพสูงสุด