วันที่ 24 กันยายน 2566 จากกรณีที่ผู้เฟสบุ๊กชื่อ พรรณี เอกวงษ์ ได้พสต์ข้อความลงใน เพจหนองมีดี(รักษ์หนองแค) ข้อความว่า “อยากรู้ครับว่าตำรวจหนองแคทำไมปล่อยคนที่มันขโมยรถจักรยานยนต์อออกมาก่อเหตุซ้ำแล้วซ้ำเล่าจับแล้วปล่อย จับแล้วปล่อย ทั้งที่มีเจ้าทุกข์แจ้งความต้องให้ชาวบ้านอยู่อย่างหวาดผวาไปถึงไหนฝากถึงผู้กำกับหนองแคด้วย ผมว่าตำรวจทุกคนรู้ว่าบ้านมันอยู่ไหนถ้าไม่รู้อินบ๊อคมาได้ ผมคือผู้เสียหายคนหนึ่ง #เด็กหัวหนองหนองไข่น้ำ#สจ.เฮี๊ยง สส.เม้ง#ผกก.สถิตย์ อย่าสร้างแต่พระอย่างเดียว จับคนร้ายด้วยสุดที่รัก” โดยมีอีกหลายโพสต์หลายข้อความ ซึ่งมีกลุ่มโซเชียล ได้แสดงความคิดเห็นกันต่างๆ นาๆเป็นจำนวนมาก
วันนี้ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ อำเภอหนองแคหลังทราบข่าวว่ามีคนร้ายเข้ามาขโมยผ้า ที่ลูกค้านำมาซัก ในร้านซักผ้า Otteri เลขที่ 39/33 ริมถนนขาเข้านิคมเหมราช ต.หนองไข่น้ำ อ.หนองแค จ.สระบุรี โดยมีนายมีนายเอกมนัส (ท็อป) อายุ 36 ปีเป็นเของร้าน ได้นำคลิปภาพจากกล้องวงจรปิด ให้ดู ซึ่งในคลิป เห็นได้ว่าช่วงวันที่ 11กันยายน ที่ผ่านมา เวลา 02.22 น. ได้มีคนร้ายขี่จักรยานยนต์ สีน้ำเงิน สวมเสื้อยืดสีน้ำเงิน กางเกงขายาว มีผ้าขาวม้าคาดคอ มาจอดหน้าร้าน จากนั้นเดินเข้าไปในร้าน และยกเอาตะกร้าผ้าที่ซักไว้แล้วใสรถจักรยานยนต์ขับหนีออกไป
ทางด้านนายท็อป เล่าว่าตนเองเปิดร้านซักผ้า 24 ชม. ซึ่งได้ถูกคนร้ายเข้าก่อเหตุภายในร้าน ถึง 2 ครั้งแล้ว ครั้งแรกเข้ามาก่อเหตุ เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ที่ผ่านมาซึ่งครั้งนั้นคนร้ายได้เข้ามาหยิบ เอาน้ำยาซักผ้าของตนเองไป และมาครั้งนี้คนร้ายคนเดียวกัน ได้เข้ามาก่อเหตุซ้ำอีก โดยครั้งนี้คนร้ายได้เข้ามาเอา เอาเสื้อผ้าในตะกร้าผ้า ของลูกค้าที่ซักไว้แล้วฝากตั้งอยู่ภายในร้าน ว่าดึกๆจะเข้ามาเอา แต่เมื่อลูกค้าเข้าเอากลับไม่พบตะกร้าผ้า ตนจึงได้ไปเปิดกล้องวงจรปิดดูจนรู้ว่ามีคนร้ายเข้าขโมย ยกตะกร้าผ้าไป ตนจึงได้ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองแค ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ทราบว่าคนร้ายคือนายอนุวรรษ (แม็ก) อายุ 27 ปี แต่ก็ยังไม่จับกุมมาดำเนินคดี ซึ่งตนเองเกรงว่าคนร้ายจะเข้ามาก่อเหตุขณะที่ลูกค้านำผ้าซัก และอยู่คนเดียวเวลาดึก เกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย และเมื่อตนเองโพสต์ลงในสื่อโซเชียล พ่อของนายแม็ก คนร้ายยังโทรมาหาตนโดยบอกว่าให้ตนนำเจ้าหน้าที่ตำรวจมาจับลูกชายตนเองไปด้วย
ทางด้านนางพรรณี เอกวงษ์ อายุ 54 ปี เล่าว่าตนเองจอดรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ 125 สีน้ำเงิน ไว้หน้าบ้าน จากนั้นได้มีนายอนุวรรษ (แม็ก) จันทโชติ เข้ามาขึ้นค่อม และขับหนีหายออกไป ซึ่งตนเองคิดว่าหลานของตนเองขี่รถออกไปจึงไม่ได้คิดอะไร และเมื่อสอบถามหลานจนทราบว่าได้ขับรถไปไหน ตนจึงได้ไปสอบถามเพื่อนบ้านจนทราบว่ามีคนเห็น นายแม็ก ได้ขับรถของตนไปโชคดีที่เพื่อนบ้านรู้จักบ้านของนายแม็ก และได้ไปตามรถกลับมาให้ตนเองได้ กว่าจะได้คืนก็ผ่านไป 2-3 วัน และเมื่อได้รถคืนมาตนเองก็รู้สึกดีใจ
ทางด้านนางสาวปาริฉัตร อายุ 26 ปี เล่าว่า นายอนุวรรษ (แม็ก) ก็เป็นญาติๆกับบ้านของตน ซึ่งรถที่หายไปเป็นรถจักรยานยนต์ของพ่อตนเอง ได้จอดไว้บนถนนหน้าบ้าน ซึ่งรถพ่อซื้อต่อมาจากเพื่อน รถของตนเองไม่ต้องใช้กุญแจก็สตาร์จได้ จากนั้นนายแม็ก ได้มาสตาร์จขับรถไปได้ 2 วันพ่อตนจึงให้เพื่อนที่ซื้อรถมาไปลงบันทึกประจำวันไว้ เนื่องจากว่ายังไม่ได้โอนรถกัน อีกวันหนึ่งก็มีรถกลับมาจอดอยู่ที่เดิม ซึ่งนายแม็ก ก็เป็นหลานของพ่อเอง ซึ่งครั้งนี้พ่อตนเองก็ไม่ได้ล็อกล้อรถ เพราะคิดว่าหลานคงจะไม่ทำอีกแล้ว จากนั้นนายแม็ก ก็มาเอารถของพ่อไปอีกตอนกลางวัน ซึ่งพ่อของตนเองนอนอยู่ในบ้าน และเมื่อจะเอารถไปซื้อของก็พบว่ารถไอยู่แล้ว และเมื่อนายแม็ก กลับมาบ้านก็ให้แม่ของนายแม็ก เอากระดาษที่เขียนจดหมายไว้ เอามาให้แม่ของตนเอง โดยเขียนว่า รถได้เอาไปจำนำไว้ 700 บาท ตอนนี้ก็ยังไม่ได้ไถ่รถออกมา และเมื่อพ่อของตนเองได้บอกกับนายแม็ก ว่าให้เอารถมาคืนแล้วจะไม่เอาเรื่อง จากนั้นนายแม็ก ยังกลับมายืมโทรศัพท์ของพ่อตนอีก โดยบอกว่า จะโทรหาคนที่เอารถไปจำนำให้เอารถมาคืน พอพ่อตนเองให้ยืมไป นายแม็ก ก็เอาไปโทรแล้วก็เอาโทรศัพท์ของพ่อตนไปอีกจากนั้นพ่อตนจงได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.หนองแค นางสาวปาริฉัตร กล่าวเสริมว่า นายแม็ก เป็นคนที่ติดยาเสพติด เข้าออกคุกมาหลายครั้ง พอออกมาก็มาก่อเหตุแบบนี้ทุกครั้งไป ซึ่งนายแม็กจะออกตระเวนขโมยรถตามบ้านคนที่รู้จัก ซึ่งนายแม็ก ก็เคยติดคุกมาแล้ว ไปบำบัดมาก็หลายครั้งแล้ว ทำมาทุกอย่างก็ไม่เลิกยาออกคุกมาก็มาก่อเหตุแบบนี้
เสียงจากชาวบ้านบอกว่าทุกวันนี้อยู่ด้วยความหวาดผวา เนื่องจากนายแม็ก ตะเวนก่อเหตุซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ยอมจับ จับแล้วก็ปล่อยออกมาก่อเหตุอีก เกรงว่าวบ้านจะไม่ได้รับความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สิน จึงอยากวอนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับตัวไปดำเนินคดี
