NEW MG4 ELECTRIC ไฟฟ้า 100% พร้อมแคมเปญพิเศษเดือนกันยายน “MG อัดแคมเปญ MG4 ELECTRIC กระตุ้นยอด EV ช่วงโค้งสุดท้ายก่อนหมดมาตรการรัฐ”
       
NEW MG4 ELECTRIC ถือเป็นโกลบอลอีวีที่ เอ็มจี ใช้เป็น “หัวหอก” ในการบุกตลาดทั่วโลก โดยถือเป็น “อีวี สายพันธุ์แท้” ที่พัฒนาขึ้นบนแพลตฟอร์ม NEBULA PURE ELECTRIC ออกแบบมาสำหรับรถไฟฟ้าโดยเฉพาะ เปิดตัวและทำตลาดอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนกันยายน 2022 โดยวางตำแหน่งให้เป็น “แฮทช์แบคไฟฟ้าที่มีระบบขับเคลื่อนล้อหลัง” กับจุดเด่นในการเป็นรถไฟฟ้าที่ขับสนุก จนได้รับการยกย่องจากสื่อหลายสำนักทั่วโลกให้เป็น “รถไฟฟ้าที่มีความโดดเด่นในเรื่องการขับขี่และคุ้มค่าที่สุดในตลาด” และรางวัลใหญ่ในยุโรป อาทิเช่น รางวัล UK CAR OF THE YEAR 2023 และการได้รับคัดเลือกเป็นรถที่โดดเด่นที่สุดใน Compact Segment จาก GERMAN CAR OF THE YEAR 2024  ทำให้ MG4 มีจำนวนยอดส่งออกแล้วกว่า 57,000 คันทั่วโลกในปี 2023 (ยอดเดือน มกราคม – สิงหาคม 2023) ถือเป็นโมเดลที่ผลักดันให้วงการอีวีของ เอ็มจี ไปสู่อีกขั้นในตลาดโลก

       NEW MG4 ELECTRIC ถูกออกแบบและพัฒนาให้เป็น “รถยนต์ไฟฟ้า100% ที่มีระบบขับเคลื่อนล้อหลัง” (DYNAMIC REAR WHEEL DRIVE) ที่มาเพิ่มประสบการณ์การขับขี่รถพลังงานไฟฟ้า ให้สนุกสนาน เร้าใจยิ่งขึ้น (FUN TO DRIVE) ด้วยขุมพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 170 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร มาพร้อมกับเทคโนโลยี RUBIK’s CUBE BATTERY ขนาดความจุ 51 kWh จัดเรียงเซลล์แบบแนวนอนและระบายความร้อนด้วยระบบ Liquid Cooling system สามารถวิ่งในระยะทางไกลสูงถึง 425 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NEDC) 

       NEW MG4 ELECTRIC เป็นรถไฟฟ้าที่มีการกระจายน้ำหนักแบบสมมาตรที่ 50:50 อีกทั้งตัวถังมีจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำ (LOW CENTRE OF GRAVITY) สอดคล้องกับช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระ แมคเฟอร์สันสตรัทและด้านหลังอิสระแบบ 5-Link Suspension ทั้ง 2 รุ่นย่อย ที่ไม่เพียงแค่ลดแรงสั่นสะเทือนจากพื้นผิวท้องถนนได้ดีเยี่ยมเท่านั้น แต่ยังเพิ่มประสิทธิภาพในการเกาะถนนได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย บุคลิกของรถรุ่นนี้จึงมีความคล่องแคล่ว ตอบโจทย์การขับในเมือง  การเลี้ยวในทางแคบจึงไม่เป็นปัญหา รัศมีวงเลี้ยวเพียง 5.3 เมตร และมี Overhang ด้านหน้าและหลังของรถที่สั้นเป็นรถไฟฟ้าที่สามารถปรับโหมดการขับขี่ได้ค่อนข้างละเอียดเลยทีเดียว มีให้เลือกมากถึง 5 โหมด ได้แก่ SNOW, ECO, NORMAL, SPORT และ CUSTOM ที่สามารถตั้งแค่ได้ทั้งน้ำหนักพวงมาลัย + อัตราเร่ง + แรงที่ใช้ในการเหยียบเบรก สไตล์การขับขี่ของใครเป็นแบบไหน ก็ตั้งเอาเลย

       
สังเกตได้ว่า เทคโนโลยีที่ MG หยิบใส่มาในรถรุ่นนี้ ล้วนส่งเสริมในเรื่องสมรรถนะการขับขี่ทั้งสิ้น และมาแบบไม่กั๊กเลยแม้แต่น้อย 
      
 อีกหนึ่งความเหนือของ NEW MG4 ELECTRIC ที่มาช่วยปลดล็อกความกังวลคนไทยในเรื่องความอันตรายจากการใช้งานรถไฟฟ้า คือ แพลตฟอร์มใหม่อย่าง NEBULA PURE ELECTRIC ซึ่งโครงสร้าง “เนบิวลา” พัฒนาขึ้นเพื่อยนตรกรรมไฟฟ้าโดยเฉพาะ สามารถปรับใช้กับรถยนต์ไฟฟ้าได้หลายเซกเมนต์ รองรับแบตเตอรี่ได้หลากหลายความจุ และที่สำคัญแบตเตอรี่ถูกติดตั้งเป็นชิ้นเดียวกับโครงสร้างตัวรถจึงได้รับการปกป้องมากยิ่งขึ้น 
     
 นวัตกรรมแบตเตอรี่ CELL TO PACK จัดเรียงเซลล์แบบแนวนอนมีความบางเพียง 110 มิลลิเมตรช่วยลดขนาดและระบายความร้อนได้เป็นอย่างดีติดตั้งเป็นชิ้นเดียวกับโครงสร้างตัวรถ ทำให้ห้องโดยสารมีพื้นที่ใหญ่ขึ้น มอเตอร์มีขนาดเล็กลงแต่ให้สมรรถนะสูงถึง 16,500 รอบต่อนาที มีการพัฒนาซอฟท์แวร์ Battery Management System ให้ดียิ่งขึ้น ในอนาคตมีโอกาสที่แบตเตอรี่จะมีขนาดเท่าเดิมแต่ประสิทธิภาพ และระยะทางสามารถวิ่งได้ไกลขึ้น ฟังก์ชันอำนวยความสะดวกจัดว่าเพียงพอต่อการใช้งาน รองรับการชาร์จไฟกระแสตรง DC สูงสุด 88kW และการชาร์จแบบเร็ว หรือ Quick charge จาก 10% - 80% ในเวลาเพียง 35 นาที ถ้าเทียบกับรถไฟฟ้าในกลุ่มเดียวกันถือว่าชาร์จได้เร็วเลยทีเดียว อีกทั้งยังสามารถเป็นแหล่งจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายนอกรถด้วยระบบ V2L
      
 ช่วงโค้งสุดท้ายก่อนโยบายส่วนลดมาตรการส่งเสริมจากภาครัฐจะหมดลงในช่วงสิ้นปี ทาง เอ็มจี จัดแคมเปญพิเศษให้กับลูกค้าทุกท่านที่สนใจเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้า NEW MG4 ELECTRIC รุ่น X อยู่ที่ราคา 869,000 บาท (จากราคาปกติ 969,000 บาท) และ รุ่น D อยู่ที่ราคา 769,000 บาท (จากราคาปกติ 869,000 บาท) พร้อมรับฟรี  ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. คุ้มครอง นาน 1 ปี  มอบการรับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร และชุดพรมปูพื้น สำหรับลูกค้าที่จองภายในวันที่ 1 กันยายน 2566 ถึง 30 พฤศจิกายน 2566
     
 ลูกค้าท่านใดสนใจสามารถไปทดลองขับได้ที่โชว์รูมรถยนต์เอ็มจีที่ได้รับสิทธิ์การจำหน่ายรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% อย่างเป็นทางการทุกแห่งทั่วประเทศ และจองผ่านช่องทางออนไลน์ที่ https://onlinebooking.mgcars.com/ หรือทางแอพพลิเคชั่น MG Thailand และตอนนี้ เอ็มจี ออกมาโชว์ความแข็งแกร่งของระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า ลูกค้าสามารถใช้บริการชาร์จเร็วได้ที่สถานี MG SUPER CHARGE ที่ปัจจุบันมีมากกว่า 137 สถานี ทั่วประเทศ เพื่อความสะดวกและหมดความกังวลในเรื่องการเดินทางไกล
     
 จากแคมเปญนี้ NEW MG4 ELECTRIC รุ่นท๊อปที่ราคา 869,000 บาท จึงมีราคาที่เคียงใกล้กับคู่เทียบอย่าง DYD DOLPHIN ในรุ่นท๊อปอยู่ที่ราคา 859,999 บาท ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าสัญชาติจีนเหมือนกัน ใครที่กำลังมองหารถไฟฟ้าก็ดูจะเป็นช่วงเวลาที่ดีไม่น้อย