ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า เมื่อวันที่ 27 ก.ย.66 เวลา 23.30 น. วั พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผบ.ตร พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผบ.ตร. สั่งการให้ พล.ต.ต.ภานพ วรธนัชชากุล ผบก.สปพ. พ.ต.อ.ประสงค์ อานมณี รองผบก.สปพ. พ.ต.อ.วสันต์ ธวัชชัยวิรุตษ์ ผกก.สายตรวจ พ.ต.ท.โชติช่วง รัศมี, พ.ต.ท.คงศักดิ์ ศรีโหร รอง ผกก.สายตรวจ นำกำลังตำรวจ 191 สภ.เมืองนครปฐม เข้าตรวจสอบบ้านใน ซ.ลำพยา-บอสโก 2 ต.โพรงมะเดื่อ อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม หลังสืบทราบว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นแหล่งพักยาเสพติดของเครือข่ายค้ายาเสพติด
ที่เกิดเหตุเป็นทาวน์เฮาส์สองชั้น เจ้าหน้าที่ได้นำ กำลังปิดล้อมเพื่อทำการตรวจค้นโดยในเบื้องต้นสามารถจับกุมผู้ต้องหาเป็นชายได้ทั้งหมดสี่ราย คือนายชลิต อายุ 39 ปีอยู่หมู่ที่ 2 ตำบลทัพหลวง อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม,นายอภิชาติ อายุ 38 ปี,นายจรัญ อายุ 38 ปี และนายวัชระ อายุ 36 ปี พร้อมตรวจยึดของกลางยาบ้า 15 ล้านเม็ด เฺฮโรฮีน 443 แท่ง ไอซ์ 420 กิโลกรัม และยาเสพติดประเภทแฮปปี้วอเตอร์และยาไฟว์ไฟว์ อีกจำนวนมาก
โดย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า ตามนโยบายของรัฐบาลที่สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เร่งรัดปราบปรามยาเสพติดซึ่งเป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบในวงกว้าง จึงได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานบูรณาการร่วมตรวจสอบ โดยทางตำรวจ 191 ได้ทำการแกะรอยขยายผลจากกลุ่มเครือข่ายที่ถูกจับกุมก่อนหน้า จนพบความเชื่อมโยงมาถึงกลุ่มผู้ต้องหาโดยใช้เวลาในการแกะรอยติดตามฟอกพฤติกรรมมานานกว่าสองปี โดยของกลางที่ตรวจยึดได้มีมูลค่ารวมกว่า 300 ล้านบาท ซึ่งถือว่ามากที่สุดเท่าที่มีการจับกุม ซึ่งทางนายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการเน้นย้ำนโยบายปราบยาเสพติดและการท่องเที่ยว โดยหลังจากนี้ได้จะทำการขยายผลหาความเชื่อมโยงของเครือข่ายต่อไป
ขณะที่พล.ต.ท.สำราญ กล่าวว่า จากแนวทางสืบสวนพบว่าขบวนการนี้จะลำเลียงยาเสพติดมาจากประเทศเพื่อนบ้านทางฝั่งเหนือก่อนที่จะนำเข้ามาตามเส้นทาง โดยก่อนหน้านี้มีการใช้บ้านในแถบชานเมืองปริมณฑล เป็นแหล่งพัก แต่ภายหลังมีการจับกุมผู้ต้องหาคือนายวราวุธ 36 ปี ในความผิด มีอาวุธปืนไว้ในความครอบครอง อีกทั้งยังเป็นผู้ต้องหาในข้อหาสมคบเพื่อการฟอกเงินของทางบช.ปส. ทางเครือข่ายจึงได้ยักย้ายยาเสพติดมารวมกันไว้ที่บ้านหลังนี้ เพื่อเตรียมที่จะกระจายให้กับกลุ่มเอเย่นรายย่อย จึงได้นำกำลังเข้าตรวจสอบ ก็พบของกลางอยู่ในบ้านดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ ได้ทำการแจ้งข้อกล่าวหามียาเสพติดให้โทษประเภทที่1 ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ,ร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 ไว้ในความครอบครองเพื่อขาย โดยไม่ได้รับอนุญาต นำตัวส่งพนักงานสอบสวนบช.ปส.ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป