จากกรณีกองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) หรือกองคดีฮั้วประมูล ได้ออกหมายเรียก 58 บริษัท ในระหว่างวันที่ 18-20 ก.ย.66 ซึ่งเป็นบริษัทที่เคยยื่นซื้อซองราคาในโครงการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ แต่ไม่เข้าร่วมในขั้นตอนการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ซึ่งเป็นโครง การที่มีบริษัทของ "กำนันนก" ในฐานะกรรมการบริษัท รับโครงการจากหน่วยงานภาครัฐ ตั้งแต่ปี 2554 ถึงปัจจุบัน ที่มีมูลค่าวงเงินสัญญาตั้งแต่ 30 ล้านบาทขึ้นไปของ บริษัท ป.พัฒนารุ่งโรจน์ก่อสร้าง จำกัด และ บริษัท ป.รวีกนก ก่อสร้าง จำกัด รวมทั้งหมด 20 โครงการ และวานนี้ (2ต.ค.66) พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีดีเอสไอ ได้มีคำสั่งรับกรณีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษที่ 82/2566 ให้สอบสวนการกระทำที่มีพฤติการณ์ที่ควรสงสัย รวม 19 โครงการ ซึ่งอยู่ในความรับผิดของ 3 หน่วยงาน ประกอบด้วย กรมทางหลวง 8 โครงการ กรมทางหลวงชนบท 4 โครงการ และกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น 7 โครงการนั้น
ล่าสุด วันที่ 3 ต.ค.66 พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า ทางดีเอสไอได้มีการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเร็วๆ นี้จะมีการปฏิบัติการตรวจค้นสถานที่ และบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการจัดให้มีการฮั้วประมูล ซึ่งยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะเป็นจุดใดส่วนความคืบหน้าของ 19 โครงการที่มีมูลค่ามากกว่า 30 ล้านบาทนั้น ตอนนี้ดีเอสไอยังคงดำเนินการตรวจสอบในทุกๆประเด็นอยู่ และยังไม่ได้ตัดโครงการใดทิ้ง ซึ่งมีทั้งพยานหลักฐานที่รวบรวมได้ จะเห็นได้ว่ามีการดำเนินการจัดให้มีการฮั้วประมูลเกิดขึ้นจริง และมีการตกลงสมยอมกันแล้ว ซึ่งบุคคลที่ดำเนินการในเรื่องนี้เป็นคนกลุ่มเดียวกัน ดังนั้น ดีเอสไอจะตรวจสอบในทุกๆโครงการอย่างละเอียด และสุดท้ายแล้วโครงการไหนที่พบว่ามีการทุจริตก็จะมีการดำเนินการเอาผิดกับทุกๆโครงการ
พ.ต.ต.สุริยา กล่าวว่า ส่วนที่มีรายชื่อบริษัทที่ออกหมายเรียก 58 บริษัทนั้น หากมองอีกมุมหนึ่ง คนกลุ่มนี้อาจจะไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรก็ได้ ซึ่งเรื่องนี้ดีเอสไอจะต้องใช้ความรอบคอบในการตรวจสอบ เพื่อให้ความเป็นธรรมกับบริษัทดังกล่าวด้วยเหมือนกัน และหลังจากนี้จะมีการเชิญบริษัทที่มีความเกี่ยวข้องเข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติม พร้อมทั้งมีความเป็นไปได้ที่จะส่งพนักงานสอบสวนเข้าไปสอบปากคำกำนันนกในเรือนจำกลางพิเศษกรุงเทพมหานคร
"นอกจากนี้หากในการสอบสวนพบว่ามีรายชื่อของเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง ก็จะมีแจ้งข้อกล่าวหาในขั้นตอนถัดไป ซึ่งตั้งสมมติฐานไว้ว่าอาจจะมีเจ้าหน้าที่รับเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ขอตรวจสอบให้รอบความอีกครั้ง โดย ดีเอสไอ คาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 2 เดือน ในการรวบรวบพยานหลักฐาน เพื่อชี้ชัดในการเอาผิดบุคคลใดเพิ่มเติมได้บ้าง"พ.ต.ต.สุริยา กล่าว