ต่อมาเมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 20 ก.ย. หลังใช้เวลาตรวจสอบนาน 1 ขั่วโมง พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น. กล่าวว่า จากการตรวจสอบจุดเกิดเหตุในวันนี้เป็นสถานที่ใช้ทำร้ายร่างกายลูกวัย 12 ปี และ 4 ขวบ พบหลักฐานวัตถุพยานซึ่งเชื่อได้ว่าเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีและพบจดหมายการเขียนของภรรยา เป็นการระบายความในใจเชิงตัดพ้อที่ถูกข่มขู่จากสามี เจ้าหน้าที่จะนำไปวิเคราะห์ในทางจิตวิทยาโดยหลักฐานในส่วนนี้ให้ พฐ.เก็บไปหมดแล้ว และพบไฟแช็ค อาวุธมีด 3 เล่ม 1 ใน 3 เล่มปรากฏว่า มีร่องรอยการลนไฟ ต้องให้กองพิสูจน์หลักฐานตรวจให้ละเอียดเพื่อความสอดคล้องต้องกับคำรับสารภาพของภรรยาว่า ถูกสามีบังคับที่ใช้มีดลนไฟแล้วมาจี้ตัวเอง 

พล.ต.ต.นพศิลป์กล่าวว่า ในส่วนของเด็กอายุ 12 ปี รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล จะต้องมีการสอบสวนแพทย์ว่า บาดแผลจะเกิดจากอะไร สำหรับในจุดนี้ไม่ใช่สถานที่เหตุก่อเหตุ ฆ่าโบกปูนที่ จ.กำแพงเพชร เป็นอพาร์ตเมนต์อีกแห่งหนึ่ง แต่มีคนอื่นมาอยู่อาศัยแทนไปแล้ว ทั้งนี้เด็กอีก 4 คนที่หายไปจะต้องตรวจสอบให้ครบถ้วนทั้งหมดโดยศพของเด็กที่เสียชีวิตและนำไปทิ้งที่กองขยะซอยพหลโยธิน 56 นั้น ทาง น.ส.เจษฎา บอกว่า เมื่อลูกเสียชีวิตแล้วได้นำใส่ถุงพลาสติกแล้วเอาไปทิ้งไว้กับศาลพระภูมิ เหมือนกับว่าให้พระภูมิเจ้าที่ดูแล โดยในส่วนของ น.ส.เจษฎายังอยู่ระหว่างการสอบสวนและพิจารณาดำเนินคดีแจ้งข้อหาต่อไป


รองผบช น.กล่าว ทางผบช.น. ได้สั่งการให้รวบรวมคดีเป็นเรื่องเดียวกันแม้พฤติการณ์ทั้งหมดจะแยกกันโดยความผิดที่ชัดเจนคือศพที่จังหวัดกำแพงเพชร ส่วนศพที่เหลืออีก 4 ศพจะต้องมีการตรวจสอบ DNA ให้แมทกันก่อนว่า ศพที่บางซื่อและสายไหมเกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาจริง หากมีความผิดต่อเนื่องต่างกรรมต่างวาระ จะรวมเป็นเรื่องเดียวกันทั้งหมดให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้ต้องหา โดยผู้ต้องหายังให้การภาคเสธอยู่ พร้อมสั่งการให้ฝ่ายสืบสวนงพื้นทึ่เพื่อภาพถ่าย สอบปากคำ เด็กอีก 5 คนที่ยังมีชีวิตอยู่ให้เรียบร้อย เพื่อยืนยันว่าเด็กยังอยู่ในความปลอดภัย ส่วนผู้ต้องหาเคยรักษาตัวเป็นผู้ป่วยจิตเวชนั้นจะต้องมีการตรวจสอบให้ชัดเจน เพราะทราบว่ามีการรับยาครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2559 จะต้องไปสอบสวนแพทย์ ถึงสาเหตุที่หยุดรับการรักษา เพื่อจะได้ไม่มีข้อต่อสู้ในชั้นศาลต่อไป