บึงสีไฟแหล่งน้ำใหญ่ กลางใจเมือง พิจิตร จากอดีตเคยแห้งแล้ง ถึงขั้นไฟไหม้วัชพืชในบึงสีไฟล่าสุด กรมเจ้าท่า-กรมทรัพยากรน้ำได้มีการขุดลอก เพื่อให้บึงสีไฟเป็นแก้มลิง เพื่อกักเก็บน้ำ แก้ปัญหาน้ำท่วมภัยแล้ง แต่นานนับ 10 ปี ไม่เคยมีปรากฏการณ์ว่าน้ำจะเต็มบึงสีไฟแต่วันนี้ชลประทานพิจิตรเปลี่ยนวิกฤตน้ำหลากเป็นโอกาสเติมน้ำเข้าบึงสีไฟเต็มเพียบ100%แล้วทั้งนี้เพื่อรักษาระบบนิเวศและส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองชาละวัน
วันนี้ 3 ตุลาคม 2566 นายเอกฉัตร เอี่ยมตาล ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพิจิตร พร้อมด้วยนายวิทูร เกิดอินทร์ หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำและปรับปรุงระบบชลประทาน พร้อมเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำจากข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ที่ให้ใช้น้ำและ บริหารจัดการน้ำอย่างปราณีต โดยได้พาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปดูปริมาณน้ำในบึงสีไฟบริเวณด้านหลังสนง.ชลประทานพิจิตร ซึ่งมีอุปกร์เป็นเสาวัดระดับน้ำและกล้อง CCTV ที่ใช้สำหรับติดตามระดับน้ำแบบออนไลน์ 24 ชั่วโมง
โดยพบว่าเมื่อวานที่ผ่านมาและวันนี้ระดับน้ำในบึงสีไฟมีปริมาณน้ำ 12.64 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 100% นับได้ว่าเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี หลังจากที่โครงการชลประทานพิจิตร ทำการส่งน้ำเข้าบึงสีไฟเป็นระยะๆอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในช่วงฤดูน้ำหลาก
เพื่อให้บึงสีไฟเป็นแก้มลิง ใช้เพื่อการรับน้ำ และจะได้เก็บน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้ง รวมถึง รักษาระบบนิเวศและส่งเสริมการท่องเที่ยวของบึงสีไฟ ซึ่งถือเป็นความสำเร็จ ครั้งแรกในรอบ 10 ปี ที่สามารถใช้บึงสีไฟกักเก็บน้ำ ได้เต็มที่ 100%
โดย นายเอกฉัตร เอี่ยมตาลผอ.โครงการชลประทานพิจิตร เผยว่า ระดับน้ำในบึงสีไฟในเนื้อที่ 5,390 ไร่ มั่นใจว่าจะคงความสมบูรณ์แบบนี้ไปได้อีกประมาณเกือบ 1 เดือน หากไม่มีการผันน้ำออกไปใช้เพื่อการเกษตรในพื้นที่นารอบๆบึงสึไฟ แต่น้ำ ในบึงสีไฟแห่งนี้ จะเป็นน้ำซึมน้ำซับให้ เกิดความอุดมสมบูรณ์ในระบบน้ำใต้ดินและรักษา นิเวศวิทยาในหลากหลายมิติอีกด้วย